พอรู้ว่าลูกชายหรือลูกสาวที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือตั้งแต่เล็กจนโต จะต้องออกจากบ้านไปทำงานหรือเรียนในที่ห่างไกลการดูแล ผู้ปกครองมักรู้สึกสับสนหรือรู้สึกไม่สบายใจจากการสูญเสียสมาชิกในบ้าน และบรรยากาศรอบตัวที่เหงาลง เราเรียกอาการที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘Empty Nest Syndrome’ ซึ่งทำลายสุขภาพจิตของผู้นำครอบครัวได้อย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี UNLOCKMEN จึงอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักวิธีรับมือกับอาการนี้ให้อยู่หมัดกัน Empty Nest Syndrome คือ อะไร Empty Nest Syndrome คือ อาการโศกเศร้าของผู้ปกครองที่เกิดขึ้นหลังจากลูกของพวกเขาได้ออกจากรังหรือบ้านของพวกเขาไป การสูญเสียสมาชิกในบ้านทำให้ผู้ปกครองต้องเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สูญเสียหน้าที่และชีวิตประจำวันในฐานะผู้ปกครอง หรือ สูญเสียการใช้เวลาร่วมกับลูกตัวเอง เป็นต้น ส่งผลให้พวกเขาเกิดความเจ็บปวด และอาจต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ความน่ากลัวของอาการ Empty Nest คือ มันทำให้ผู้ปกครองเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและอาการติดสุรามากขึ้น เพราะความรู้สึกแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นค่อนข้างบั่นทอนจิตใจพวกเขามากสมควร จนบางคนอาจเลือกที่จะหนีจากความเจ็บปวดโดยการใช้ของมึนเมาเป็นตัวช่วย แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็ช่วยลดความขัดแย้งเรื่องงานหรือครอบครัวได้เหมือนกัน เพราะคู่รักบางคู่อาจโฟกัสกับเรื่องลูกเป็นหลักมาตลอด จนเมื่อภาระเรื่องลูกหายไป พวกเขาก็สามารถกลับมาโฟกัสกับเรื่องความสัมพันธ์ได้มากขึ้น และมีชีวิตสมรสที่มีคุณภาพมากกว่าเดิม เราจะรับมือกับ Empty Nest Syndrome ได้อย่างไรบ้าง คนที่เจอกับ Empty Nest
เมื่อคุณมีพ่อเป็นดวงดาวที่เฉิดฉายของฮอลลีวู้ด คุณคิดว่าตัวเองคงได้เป็นเด็กน้อยที่ใช้ชีวิตแสนสบาย เพนต์เฮาส์หรูใจกลางเมือง ห้อมล้อมไปด้วยความ Luxury ใช้ชีวิตกับพี่เลี้ยงเพราะคุณพ่อมีเวลาเพียงน้อยนิด การใช้ชีวิตแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่นั่นคือสิ่งที่ Chris Hemsworth ไม่ได้ต้องการให้เกิดกับลูก ๆ ของเขา เขาคือพ่อคนหนึ่งที่เชื่อว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด เขาเลยให้ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญและสมบูรณ์ที่สุด หน้าที่ของการเป็นพ่อที่ดีสำหรับเขาจึงไม่ใช่แค่การให้ลูกได้โม้ว่ามีพ่อเป็นดาราดัง หรือการประเคนเงินให้ลูกใช้แบบอันลิมิต มาดูกันว่าหนุ่ม Chris เขาเลี้ยงลูกของเขาได้เท่ขนาดไหน ชอบอย่างไหนทำอย่างนั้น เรามักจะคุ้นเคยกับภาพที่เขาใช้เวลากับลูก ๆ ทั้งสาม ไม่ใช่เรื่องการขับเคี่ยวให้ลูกกลายเป็นอัจฉริยะด้านใด แต่เป็นการปล่อยให้ลูก ๆ ได้เล่นตามใจ ส่วนมากจะเป็น Outdoor Activity ที่เขาเองก็ชื่นชอบ เพราะเขาและลูก ๆ มักจะแลกเปลี่ยนความชื่นชอบ ผลัดเปลี่ยนกันทำกิจกรรมที่แต่ละคนชอบกัน ไม่ว่าจะเป็นคริสเล่นกับลูก ๆ เหมือนกับเขาเองเป็นเด็กด้วยเช่นกัน ปล่อยให้ลูกสาวทาเล็บเท้าของเขา แม้จะไม่เข้ากับ Look ของเขาเลยก็ตาม หรือลูก ๆ ออกไปผจญภัย ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พวกเขามักจะใช้เวลาในวันหยุดด้วยกัน นั่นทำให้เขาและลูก ๆ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมอ แม้จะฟังดูเป็นการตามใจลูกเกินเหตุ แต่เรื่องระเบียบวินัย พื้นฐานของการใช้ชีวิตร่วมกัน เขาเองก็สอนลูกเหมือนกับบ้านอื่นเช่นกัน เขาไม่ยอมปล่อยให้ลูก ๆ กินขนมหวานมากเกินไป
นอกจากความสนุกจนหยุดอ่านไม่ได้แล้ว มังงะแทบทุกเรื่องมักจะสอดแทรกข้อคิดดี ๆ ไว้อยู่เสมอ และหนึ่งในมุมมองที่ผู้อ่านอย่างเราอินกับมันที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ถึงแม้จะเป็นแค่ลายเส้นจากมังงะ แต่ความสัมพันธ์ครอบครัวในหลายเรื่องก็ทำเอาน้ำตาลูกผู้ชายร่วงได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูก ที่ถึงแม้จะไม่ค่อยแสดงความรักกันนัก แต่ด้วยการกระทำทุกอย่างบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าพวกเขารักกันมากขนาดไหน วันนี้เราจึงนำสุดยอดคุณพ่อจากโลกมังงะมาให้รู้จักกัน บอกเลยว่าแต่ละคนปากแข็งสุด ๆ ไม่เคยพูดว่ารัก แต่ไม่มีสักวินาทีที่พวกเขาจะไม่เป็นห่วงลูก ซุน โกคู พระเอกคนดังจากมังงะอมตะตลอดกาลอย่าง Dragon Ball ในบทบาทนักสู้ ไม่มีใครเถียงว่าเขาสุดยอด จะปีศาจ สัตว์ประหลาดจากดาวดวงไหนก็ปราบมาหมดแล้ว แต่ในบทบาทความเป็นพ่อ ถึงแม้จะขาดตกบกพร่องไปบ้างเพราะวัน ๆ เอาแต่ฝึกวิชา แต่ความรักที่เขามีให้ลูกชายอย่าง ซุน โกฮัง นั้นไม่แพ้ใครแน่นอน นอกจากวิชาต่อสู้ที่เขาหมั่นสอนเพื่อให้โกฮังสามารถเอาตัวรอดปกป้องตัวเองได้แล้ว ยามอยู่ในสนามรบเขาก็ปกป้องลูกชายเสมอ ถึงขั้นเสียสละเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเลยทีเดียว นอกจากนั้นในเรื่องความฝัน โกฮังฝันอยากเป็นนักวิชาการ ซึ่งถึงแม้โกคูจะคลั่งไคล้การต่อสู้มากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยบังคับให้ลูกชายเดินตามทางตัวเองเลยแม้แต่น้อย มิยาซาวะ เซโกะ สุดยอดคุณพ่อจากเรื่อง ‘ใครว่าข้าไม่เก่ง’ ซึ่งถึงแม้จะเป็นมังงะที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในบ้านเรานัก แต่ด้วยจิตใจที่อุทิศเพื่อลูกของ มิยาซาวะ เซโกะ เราจึงอยากแนะนำตัวละครนี้ให้ทุกคนได้รู้จัก เซโกะเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากภรรยาของเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว เขาจึงเลี้ยงลูกชายอย่าง มิยาซาวะ คิอิจิ ด้วยตัวคนเดียว เบื้องหน้าเซโกะดูเป็นพนักงานบริษัททั่วไป แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังเขาคือเจ้าสำนัก นาดะชินคาเงะ สุดยอดสำนักวิชาต่อสู้ในตำนาน เขาฝึกฝนให้คิอิจิแข็งแกร่งสามารถปกป้องตัวเองได้มาตั้งแต่ยังเด็ก
