Life

อะไร ๆ ก็โทษกาแฟ กาแฟไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป “3 ข้อดีของกาแฟ” ที่แค่ได้รู้ก็เป็นสุขใจ

By: PSYCAT July 6, 2017

เราอยู่ในยุคที่อยู่ ๆ “กาแฟ” ก็กลายเป็นผู้ร้ายทำลายความสำเร็จในชีวิตขึ้นมา สารพัดกูรู้ ผู้รู้ พากันออกมาชี้นิ้วบอกว่า “นี่ถ้าพวกคุณไม่กินกาแฟไปสามสิบปี จะมีเงินหลายแสน หลายล้านเลยนะ” หรือไม่ก็หนังสือขายไม่ได้ ดันมาโทษว่าคนเอาเงินไปซื้อกาแฟแทนที่จะซื้อหนังสือเสียอย่างนั้น

UNLOCKMEN ไม่ขอออกความเห็นว่าตกลงกาแฟเป็นผู้ร้ายอย่างที่ใคร ๆ กล่าวหาจริงหรือไม่ หรือถ้าไม่กินกาแฟแล้วจะมีเงินล้านจริง ๆ หรือเปล่า (หรือสุดท้ายก็เอาไปทำอย่างอื่นหมดได้อยู่ดี?) แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะมาเอาใจคอกาแฟ บอกเรื่องราวดี ๆ ของกาแฟที่มีผลต่อชีวิตดูบ้าง จะได้ไม่ต้องจิบกาแฟแล้วน้อยเนื้อต่ำใจเพราะโดนสังคมรุมประณามอีกต่อไป

1.กาแฟกระตุ้นความตื่นตัวและสภาพจิตใจ

Stephen R. Braun ผู้ศึกษาเรื่องคาเฟอีนอย่างจริงจังและเขียนเป็นหนังสือเรื่อง Buzz: The Science and Lore of Alcohol and Caffeine  พูดถึงคาเฟอีนในกาแฟที่ช่วยเรื่องการตื่นตัวและสภาพจิตใจ

adenosine คือสารประกอบในสมองที่หลั่งออกมามีผลต่อความเหนื่อยและความง่วงนอนของเรา คาเฟอีนในกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยหยุดการหลั่งของสารประกอบที่ว่านี้ (เวลากินกาแฟแล้วถึงไม่ง่วง)

อย่างไรก็ตามปริมาณคาเฟอีนที่จะส่งผลก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง คุณภาพการนอน แต่ปริมาณเฉลี่ยที่ดีที่สุดที่จะกระตุ้นให้เราตื่นตัวและมีสภาพจิตใจที่เหมาะสมส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่ระหว่าง 100 -250 มิลลิกรัม และจะยิ่งมีผลเป็นพิเศษสำหรับคนที่เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ อยู่แล้ว

2.กาแฟเพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้ของคุณ

งานวิจัยเรื่อง Caffeine for the prevention of injuries and errors in shift workers โดยนักวิจัยจากโรงเรียนการสุขศาสตร์และเวชศาสตร์เขตร้อนของกรุงลอนดอน โดยบางส่วนของงานวิจัยเปิดเผยว่าคาเฟอีน “improved concept formation and reasoning … orientation and attention … and perception.”

การดื่มกาแฟช่วยปรับการคิดเชิงคอนเซ็ปต์และการให้เหตุผลของเราให้ดีขึ้น รวมถึงช่วยด้านการโฟกัส การให้ความสนใจ และการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ดังนั้นเราไม่ได้คิดไปเองว่าหลังจากการดื่มกาแฟแล้วเราตื่นตัว ไปจนถึงอาจจะรับรู้อะไรได้ดีกว่าเดิม

3.กาแฟช่วยให้ควบคุมตัวเองให้ไม่ทำเรื่องไม่ดีก็ได้!?

คนทำวิจัยเรื่องแปลก ๆ บนโลกใบนี้มีมากมาย นักวิจัยจาก University of North Carolina ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทดสอบว่าปริมาณคาเฟอีนมีส่วนช่วยให้คนรู้จักมีหิริโอตตัปปะในการควบคุมตัวเองไม่ให้ทำเรื่องไม่ดีหรือไม่

วิธีการทดลองของเขาก็คือแบ่งคนทำงานกะกลางคืน (ที่ผ่านการอดนอน) ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้เคี้ยวหมากฝรั่งธรรมดา ไม่มีส่วนผสมของอะไรทั้งสิ้น อีกกลุ่มให้เคี้ยวหมากฝรั่งที่มีคาเฟอีนเท่ากับการดื่มกาแฟดำ 2 ถ้วย

จากนั้นให้ทำงานไป เคี้ยวหมากฝรั่งของตัวเองไป แล้วให้ระบุชั่วโมงการทำงานของตัวเอง (ยิ่งระบุว่าทำงานมากก็ได้มาก) ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ได้รับคาเฟอีนเท่ากับการดื่มกาแฟ 2 แก้ว มีแนวโน้มควบคุมตัวเองไม่ให้โกง หรือโกหกได้มากกว่ากลุ่มที่เคี้ยวหมากฝรั่งธรรมดา

ไม่น่าเชื่อเลยว่าการทดลองแบบนี้ก็มีด้วย และไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่ากาแฟส่งผลต่อคนเราด้านความซื่อสัตย์ได้ด้วย

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะบริโภคอะไรถ้าเป็นปริมาณที่มากเกินไปก็ล้วนมีผลเสียที่ตามมาทั้งสิ้น ควรดื่มแต่พอดี เพื่อสร้างประสิทธิภาพดี ๆ และความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต

สุดท้ายนี้ ความสุขแต่ละคนก็เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปเถอะ ถ้าเราอยากซื้อกาแฟมากกว่าซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือซื้อหนังสือก็เป็นความสุขส่วนตัวของเราที่ไม่ได้หนักส่วนไหนของใคร แค่อย่าเอามาตรฐานแบบเดียวของเราไปตัดสินว่าความสุขของคนอื่นเป็นเรื่องไร้สาระก็น่าจะคูลมากพอแล้ว ว่าไหมล่ะ?

 

SOURCE1 , SOURCE2SOURCE3

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line