ไม่ว่าใครก็ต้องการรถยนต์ที่ขับดูดี ขับสนุก ขับแล้วภาคภูมิใจ ที่สำคัญคือ มีรูปลักษณ์โดดเด่นสวยงามสะดุดตากันทั้งนั้น แต่จะมีรถแบบที่ว่าสักกี่คัน ที่มีคุณสมบัติตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเรา การซื้อรถสักคันนั้น มันต้องมีความเจ๋งอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในรถคันนั้นด้วย DNA ความเจ๋งที่ว่านี้แหละ เป็นจุดที่จะทำให้เรารู้สึกหลงใหลรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมากกว่าอีกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และแน่นอน ฟีลลิ่งการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้มข้นผ่านทุกยุคสมัย ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ที่ล้ำหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ DNA ของรถยนต์ MINI ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังมองหารถสักคันหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นรถที่ขับสนุก เร้าใจ ได้ฟีลลิ่งความมันส์เสมือนขับ Go-Kart ในสนามแข่ง และมีความแตกต่างเป็นตัวของตัวเองกว่าใครบนท้องถนน สะท้อนคาแรคเตอร์ของผู้ขับได้ทันที ก็คงจะเป็นรถยนต์จากค่ายอื่นไปไม่ได้ ด้วยสมรรถนะระดับตำนานที่เป็นเลิศจนยากจะมีใครเลียนแบบได้ ยังคงถูกถ่ายทอดต่อมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จนหลายคนถึงกับยกย่องให้รถยนต์จากค่าย MINI เป็นหนึ่งในตำนานที่ยังมีชีวิต และไม่เคยทิ้งจิตวิญญาณความเป็นตัวเองไปเลยแม้แต่น้อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เรียกว่าเห็นแค่เสี้ยวเดียวของรถ หรือได้ยินคำว่า MINI แม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจรถยนต์ ยังสามารถนึกภาพในหัวออกได้ทันที วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของรถยนต์ไซส์กะทัดรัด แต่สมรรถนะใหญ่เกินตัว จากต้นกำเนิดมาจนถึงยุคปัจจุบัน และหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยว่า ทำไม MINI ถึงได้กลายเป็นรถที่คนนิยมไม่เสื่อมคลาย คงต้องย้อนไปไกลถึงปี 1959 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีคนทั่วไปได้ทำความรู้จักกับแบรนด์รถยนต์
ผู้ชายกับ Supercar มันเกิดมาคู่กันแบบยากจะแยก บางคนชื่นชมผลงานการออกแบบทุกเส้นสาย บางคนก็ถึงขั้นอยากออกแบบสร้างมันขึ้นมาเองซะเลย ซึ่งถ้าพูดถึงการทำอะไรต้องสุดทาง คงไม่มีใครเกินคนญี่ปุ่นเป็นแน่ และคนที่มีชื่อเสียงสุด ๆ มีความอินกับรถ Supercar สุด ๆ ไล่ตามความฝันไปถึงขั้นเคยเป็น head of designer ให้กับ Ferrari และ Pininfarina ออกแบบรถสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อย่าง Ferrari Enzo และ Maserati ‘birdcage 75th’ ก็เป็นผลงานของผู้ชายสายเลือดบูชิโดที่ชื่อ Ken Okuyama Ken Okuyama ชายผู้ผันตัวมาสร้างสรรค์ผลงานน่าตื่นเต้นใหม่ ๆ ถูกใจเศรษฐีญี่ปุ่นกันมาแล้วก่อนหน้านี้ไม่นาน กับรหัส Kode9, the 1960’s italian racing cars ที่ผสมผสานกลิ่นอายของ Italian Supercar ให้เข้ากับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว มาถึงผลงานชิ้นล่าสุด Kode57 ที่อยู่ตรงข้ามกับความเรียบง่าย หันไปเน้นความฉูดฉาดจากพื้นฐานของ Ferrari แต่ถูกปรับแต่งดีไซน์ลายเส้นใหม่ให้ดูเก๋าสไตล์ Race car