ถ้าใครสนใจเรื่องวัฒนธรรมที่มีผลต่อการออกแบบและพฤติกรรมมนุษย์เหมือนเรา น่าจะรู้สึกแปลกใจในการเปลี่ยนแปลงความนิยมในหมู่มนุษย์ที่มีต่อรูปทรงและการใช้งานของมัน ในยุคก่อน เราเริ่มด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องใหญ่ยักษ์ จากนั้นเทคโนโลยีก็พยายามพัฒนาอย่างสุดความสามารถในการย่อขนาดมันให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนั้นยิ่งเล็กยิ่งล้ำ ยิ่งเล็กยิ่งแพง แต่แล้ววันนึง เราก็มาพบว่ารูปทรงโทรศัพท์เคลื่อนที่มีหน้าตาเหมือนกันทั้งโลกโดยมิได้นัดหมาย และวันนี้พวกเค้ากำลังแข่งกันใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ซึ่งดูแล้วน่าจะถึงจุดอิ่มตัวในไม่ช้า ทีนี้ถ้าเราให้ทายกันเล่น ๆ ว่า ต่อไปเทรนด์การออกแบบและใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน วันนี้เรากล้าฟันธงเลยว่า มันกำลังจะกลับไปสู่ความเป็น Dumb Phone หรือโทรศัพท์โง่ ที่ไม่ต้องมีความสามารถอะไรมากมาย เพราะคนเริ่มตีตัวออกห่างจากความวุ่นวายออนไลน์กันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Nokia ก็ได้ตอกย้ำเทรนด์ที่เราทำนายไว้อย่างชัดเจน ด้วยการเปิดตัว 3310 ที่ทำเอาโลกสั่นสะเทือน และพีคสุดอีกครั้งที่ทำเอาคนไม่สนใจ Samsung S9 ก็คือการเปิดตัว Nokia 8110 หรือกล้วยหอม ที่บอกตามตรงว่าเรายังอยากได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มี Dumb Phone ที่น่าสนใจ และเลือกมุ่งยึดพื้นที่นี้ก่อนใครเพื่อน นั่นก็คือโทรศัพท์ตระกูล Light Phone ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ปัจจุบันได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 2 แล้ว และมีความมั่นใจจากหลายสื่อว่า นี่แหละคืออนาคตของโทรศัพท์มือถือ นั่นคือการกลับคืนสู่สามัญ ที่เราเกริ่นมายาวนาน
ถ้าจะให้นึกถึงหนึ่งในภาพยนตร์ไตรภาคที่สร้างปรากฏการณ์บนจอเงินในปี 1999 และ 2003 แถมยังเท่สุด ๆ ชื่อของ The Matrix ก็ยังคงอยู่ในใจเสมอ ภาพการแสดงฉากบู๊สุดล้ำยุคของ Keanu Reeves ในบทบาทของ Neo ใน The Matrix, The Matrix Reloaded และ The Matrix Revolutions ยังคงติดตาพวกเราราวกับว่าหนังเรื่องนี้เพิ่งจะเข้าฉาย และไม่ใช่แค่เรื่องราวล้ำ ๆ มันส์ ๆ ที่เป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้เท่านั้น ยังมี gadget อีกหลายชิ้นที่ดูแล้วน่ามีไว้ครอบครอง หากใครจำกันได้ ใน The Matrix ภาคแรก จะมีฉากที่ Thomas Anderson พระเอกของเราตอนที่ยังไม่ได้ถูกเรียกว่า Neo รับซองพัสดุจากแมสเซ็นเจอร์ ก่อนแกะซองออกมาเจอโทรศัพท์มือถือ Nokia รุ่น 8110 เขารับสายที่โทรเข้ามาและได้พูดคุยกับ Morpheus เป็นครั้งแรก จากนั้นเรื่องราวสุดมันส์ก็ดำเนินต่อแบบพัลวัน มาถึงวันนี้ HMD ได้ปลุกชีพ Nokia
ย้อนกลับไปหาความวินเทจกับเกม Arcade ซึ่งยังเป็นอะไรที่มาแรงอยู่เสมอ อย่างเกมบอยก็ถูกนำมารีรันในรูปแบบพวงกุญแจให้เราได้เล่นกันอีกครั้ง ใครที่พลาดไปติดตามกันได้ที่ BACK TO BASIC: “พวงกุญแจเกมบอย” ของเล่นวัยเด็กที่คิดถึงกลับมาในรูปแบบพกพาง่าย เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา คราวนี้เกม Arcade กลับมาในรูปแบบสุดเท่ในกล่องไม้วินเทจ ให้เราเล่นได้แบบเต็มมือกับแป้นคอนโทรล เต็มตาด้วยจอขนาดพอดีโดยไม่ต้องต่อทีวีให้เสียเวลา วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปดูดีเทลของเจ้าตัวนี้กันดีกว่า แค่เห็นภาพก็ตาลุกวาวกันแล้วกับเจ้า “The Cary42” ที่เอาเกม Arcade ในวันวาน ใส่ให้มาแล้วกว่าร้อยเกม ไม่ว่าจะเป็น Metal Slug, Gauntlet และ Contra โดยไม่ต้องนั่งเหงาเล่นคนเดียวอีกต่อไป เพราะมาพร้อมคอนโทรลแบบเล่นด้วยกันได้สองคน หากเบื่อ ๆ สามารถเพิ่มเกมได้ด้วย USB เพราะมีพื้นที่มาให้แบบเหลือ ๆ (สำหรับเกม Arcade) 16GB บนจอ LCD ขนาด 12 นิ้ว ลำโพงในตัว แถมความสะดวกด้วยการสร้าง Personal Game Library ได้ แบบไม่ต้องตีกัน ส่วนงานดีไซน์เนี้ยบ ๆ นี้มาจากไม้ American Walnut แถมยังเป็นงาน Handcrafted อีกต่างหาก ขนาดภายนอกถ้าปิดกล่องลงอยู่ที่
เวลา Scroll down อัปเดตชิ้นงานดีไซน์ทางอินเทอร์เน็ตไปเรื่อย ๆ UNLOCKMEN มักเจอนวัตกรรมใหม่มีประโยชน์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มันส์ ๆ เสมอ แต่กับเจ้าชิ้นนี้เราสะดุดตาก่อนไปอ่านหัวข้อว่ามันใช้ทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะหน้าตาชวนเดจาวูของมันให้เราคิดถึงหนังญี่ปุ่นเลือดสาดชวนหนีตายอย่าง battle royal ที่ชวนเสียวรอบคอทุกที แต่เมื่อกดเข้าไปดัน contrast กับภาพติดตาเดิมแบบดำเป็นขาว เพราะไม่ได้เอาไว้ระเบิด ดันกลายเป็นของช่วยชีวิตสุดเท่หน้าตาเฉย ที่สำคัญยังมีความโปร่งใส่แล้วคอไม่ตัน แถมยังเคลมว่าเป็น WORLD’S TINIEST LIFE-JACKET หรือชูชีพมินิไซส์ที่พกไปที่ไหน ๆ ก็ได้ไม่ต้องรอสูบลมและยังมีความสุดยอดซ่อนอยู่อีกหลายชั้น Rainer Fakesch, T. Storti และ C. Rummel คือดีไซเนอร์ผู้ออกแบบ Ploota ให้แฮคไลฟ์สไตล์ผู้ชายที่ชอบเที่ยวทะเลจากคุณสมบัติน่าทึ่ง 4 สิ่ง ต่อไปนี้ มีระบบเซ็นเซอร์ฉลาด ตั้งเวลาหรือกดใช้งานเมื่อไรก็ได้ มันส์สะใจทุกกิจกรรม ใส่ไปว่ายน้ำ ดำดูปะการังก็ไม่ดีดขึ้นมาเองให้ลอยเท้งเต้ง 2. กู้ภัยด้วยไซส์พกพา เล็กกว่าชูชีพทั่วไป 50 เท่า 3. เบาไม่ถ่วงคอ เพราะหนักแค่เกือบ 3 ขีด (280
ด้วยนวัตกรรมในโลกที่ทุกอย่างก้าวไปไกลเกินเราจะคิดทัน ทั้งนี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวัน แต่ก็ดูเหมือนจะสะดวกมากไปเมื่อเจอกับ “self-driving slippers” หมดปัญหารองเท้าเกะกะไม่เป็นระเบียบ เพราะมันพาตัวเองไปหาคู่แล้วเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบได้ด้วยตัวเอง มาดูกันว่าเจ้านวัตกรรมชวนหัวแบบนี้ มีที่มายังไง UNLOCKMEN จะเล่าให้ฟัง เจ้ารองเท้าสุดเจ๋งนี้ NISSAN เป็นผู้ผลิตคิดค้นมันขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่มักจะเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ส่วนพื้นที่เปลี่ยนรองเท้า (foyer) นั้น เหล่าแม่บ้านอาจจะเคยปวดหัวกับความระเกะระกะของรองเท้าที่ถอดแล้วมันสะบัด กลิ้ง ไปผิดที่ผิดทาง แต่ไม่ต้องเหนื่อยใจกับปัญหาหยุมหยิมเหล่านี้อีกแล้วถ้าหากเรามีเจ้ารองเท้าที่จอดตัวเองได้เหมือนกับรถยนต์ไม่มีผิด โดยรองเท้าพวกนี้เริ่มต้นใช้ในโรงแรมในญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยี ProPilot Driving ของนิสสันเอง ใต้รองเท้านี้มีล้อจิ๋ว ๆ สองข้าง มอเตอร์ และเซ็นเซอร์เอาไว้ให้จอดเข้าซองได้แบบเซียนเหมือนมีคนขับนั่นเอง (นั่นมันรถแล้ว!) แต่ทั้งนี้ก็ยังมีระบบการจอดอยู่ใต้พื้นไม้ของโรงแรมอีกด้วย ถึงแม้จะดูเป็นนวัตกรรมที่เกินความจริงไปหน่อย แต่นิสสันกลับบอกว่านี่มันจริงจังนะเว้ย! เพื่อเอนเตอร์เทนแขกที่มาเข้าพักแล้วก็ยังลดหน้าที่ของพนักงานอีกต่างหาก มันเล่น ๆ ที่ไหนล่ะเนี่ย! และเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเดียวกับ Semi-Autonomous Nissan Leaf ที่นิสสันเข็นออกมาขายแบบเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่ปลายปีที่แล้วด้วย ซึ่งทางนิสสันกล่าวอีกว่า “The self-parking slippers นี่แหละที่จะทำให้คนเข้าใจถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี ว่ามันไม่ใช่แค่แอปพลิเคชั่นช่วยจอดแบบเจ้าอื่นในตลาด” พูดแล้วเหมือนจะโฆษณา (เปล่านะเปล่า)
อินโนเวชั่นของแต่ละยุคเรียกได้ว่าวิ่งแข่งแซงกันไปมาในแต่ละปีแบบไม่หยุดยั้ง รวมถึงเจ้าแป้นพิมพ์หรือที่เรียกทับศัพท์กันจนติดปากว่า “คีย์บอร์ด” ด้วยก็ตาม ยิ่งนับวันจะยิ่งบาง เรียบ ใช้ง่าย และไร้เสียงรบกวน แต่ความทรงจำอันหอมหวานของเรายังคงอยู่กับเจ้าเครื่องพิมพ์ดีด ที่หน้าตาโคตรเชยแต่มันคือจุดเริ่มต้นของการพิมพ์ความเร็วแสงของเราในปัจจุบัน แต่จะนำมาใช้อีกก็คงลำบาก วันนี้ UNLOCKMEN ขอแนะนำคีย์บอร์ดวินเทจแบบเครื่องพิมพ์ดีด ให้ทุกคนได้รำลึกถึงความหลังกันแบบเท่ ๆ Gadget สุดเจ๋งจาก AZIO คีย์บอร์ดสุดวินเทจ “RETRO CLASSIC BT Vintage Typewriter Bluetooth Backlit Mechanical Keyboard” ที่ให้คุณได้ย้อนเวลาไปฟังเสียงต๊อกแต๊กอันเป็นเอกลักษณ์เวลาใช้พิมพ์ดีด มีสี่สีสุดคลาสสิคให้เลือกกันแบบตรงใจ แม้หน้าตาจะวินเทจแต่ก็ใส่ฟังก์ชั่นล้ำ ๆ ของยุคนี้ลงไปแบบครบถ้วน เรียกได้ว่าไฮเทคในคราบวินเทจเลยจริง ๆ โดยฟังก์ชั่นเด่น ๆ มีดังนี้ รองรับกับทั้ง PC & MAC USB TYPE-C น้ำหนักเบาเพียง 1587 กรัม เท่านั้น แป้นมีเสียงแบบพิมพ์ดีด และไฟ backlight LED เพิ่มความสวยงาม แบตลิเทียม 6,000 mAh รายละเอียดและสเปกอื่น
เกมบอยยังคงเป็นอะไรที่คลาสสิคและชวนให้วัยรุ่นตอนปลายไปจนถึงผู้ใหญ่ตอนต้นในตอนนี้ชวนให้คิดถึงความคลาสสิคของมัน ตอนที่ได้เปิดเครื่อง ได้เล่นกับเพื่อนตอนเลิกเรียน หรือแม้แต่แอบเล่นในห้องเรียน แม้เกมบอยเครื่องเก่าที่เคยมีอาจจะผุพังไปตามกาลเวลาแล้ว แต่วันนี้ UNLOCKMEN ขอเสนอ เกมบอยที่กลับมาใหม่ในรูปแบบพวงกุญแจอันจิ๋ว มาย้อนกลับไปท่องความทรงจำที่เราคิดถึงไปพร้อม ๆ กัน เกมบอยได้กลับมาโลดเล่นในรูปแบบของพวงกุญแจโดย PocketSprite เป็นผู้ผลิต เกิดจากความร่วมมือของผู้สร้างสรรค์ผลงานฉบับออริจินัลอย่าง Jeroen Domburg และ Steve K. ผู้ผลิต โดยที่ The PocketSprite เป็นผุ้ระดมทุนจากผู้คนที่ต้องการให้เกมบอยนี้กลับมา เรียกได้ว่ากลับมาได้ด้วยความคิดถึงจริง ๆ ดีเทลของเจ้าตัวนี้แม้จะเล็กจิ๋วแต่สเปกไม่แพ้ออริจินัล ประกอบด้วย จอ OLED, Bluetooth, Wi-Fi, ถ่านชาร์จ, ลำโพงในตัว, dual-core, 240 MHz ESP32 chip และ แรม 520 KB. จากสเปกจะเห็นว่ามันค่อนข้างมาแรงกว่าเกมบอยตัวเก่าอยู่พอสมควร เครื่องเล็กจิ๋วกว่ามือขนาดนี้ มาดูกันว่ามันเล่นได้จริงมั้ย? ความเจ๋งมันอยู่ตรงที่ PocketSprite วางจำหน่ายสองรุ่นด้วยกัน คือรุ่นที่ประกอบมาสำเร็จพร้อมเล่น กับแบบชุด kit ที่เราได้ไปประกอบเองให้หายคิดถึง ราคาเริ่มต้นที่
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ลึกซึ้งเรื่องการตามเสียงเครื่องยนต์ กลไก กับดีไซน์เฉียบ หล่อ ๆ ของรถยนต์สายสปอร์ตเหนือระดับสัญชาติเยอรมันระดับตำนานอย่าง Porsche ชนิดเลือดสูบฉีดทุกครั้งที่เห็น เราอยากให้คุณมาลองพิสูจน์สัญชาติญาณดูว่า เมื่อ Porsche ไม่ใช่รถ แต่ไปร่วมดีไซน์โปรดักซ์อื่นจะออกมาเป็นแบบไหน สร้าง First impression ให้กับพวกเราชาว UNLOCKMEN ได้ไหม หรือกระตุกแบงค์ในกระเป๋ากับบัตรให้สั่นไหวได้ขนาดไหน มากพอให้ไปตามครบคอลเลคชั่นเลยหรือเปล่า พร้อมแล้วไปดูสิ่งที่ทาง Porsche design เขาคัดมาให้เป็นไฮไลต์ประจำเดือนนี้กัน Porsche X Huawei Mate 10 นาทีนี้ต้องยกให้ชิ้นนี้เลย สะเทือนวงการสมาร์ทโฟนและติดโผเรือธง เพราะ Porsche เลือกจับมือกับ Android สัญชาติจีนที่ติดลมบนในวงการมือถือสายกล้อง leica สเปคไม่เป็นรองใครอย่าง Huawei ในรุ่นอัปเดตล่าสุดคือรุ่น Mate 10 ซึ่งตรงตามธรรมเนียมว่าติดฉลาก Porsche ทุกชิ้นต้องพรีเมี่ยมเท่านั้น ดังนั้นสเปคความแรงของเครื่องและวัตถุดิบเลยเป็นเรื่องที่ไม่ต้องโฆษณามาก แค่จอใหญ่ 6 นิ้ว Kirin 970 processor เปรียบเทียบตัวเครื่องทนเหมือนการคัดเลือกวัสดุตัวถังรถ
ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปหากเราจะเจอการ crossover ระหว่างแบรนด์แฟชั่นกับสินค้าประเภทต่าง ๆ เพราะต้องยอมรับในจุดหนึ่งว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของดีไซน์มากกว่าฟังก์ชั่นเสียแล้ว ดังเช่นเรื่องที่ทีมงาน UNLOCKMEN จะนำเสนอนี้ ซึ่งเป็นการร่วมงานระหว่างแบรนด์หูฟังและสตรีทแฟชั่น โดยถ้าให้บอกชื่อแบรนด์หูฟังยอดนิยมสักแบรนด์ ชื่อของ Beats ต้องแล่นเข้ามาในหัวเป็นชื่อแรก ๆ อย่างแน่นอน เพราะด้วยดีไซน์ที่ดูทันสมัยพรีเมี่ยมและมีสีสันดึงดูดถูกใจวัยโจ๋ ทำให้ Beast กลาย เป็นหูฟังยอดนิยมของบรรดาเซเลปดารานักร้องรวมถึงนักกีฬาทั่วโลกที่ใช้ออกสื่อกันอย่างมากมาย จนเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง Beats ก็ได้ออกชุดหูฟังและลำโพงพกพาตัวใหม่ที่เป็นการจับมือกับแบรนด์สตรีทชื่อดังแฟชั่นอย่าง UNDEFEATED การ Collab ของ Beats และ UNDEFEATED ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันมาแล้วเมื่อปี 2013 ซึ่งก็โดนใจขายเกลี้ยงราคาพุ่งกระฉูดตามสไตล์สินค้า Limited Edition และสำหรับคอลเลคชั่นชุดใหม่นี้ต้องบอกว่าถูกใจสายสตรีทแฟชั่นหรือคนชอบเก็บสะสมหัวฟังอย่างแน่นอน เพราะว่าในเซ็ตประกอบไปด้วยลำโพงพกพาไร้สายอย่าง Beats Pill และหูฟัง wireless อย่าง Beats X ที่ตกแต่งด้วยลายพรางสีโทนเข้ม ตัดด้วยโลโก้แบรนด์สีส้มสด แถมโฆษณาก็ทำได้อย่างน่าสนใจเพราะดึงนักบาสเก็ตบอลจากทีม Philadelphia 76ers อย่าง Ben Simmons
ปัญหานอนไม่หลับนี่มาจากสารพัดสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากสภาพร่างกายเรา ความเครียดจากงาน กินกาแฟไปสามแก้ว หรือสภาพแวดล้อมอย่าง เสียงรบกวน แสงที่ลอดมาในห้อง หมอนที่นอนไม่ถนัดเอาซะเลย บางคนก็รู้แล้วก็ปรับตัวได้ แต่บางคนอาจยังไม่รู้สาเหตุหรืออาจจะรู้แล้วแต่ยังแก้ไขไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากอะไรสิ่งที่ทุกคนต้องการคือ การหลับตานอนได้แบบตรงเวลา ชั่วโมงนอนเต็มอิ่ม ตื่นมาอย่างสดชื่น ไม่โดนเตียงดูดจนโงนเงนไปมาบนที่นอนอยู่ครึ่งชั่วโมง UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 แอปพลิเคชันเจ๋ง ๆ ติดโทรศัพท์เอาไว้ สำหรับคนที่ชอบตาค้างโดยเฉพาะใกล้เวลาเข้านอน ให้เราได้นอนหลับสบาย ไม่ต้องกด Snooze กันอีกต่อไป Binaural Beats แอปฯ นี้ความเจ๋งมันอยู่ที่เป็นเสียงคลื่นความถี่ในระดับต่างกัน เราสามารถเลือกระดับความถี่เอาตามที่เราชอบ เพื่อกลบเสียงรบกวน สามารถตั้งเวลาถอยหลังว่าเราจะนอนในอีกกี่นาทีเพื่อปิดเสียงคลื่นความถี่ได้ด้วย นอกจากจะช่วยให้นอนหลับง่ายแล้วยังเป็นที่นิยมในการสร้างสมาธิอีกด้วย เพราะจะตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เลยทำให้เรารู้สึกสงบมากขึ้น Rainy Mood ตรงตัวตามชื่อแอปฯ เลย มันคือแอปฯ ที่ให้เราได้ฟังเสียงฝนตกแบบธรรมชาติมาก ๆ ไม่ใช่แค่เสียงน้ำกระทบพื้นเฉย ๆ แต่มันคือเสียงฝนตกจริง ๆ มีหนักเบา เสียงฟ้าร้องบ้างประปราย เสียงฝนกระทบหลังคา และยังมีเพลงแนะนำจาก Youtube ให้เราได้ฟังรายวันอีกด้วย หากไม่สะดวกฟังในโทรศัพท์
