คุณพ่อคนเท่ ‘CHRIS HEMSWORTH’ ผู้ไม่ยอมปล่อยให้ลูก ๆ พลาดความสุขในวัยเด็ก

เมื่อคุณมีพ่อเป็นดวงดาวที่เฉิดฉายของฮอลลีวู้ด คุณคิดว่าตัวเองคงได้เป็นเด็กน้อยที่ใช้ชีวิตแสนสบาย เพนต์เฮาส์หรูใจกลางเมือง ห้อมล้อมไปด้วยความ Luxury ใช้ชีวิตกับพี่เลี้ยงเพราะคุณพ่อมีเวลาเพียงน้อยนิด การใช้ชีวิตแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่นั่นคือสิ่งที่ Chris Hemsworth ไม่ได้ต้องการให้เกิดกับลูก ๆ ของเขา

เขาคือพ่อคนหนึ่งที่เชื่อว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด เขาเลยให้ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญและสมบูรณ์ที่สุด หน้าที่ของการเป็นพ่อที่ดีสำหรับเขาจึงไม่ใช่แค่การให้ลูกได้โม้ว่ามีพ่อเป็นดาราดัง หรือการประเคนเงินให้ลูกใช้แบบอันลิมิต มาดูกันว่าหนุ่ม Chris เขาเลี้ยงลูกของเขาได้เท่ขนาดไหน

ชอบอย่างไหนทำอย่างนั้น

เรามักจะคุ้นเคยกับภาพที่เขาใช้เวลากับลูก ๆ ทั้งสาม ไม่ใช่เรื่องการขับเคี่ยวให้ลูกกลายเป็นอัจฉริยะด้านใด แต่เป็นการปล่อยให้ลูก ๆ ได้เล่นตามใจ ส่วนมากจะเป็น Outdoor Activity ที่เขาเองก็ชื่นชอบ เพราะเขาและลูก ๆ มักจะแลกเปลี่ยนความชื่นชอบ ผลัดเปลี่ยนกันทำกิจกรรมที่แต่ละคนชอบกัน ไม่ว่าจะเป็นคริสเล่นกับลูก ๆ เหมือนกับเขาเองเป็นเด็กด้วยเช่นกัน ปล่อยให้ลูกสาวทาเล็บเท้าของเขา แม้จะไม่เข้ากับ Look ของเขาเลยก็ตาม หรือลูก ๆ ออกไปผจญภัย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พวกเขามักจะใช้เวลาในวันหยุดด้วยกัน นั่นทำให้เขาและลูก ๆ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมอ

แม้จะฟังดูเป็นการตามใจลูกเกินเหตุ แต่เรื่องระเบียบวินัย พื้นฐานของการใช้ชีวิตร่วมกัน เขาเองก็สอนลูกเหมือนกับบ้านอื่นเช่นกัน เขาไม่ยอมปล่อยให้ลูก ๆ กินขนมหวานมากเกินไป ไม่ปล่อยให้ลูก ๆ เฝ้าจอทีวีหรือแท็บเล็ต เขาเลือกที่จะตามใจในสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขอย่างกิจกรรมที่เด็ก ๆ ควรได้ทำเท่านั้น เพราะเขาเชื่อว่า เด็ก ๆ ไม่ควรพลาดความสุขในวัยของตัวเองไป

เพราะครอบครัวคือสิ่งที่ต้องให้เวลา

ชื่อของ Chris ถือเป็นดาราคิวทองที่ไม่ได้มีเวลาว่างมากนัก ถึงอย่างนั้นเขากลับยกเวลาว่างทั้งหมดของตัวเองเพื่อใช้เวลากับครอบครัว ถึงขนาดเคยเป่าหูผู้กำกับว่าออสเตรเลีย (บ้านของเขา) โลเคชั่นสวยเหมาะแก่การถ่ายทำมากและผู้กำกับก็เชื่ออย่างนั้นจริง ๆ

นั่นเป็นเพราะกองถ่ายจะอยู่ใกล้บ้านเขา ทำให้เขาสามารถขับรถไปทำงานได้โดยใช้เวลาเพียง 40 นาที ไม่ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลและต้องห่างจากครอบครัว ร้ายกาจ! หากช่วงไหนที่เขารู้ตัวว่าไม่มีเวลาว่างจริง ๆ เขามักจะพาเด็ก ๆ ไปกองถ่ายกับเขาด้วย ไปดูว่าเขาต้องทำงานยังไงและเท่แค่ไหนเวลาได้สวมชุดเทพเจ้าสายฟ้า

เมื่อมีเวลาว่าง นั่นคือเวลาทองของพวกเขา ทั้งครอบครัวมักจะไป Festival ด้วยกันหรือแม้กระทั่งออกไปซื้อของ ก็ต้องยกครอบครัวออกไปพร้อมกันทั้งหมด เพราะถ้ามันขึ้นชื่อว่าเวลาของครอบครัว นั่นหมายความว่าทุกคนในครอบครัวต้องมีส่วนร่วมด้วย นั่นทำให้เวลาที่เขาอยู่ด้วยกันคือเวลาที่มีค่ามากจริง ๆ

เมื่ออยู่บ้าน เขาคือพ่อเหมือนกับคนอื่น ๆ

“I feel gross about it. I don’t want them to feel like they’re privileged in any way.” พอก้าวเท้าเข้ามาในบ้านแล้ว สิ่งที่เขาทำทุกครั้งคือเขากลายร่างเป็นคุณพ่อคนหนึ่ง เขาจึงไม่ปลูกฝังให้ลูก ๆ รู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิพิเศษ หรือเป็นลูกของคนดัง เขาอยากให้ลูกเติบโตออกมาเป็นเหมือนเด็กคนอื่น ได้ใช้ชีวิตสนุก ๆ ไปตามวัย ใช้เวลากับครอบครัว นั่นทำให้เขาพยายามหาเวลาว่างให้กับครอบครัวอยู่เสมอ

นั่นทำให้เห็นแล้วว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่ามากแค่ไหน สิ่งไหนที่รู้สึกขาดก็ควรถูกเติมเต็มไม่ให้ช่องว่างนั้นลึกลงไปเรื่อย ๆ เหมือนกับที่ Chris พยายามเติมเต็มให้ลูก ๆ เขาเสมอ ไม่ใช่แค่ลูก ๆ เท่านั้นที่ต้องการความรักความใส่ใจ คนรอบตัว คนรัก เพื่อสนิท หากได้รับการเติมเต็มทางความรู้สึก นั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์มันยิ่งแน่นแฟ้นและอิ่มเอมไปกับความอบอุ่นที่ได้รับมากกว่าที่มูลค่าของเงินจะให้ได้

SOURCE 1,2,3,4