GADGETs

‘CLEANSEBOT’หุ่นยนต์ทำความสะอาดจิ๋วสุดอัจฉริยะ เก็บกวาดแบคทีเรียทุกซอกบนเตียงได้อย่างหมดจด

By: PERLE January 16, 2019

คุณเคยตื่นนอนมาแล้วรู้สึกป่วยมั้ย? 

เชื่อว่าทุกคนต้องเคยประสบแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม โดยเฉพาะใครที่เป็นภูมิแพ้น่าจะเข้าใจดี อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุมาจากเตียงนอนที่ไม่สะอาด มีแบคทีเรียและไรฝุ่น ยิ่งเป็นเตียงนอนตามโรงแรมยิ่งมีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปอีก

ด้วยเหตุนี้นักประดิษฐ์หัวใสจึงคิดค้น ‘Cleansebot’ หุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะขนาดจิ๋วขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

CleanseBot สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในทุกพื้นผิวด้วยการใช้แสง  UV-C  นอกจากนั้น CleanseBot ยังผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถฆ่าเชื้อ E.Coli ได้ถึง 99.99%

พื้นที่ไหนมีเชื้อโรคและแบคทีเรียมากที่สุดในบ้าน?

จากการวิจัยของ University of Houston พบว่าพื้นที่ที่มีเชื้อโรคและแบคทีเรียมากที่สุด ได้แก่สวิตช์ไฟ รีโมททีวี และผ้าคลุมเตียง

CleanseBot เป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะสำหรับขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่ในบ้านเท่านั้น แต่คุณสามารถนำเจ้า CleanseBot ไปทำความสะอาดได้ทุกที่ที่คุณต้องการ โดยเฉพาะห้องพักในโรงแรมที่ถือว่าเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าเชื้อโรคก็ไม่ใช่ปัญหาหนักใจอีกต่อไป

CleanseBot มาพร้อมปัญญาประดิษฐ์และเซ็นเซอร์ 18 ตัว โดยใช้หลอด UV-C สี่หลอดเพื่อกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียซึ่งได้ผลถึง 99.99% ในทุกสภาพพื้นผิว

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ใด ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเตียง เพียงแค่ตั้งค่า CleanseBot และเปิดใช้งานเป็นเวลา 30-60 นาที ระหว่างนั้นคุณอาจจะไปแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่น ๆ หรือออกไปทานอะไรอร่อย ๆ และเมื่อคุณกลับมาก็จะพบเตียงนอนที่สะอาดหมดจดพร้อมทิ้งตัวลงสู่ห้วงนิทรา

ไม่ใช่แค่ความสะอาดบนเตียงเท่านั้น แต่แสง UV-C ของ Cleansebot ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสในอากาศได้อีกด้วย

Cleansebot จึงเป็น Gadget ที่ตอบโจทย์เรื่องปัญหาสุขภาพของคนรุ่นใหม่ที่ทุกคนควรมีไว้ในครอบครอง

Cleansebot ราคาเริ่มต้นที่ 99 เหรียญหรือประมาณ 3,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยถ้าคิดว่ามันเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพในระยะยาว เพราะในวันที่ร่างกายย่ำแย่ ต่อให้จ่ายเงินมากแค่ไหนก็ยากที่จะเรียกมันกลับคืนมาได้

ใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ ที่นี่

 

SOURCE1

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line