ช่วงนี้กระแสของศึกสายเลือดกำลังมาแรง จนเกิดประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับครอบครัวขึ้นเต็ม Newsfeed ของเราไปหมด เพราะเรามักจะคาดหวังให้ครอบครัวเป็นความสมบูรณ์แบบหนึ่งเดียวในชีวิตอันไม่สมบูรณ์แบบของเราทุกคน เอาไว้เป็นที่พึ่งทางใจ หรือเป็นอะไรก็ตามที่ยิ้มได้ทุกครั้งที่กลับไปหรือแม้แต่นึกถึง แต่ความเป็นจริงมันไม่สวยงามขนาดนั้น เมื่อหลายครอบครัวมีปัญหาภายใน แต่กลับพูดไม่ได้ เพราะความรักทางสายเลือดมันค้ำคอ UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 หนังที่จะมาให้ข้อคิดดี ๆ ในประเด็นของครอบครัว มีหลากหลายแนว ตั้งแต่แฟนตาซีดูง่าย ๆ เพลิน ๆ จนไปถึงดราม่าจุกอก ให้หนุ่ม ๆ ได้เลือกเอาตามความชอบ โดยลิสต์นี้ไม่ได้เป็นการจัดอันดับหนังดีใจดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจว่าทำไมถึงไม่มีเรื่องโปรดของคุณ เพราะนี่คือการแลกเปลี่ยนหนังกันดู เหมือนเพื่อนคุยกันเท่านั้นเอง อย่าได้โวยวายกันไปว่าหนังแนวนี้ต้องอันนี้เท่านั้น ย้ำอีกที ว่านี่ไม่ใช่การจัดอันดับ Charlie and the Chocolate Factory (2005) Director : Tim Burton เจ้าหนูชาร์ลีที่ดวงเฮงได้ตั๋วทองในห่อช็อกโกแลตของวิลลี่ วองก้า เลยได้โอกาสไปทัวร์โรงงานช็อกโกแลต หลายคนอาจโฟกัสไปที่ความแฟนตาซีของหนัง กับจินตนาการล้ำ ๆ ของผู้กำกับอย่างทิม เบอร์ตัน แต่เรื่องนี้แฝงไปด้วยประเด็นเรื่องการเลี้ยงดูลูกในแต่ละครอบครัวไว้อย่างเฉียบคม เด็กแต่ละคนที่ได้ไปทัวร์ในโรงงานนั้น มีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันไปซึ่งมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่แบบที่ไม่ต้องมีใครมาเฉลย เราก็สังเกตได้จากการกระทำของตัวละคร
หนึ่งในคำชมที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ มักจะเอ่ยถึงผู้หญิงที่เรารัก จริงจัง และรู้สึกมั่นใจว่าอยากใช้ชีวิตด้วยก็คือ “คนนี้เป็นแม่ของลูกได้เลย” ซึ่งเป็นประโยคที่รวมเอาหลากหลายความรู้สึกและเหตุผลดี ๆ เข้าไว้ด้วยกัน แม้อาจจะยังไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ถึงขั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ก็พอจะฝันได้ว่าความสัมพันธ์รุ่งแน่นอนจนแก่เฒ่า เพราะเราทุกคนก็รู้อยู่ว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง พออายุมากขึ้นก็จะเหี่ยวย่นไปตาม ๆ กัน สิ่งที่ยั่งยืนที่สุดคือเสน่ห์ทางนิสัยใจคอ ความเข้ากันได้ ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ และความมั่นคงทางความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้คนเรารักกันจนถึงวันสุดท้ายที่หายใจ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเธอจะเป็นแม่ที่ดีได้ในอนาคต ? เรื่องนี้คงตัดสินด้วยการให้เธอซ้อมเป็นคุณแม่ไม่ได้ หรือจะตัดสินกันแค่เรื่องสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องสังเกตจากการคบหากันนี่ล่ะ ว่ามีสัญญาณที่บ่งบอกหรือไม่ว่าเธอจะเป็นแม่ที่ดีของลูกได้หรือไม่ ลองดูว่าคนรักของคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้หรือเปล่า เพื่อความมั่นใจว่าต้องเป็นเธอแน่นอน เธอซื่อสัตย์กับคุณ ถ้าการคบหากับเธอแล้วคุณไม่รู้สึกกังวลเลยว่าเธอจะวอกแวกนอกใจคุณ เธอชัดเจน และเปิดเผยกับคุณเสมอ หรือไม่ว่ากราฟชีวิตคุณจะขึ้นสูงหรือลงต่ำเพียงใด เธอก็ยังอยู่เคียงข้างคุณเสมอ แบบนี้วางใจได้เลยว่าเธอมีพื้นฐานของการเป็นคุณแม่ที่ดี ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ล้ำค่า และเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์ อาจต้องใช้เวลาพิสูจน์นานเป็นแรมปี ก่อนที่จะหวังให้เธอมาซื่อสัตย์กับคุณ คุณก็ควรจะมอบสิ่งนี้ให้เธอก่อน ค่อย ๆ เป็นค่อยไป พอถึงวันที่เชื่อใจซึ่งกันและกันรับรองว่าความสัมพันธ์จะยืนยาว เธอเป็นผู้ฟังที่ดี ให้ความเห็นได้ ข้อแตกต่างของผู้ฟัง และผู้ฟังที่ดีก็คือ ผู้ฟังที่ดีจะตั้งใจฟังสิ่งที่คุณพูดออกมา และสามารถให้ความเห็นได้จากสิ่งที่ใส่ใจรับฟัง ราวกับว่าเสียงของเรามันดังที่สุดในโลก
หนังที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังเมืองคานส์หลายคนอาจจะร้องยี้เพราะภาพจำของหนังจากเทศกาลหนังเก่าแก่ประเทศฝรั่งเศสนี้มักเป็นหนังที่ดูยาก เข้าใจยาก น่าเบื่อ หรือเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ แต่สำหรับปี 2018 นี้ขอให้ทุกคนลบภาพนั้นออกไปก่อน เพราะภาพยนตร์ที่ได้รางวัล ‘ปาล์มทองคำ’ รางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดในเทศกาลหนังเมือคานส์ในปีนี้คือ ‘Shoplifters’ ภาพยนตร์แนวครอบครัว เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ทุกคน ผลงานกำกับของ ‘Hirokazu Koreeda’ เจ้าพ่อหนังแนวครอบครัวชาวญี่ปุ่น และแน่นอนว่า Shoplifters ไม่ใช่ผลงานเรื่องแรกของเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังครอบครัวแห่งเอเชียผลงานที่ผ่านมาของเขาย่อมไม่ธรรมดาและน่าจะติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ร่วมสำรวจความอบอุ่นและร้าวรานที่ Hirokazu Koreeda ฝากไว้บนแผ่นฟิล์มไปด้วยกันกับภาพยนตร์ 5 เรื่องนี้ Nobody Knows (2004) ภาพยนตร์ที่ทำให้ชื่อของ Hirokazu Koreeda ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และคงเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนน่าจะทั้งรักทั้งเกลียด ส่วนเหตุผลว่าทำไมคำตอบอยู่ในตัวหนังที่ต้องไปหาดูกันเอง Nobody Knows เล่าเรื่องราวของครอบครัวฐานะยากจนครอบครัวหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยว และลูก ๆ อีก 4 คนที่ต้องแอบอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ เนื่องจากผู้เป็นแม่แจ้งกับเจ้าของห้องเช่าว่าเธอมีลูกแค่คนเดียวเท่านั้น เด็ก ๆ จึงไม่สามารถออกไปไหนมาได้ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในห้องพัก และอยู่
เซเลปรอบโลกเมื่อมีครอบครัวแล้ว เด็ก ๆ ในครอบครัวมักจะถูกจับตามองอยู่เสมอ ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ยันออกมาเผชิญโลกกว้าง หลาย ๆ ครอบครัวก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ พาหนูน้อยออกสื่อ ออกงานสังคมบ้าง แต่บางครอบครัวนั้น ต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวของเด็ก ถึงขนาดที่ไม่เปิดเผยแม้แต่ชื่อของเด็กเลยด้วยซ้ำ พาออกงานน่ะหรอ อย่าหวังเลย จะเห็นว่าแต่ละบ้านก็มีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไป UNLOCKMEN พามาแกะรอยเทคนิคการเลี้ยงลูกแบบเท่ ๆ จากคุณพ่อเซเลปสุดคูล ให้ได้ดูกันว่า แมน ๆ สอนลูก เขาสอนกันยังไง Ryan Reynolds & Blake Lively แม้ Ryan Reynolds จะขึ้นชื่อเรื่องความขี้เล่นแบบไม่มีใครเถียง ทั้งจากคาแร็กเตอร์ในชีวิตจริง ทั้งคาแร็กเตอร์จากภาพยนตร์ โดยเฉพาะที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Deadpool ถึงจะมีลุคขี้เล่นแบบนั้น ครอบครัวนี้กลับขึ้นชื่อเรื่องความหวงความเป็นส่วนตัวของลูก ๆ เอามาก ๆ ชนิดที่ว่าลูกสาวคนเล็กของครอบครัวนี้ เพิ่งได้ออกสื่อเป็นครั้งแรกในงาน Hollywood Walk of Fame ที่เขาไปจารึกชื่อลงบนทางเดินแบบวิถีเซเลปฮอลลีวู้ด ที่ทำไว้เพื่อเป็นเกียติแก่บุคคลในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเจ้าหนูคนเล็กนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีรูปออกสื่อเลยด้วยซ้ำ มีเพียงรูปเดียวคือ รูปที่หนูน้อยหันหลังเห็นเพียงเท้าของเธอเท่านั้น เด็ดสุดคือ เขายังไม่เปิดเผยชื่อของเธอกับสื่อเลยด้วยซ้ำ แถมยังเคยจะตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนรักของตัวเอง ที่พยายามเอารูปของลูกสาวไปขายให้กับสื่อ
วันหยุดยาวแบบนี้คนเหงาหลายคนคงได้กลับไปบ้านเกิดหรือบ้านที่รวมญาติ ๆ แบบพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากทักทายหน้าชื่นตาบานกันเรียบร้อยแล้ว พอถึงโหมดพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบ มีหรือที่จะพลาด ยังไงก็ต้องโดนยิงคำถามชีวิตส่วนตัวอย่างแน่นอน วินาทีที่โดนคำถามแม่งโคตรเคว้งคว้าง หันไปขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เหมือนสปอตไลต์ส่องลงมาที่เราคนเดียว วันนี้ UNLOCKMEN ชวนมาหลบหลีกและตอบคำถามจากญาติผู้ใหญ่แบบมือโปร แม้ว่าคำถามเหล่านั้นจะแทงใจแค่ไหนก็ตาม มีอะไรบ้าง ไปดูกัน มีแฟนหรือยัง ? หากมีคนรู้ใจแล้ว ก็คงไม่เป็นปัญหาที่จะบอกอย่างภาคภูมิใจแบบเต็มเสียงว่า “มีแล้วครับ” พร้อมเปิดรูปโชว์ความน่ารักของสาวแบบยืด ๆ แต่ถ้าไม่มีล่ะ อันนี้สิปัญหา เพราะมันจะตามมาด้วยคำถามที่ว่า แล้วเมื่อไหร่จะมี ? ถ้าจะให้ตอบจริง ๆ ก็คงจะเป็น “ไม่รู้ครับ น่าจะไม่มีใครเอา” แต่ตามมารยาทเราตอบแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้วล่ะ เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ เฉไฉไปว่าตอนนี้กำลังโฟกัสเรื่องงาน เพราะการงานมันช่างราบรื่นซะเหลือเกิน จนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น ช่างเป็นคำตอบที่ดูหล่อขึ้นมา 5 คะแนนซะจริง ๆ เพราะดูเหมือนว่าแม้ความรักจะยังว่างแต่ส่วนของการงานนั้นเราไปได้สวย (ถึงความเป็นจริงจะเกลียดวันจันทร์ขนาดไหนก็ตาม) เมื่อไหร่จะแต่งงาน ? หากข้อแรกนั้น คุณตอบไปว่ามีคนในใจแล้ว คำถามคอมโบที่ยังไงต้องตามมาจากคำถามแรกแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คงจะเป็นคำถามนี้นี่แหละ เช่นเคย ถ้าคุณมีแพลนในใจแล้วมันคงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าหากคุณยังไม่มีแพลนจะแต่งงานคงกระอักกระอ่วนพิกล ที่จะบอกว่าแฟนคนนี้ยังไม่ใช่ หรือไม่คิดจะแต่งงานกับคนนี้ รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง