Life

ฝันร้ายไม่ใช่เรื่องปกติ! รู้จักวิธีสร้างความฝันของเราให้ดี เพื่อการนอนหลับอย่างมีความสุข

By: JEDDY August 16, 2022

การนอนหลับฝันดีแบบเต็มอิ่มและไม่มีสิ่งใดมารบกวน ว่ากันว่ามันคือความสุขอย่างสูงสุดของผู้ที่ต้องการพักผ่อน ถ้าคุณสามารถทำมันได้เป็นประจำ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีของคุณเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น หลาย ๆ คนต้องเผชิญกับอาการนอนไม่หลับเต็มอิ่ม เพราะถูก “ฝันร้าย” เข้ามาครอบงำ จนส่งผลให้เรายิ่งเพลียไปมากกว่าเดิมทั้ง ๆ ที่นอนไว แถมยังเกิน 6 ชั่วโมง อีกด้วย

หากคุณรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวเป็นประจำ และไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี มาลองดูวิธีแก้ไขจากทางเรากันดีกว่า


รู้จักกับความฝัน

ก่อนอื่นก่อนใด ลองมาทำความรู้จักกับ “ความฝัน” ดูซักหน่อย ว่ามันมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ซิกมันด์ ฟรอยด์ ได้อธิบายเกี่ยวกับความฝันที่เกิดขึ้นว่า มันมาจากบางสิ่งที่ถูกเก็บและอัดอั้นไว้ภายในส่วนลึกของจิตใจ โดยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะปรากฏออกมาโดยไม่รู้ตัวในขณะที่เรากำลังนอนหลับ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ในความฝันในบางครั้งมันจะดูโอเวอร์ไปจากชีวิตจริงเป็นอย่างมาก

นักจิตวิทยาบางท่านก็มองว่าความฝันเกิดจากผลพวงของการสุ่มยิงเซลล์ประสาทในขณะที่เรากำลังนอนหลับ หรือบางครั้งก็ถูกวิเคราะห์ว่า ความฝันสามารถช่วยให้เราเตรียมพร้อมกับบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในวันรุ่งขึ้น เช่น เราฝันว่ากำลังจะนำเสนอพรีเซนต์ในห้องประชุม เป็นต้น

ไม่ว่าความฝันจะเกิดจากอะไรตาม แต่สำหรับ “ฝันร้าย” โดยมากมักจะเกิดจากอาการของความเครียด, ความวิตกกังวล และสภาวะซึมเศร้า นั่นเอง


วิธีกำจัดฝันร้าย

เมื่อฝันร้ายสร้างผลกระทบต่อการนอนหลับ และส่งผลต่อสุขภาพของคุณ เราก็ควรจัดการมันซะด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

1.พูดคุยกับใครซักคน

เมื่อเรามีความอัดอั้น การระบายสิ่งเหล่านั้นออกมาถือเป็นทางออกที่ดี ดังนั้นการหาใครซักคนที่เรารักและไว้ใจ พร้อมรับฟังและพูดคุยกับเราจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะมันอาจจะช่วยบรรเทาอาการฝันร้ายของคุณลงไปได้ อีกนัยนึงก็คือการลดความเครียดที่สะสมออกไปด้วยนั่นเอง

2.สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

การสร้างบรรยากาศช่วงก่อนนอนก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณดับฝันร้ายได้ เช่น การฟังเพลงที่ทำให้คุณรู้สึกจิตใจสงบ (Sleep Wave หรือ Spa Music เป็นต้น), การใช้กลิ่นหอมที่ทำให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หรือการกอดสิ่งของที่ทำให้คุณสบายใจ เช่น ตุ๊กตาหมี หรือหมอนข้าง วิธีนี้จะทำให้คุณอยู่ในภวังค์ของความสงบที่จะช่วยให้จิตใจสามารถนิ่งลงได้

3.จดความฝันของตัวเอง

หากคุณจดจำความฝันร้ายหลังจากตื่นได้เป็นอย่างดี ลองจดบันทึกอย่างละเอียดลงในสมุดดู และให้เราลองคิดว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงตอนจบของความฝันนั้น ๆ ได้หรือไม่ นอกจากนี้ในช่วงก่อนนอน คุณต้องลองเล่าความฝันใหม่ออกมาดัง ๆ ประมาณ 10 นาที และห้ามลืมกระบวนการบันทึกวิดีโอเอาไว้เพื่อคอยดูการเปลี่ยนแปลง และเป็นหลักฐานของการบำบัดฟื้นฟูฝันร้ายที่สำคัญต่อตัวเราด้วยเช่นกัน


สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับฝันร้าย คือการสร้างสภาพแวดล้อมการนอนหลับ ที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจและปลอดภัย ฝันร้ายโดยมากมักออกมาจากความวิตกกังวลของเรา เมื่อเราทำอะไรที่ลดความวิตกกังวลได้ คุณภาพการนอนหลับของเราจะดีขึ้นตามมาด้วยนั่นเอง

 

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line