ทุกวันนี้ Drone ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนก็ซื้อไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ เช่นเหล่า Travel Blogger หรือชาวคณะ Production ซื้อไปถ่ายทำ Footage สวย ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ซื้อไปใช้สอดส่องความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยในชีวิต หรือแม้แต่ StartUp หัวใสในประเทศสงคราม ที่ริเริ่มใช้ Drone ในการส่งเลือดไปปฐมพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงและยากต่อการเข้าถึง แต่ก็มีเจ้าของ Drone บางคนที่อาจจะไม่รู้กาลเทศะ ใช้ Drone บินไปในพื้นที่ต้องห้าม ในสนามบิน หรือใช้แอบถ่ายชาวบ้านชาวช่อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจนน่ารำคาญ มันจึงเป็นที่มาของบริษัท DroneShield ผู้เชี่ยวชาญด้านปืนพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ผลิตมาทำหน้าที่สอย Drone จากคนกลุ่มหลังโดยเฉพาะ แม้ก่อนหน้านี้จะมีแต่ปืนขนาดใหญ่เกินชาวบ้านอย่างเราจะใช้ได้สะดวก แต่ DroneGun Tactical รุ่นล่าสุดที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง Star Wars เท่จนเราอยากได้มาครอบครอง แม้จะไม่มี Drone ให้ยิงสอยลงมาก็ตามที วิธีใช้งาน DroneGun Tactical ก็ตรงตัวเหมือนปืนทั่วไป แค่ชี้ไปทาง Drone
“เรากำลังฝากชีวิตไว้บนใยแก้ว” คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผงในจักรวาลกว้าง ๆ ของเครือข่ายโลกดิจิทัล และคิดว่าในห่วงโซ่สังคมเสมือนนี้เราจะไม่ใช่คนโชคร้ายที่สุด ข้อมูลของเราคงไม่มีใครต้องการ แต่ความจริง Data เล็กน้อยที่คุณกรอกลงไปไม่ว่าจะผ่านช่องทางไหนก็ตาม มันมีมูลค่า ซื้อขายได้ และเพิ่มความเสี่ยงให้คุณกลายเป็นผู้โชคร้ายตกเป็นเหยื่อทางโจรกรรมชนิดที่พร้อมจะเป็นข่าวหน้าหนึ่งเสมอ เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ชาว UNLOCKMEN ลองมาเช็กกันดูว่าเรื่องราวเหล่านี้คุณเคยรู้แล้วหรือยัง หากรู้แล้ววิธีป้องกันที่มีอยู่ดีพอหรือเปล่า ขายใคร ราคาเท่าไร? ข้อมูลของเราเขาเอาไปขายใคร? สำหรับคนที่เคยสงสัย เราขอให้คุณย้อนกลับมาคิดดูว่าคุณเคยรับโทรศัพท์สายแปลกเพื่อเสนอขายประกันบ้างไหม หรือมีหน่วยงานไหนติดตามข้อมูลการเข้าสำรวจเว็บไซต์ของคุณแล้วโทรมาเสนอให้บริจาคในองค์กรและมูลนิธิบ้างหรือเปล่า กระทั่งการรับ SMS ที่ไม่ได้สมัครก็ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการนำข้อมูลของคุณมาหาประโยชน์ บริษัทจอมตื๊อนี่ล่ะที่อยากซื้อข้อมูลของคุณ ส่วนราคาซื้อขายในตลาดก็ถูกมากจนเสียจนอยากจะจ่ายไปวาร์ปหาสาว ๆ เลย “สำหรับเบอร์ที่ขายกันนั้น จะขายกันทีเป็นร้อย ๆ เบอร์ ราคาเบอร์ที่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงว่า จะซื้อกันในราคาเบอร์ละเท่าไร 1 บาท 5 บาท 10 บาท ถ้าเบอร์ของพวกเศรษฐีมีสตางค์หน่อย ก็จะแพงขึ้นมาอีก” เผื่อคนที่ยังไม่รู้ ข้อมูลที่คุณไม่ได้ยินยอมส่งต่อ เขาซื้อขายจากแหล่งที่คุณยินยอมพร้อมใจให้ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินที่คุณไปกรอกข้อมูลไว้ หรือการตอบแบบสอบถามที่ไหนสักที่ที่ใช้ของฟรีล่อใจคุณตอบ จากนี้คุณจึงควรอ่านเอกสารให้ละเอียด โดยเฉพาะเมื่อเจอคำที่ระบุในเอกสารว่า “ขออนุญาตเปิดเผยข้อมูล” ก็ให้หยุดอ่านให้ดีอย่าเพิ่งอนุญาตไปสุ่มสี่สุ่มห้า