CARS

เปิดคลังอาวุธหนัก!! ส่องรถสะสมของ “คุณ เพชรจ้า” และการดูแลรักษาแบบถึง ๆ ของคนรักรถตัวจริง

By: HYENA March 5, 2021

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นผู้ชาย ความชอบหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ในชีวิตเลยก็คือ “รถยนต์” แน่นอนว่าทุกคนอาจจะมีรถในฝันกันทั้งนั้น ซึ่งมันก็ไม่ต่างไปจากผู้ชายที่เราจะมาพูดคุยกับเขาในวันนี้  เพราะผู้ชายคนนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่คลั่งไคล้ในเรื่องของรถแบบสุด ๆ ถึงขั้นมีรายการที่เกี่ยวกับรถเน้น ๆ ที่เกี่ยวกับรถล้วน ๆ อย่าง “What The Fast” ออกมา นั่นคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก DJ.PETJAH หรือ คุณ เพชรจ้า- นายวิเชียร กุศลมโนมัย นั่นเอง

วันนี้เราจะไปพูดคุยแบบเจาะลึกว่า จุดเริ่มต้นของความชื่นชอบในรถของ คุณ เพชรจ้า มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน รถคันไหนคือคันที่ชอบมากที่สุด รวมไปถึงข้อนี้ที่จะขาดไปไม่ได้ นั่นก็คือ เทคนิคในการดูแล และทำให้รถที่มีอยู่ในครอบครองทุกคันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และขับได้เนียนเต็มประสิทธิภาพ

เพราะต้องบอกเลยว่า รถแค่ละคันที่ คุณ เพชรจ้า สะสมเอาไว้นั้น มีทั้งเก่า และใหม่ มีครบทุกสายเลยไม่ว่าจะเป็นรถซิ่ง JDM รถเครื่องใหญ่ทรงพลังอย่าง American Muscle รวมไปถึง Super Car จากอิตาลี วันนี้ทุกจะได้รู้กันแบบหมดไส้หมดพุงแน่นอน

 


“ชอบรถตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงชอบรถ ชอบสะสม ทำไมไม่ชอบเลี้ยงหมา ไม่ไปเล่นดนตรี ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว ตอนเด็ก ๆ เราอาเงินไปซื้อพวกหนังสือรถเยอะมาก แล้วก็จะเอามาอ่านศึกษา แต่ตอนนั้นมันมีปัญญาแค่ซื้อหนังสือเล่นละ 25 บาท อ่านจนรู้ว่า มันจะต้องใส่ท่อแบบนี้ ใส่พวงมาลัยยี่ห้อนี้ คือดูเหมือนมันไม่มีประโยชน์ ดูโคตรไร้สาระ พ่อแม่ยังเคยถามอ่ะว่า มึงบ้าป่าวเนี่ย หนังสือเรียนไม่อ่าน มานั่งอ่านหนังสือรถ แล้วรถมึงก็ไม่มี”

“ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้นะว่าตัวเองเป็นคนชอบรถมาก เห็นคนที่เป็นตำนานของประเทศอย่าง พี่เล็ก โปรเจ็คเอ็ม ตอนนั้นเขาจะมีรถสปอร์ตอย่าง Supra, GT-R, 200SX, RX-7  เราเห็นแล้วรู้สึกว่า คนอะไรวะ ทำไมมันมีรถเก็บสะสมเอาเยอะขนาดนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าวันหนึ่งเราก็อยากมีอย่างนั้นบ้าง พอถึงเวลาที่เราไปทำงาน มันเลยทำให้เรารู้ว่าเราจะหาเงินไปเพื่ออะไร?”

“ยิ่งตอนนั้น ไปขอพ่อซื้อรถ พ่อก็ไม่ซื้อให้ พอมาซื้อก็ซื้อแบบ Lancer  จนสุดท้ายเราก็ไปแต่งเป็น Evo นั่นแหละ เป็นรถคันเดียวที่พ่อซื้อให้ในชีวิต ขับอยู่คันเดียว ขับตั้งแต่อยู่มัธยมลากยาวจนถึงตอนเป็น DJ ที่ 95.5 Virgin Hit สุดท้ายเอาไปชนก็ต้องเอาไปซ่อมใหม่กลับมาใช้ต่อ”


“พ่อไม่ยอมซื้อรถใหม่ให้ ทั้ง ๆ ที่ตัวพ่อเองเนี่ย ขับรถสปอร์ต แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อเราถึงไม่ซัพพอตลูกเรื่องนี้ นั่นแหละมันก็เลยเกิดเป็น Passion ขึ้นมาว่า เราจะต้องหาตังแล้วเอามาซื้อรถ เพื่อจะเอาไปอวดพ่อของเราให้ได้ ตอนหลังพอเราซื้อรถปุ๊บ เราจะต้องขับไปรับพ่อก่อน ให้พ่อเห็นก่อน”

“อารมณ์ประมาณว่าพ่อไม่ซื้อให้ เราซื้อเองให้ดู เริ่มตั้งแต่ Benz ปลาวาฬ มือ 2 ไม่กี่แสน มันเป็นรถที่พ่อเราเคยใช้ เราก็เลยซื้อไปเกทับ อารมณ์แบบ ไงล่ะ!! ลูกชายเนี่ย มีรถเหมือนที่พ่อใช้แล้วนะ แล้วเริ่มพัฒนาขึ้นมาเป็น Mustang คันที่พ่อเคยขับให้เรานั่ง”

“จนวันหนึ่งก็มาเจอคันแดง มันเป็นแบบเดียวกับที่ป๊าขับให้เรานั่งตอนเด็กเลย แต่ตอนซื้อมาพ่อเสียไปแล้วเลยไม่ทันได้เห็น เราไม่เคยขับรถพวกนี้ไปผับเพื่ออวดสาวเลยนะ เราจะเอาไปอวดพ่ออย่างเดียว คือถ้าจัดรายการวิทยุเสร็จตี 2  เราจะรีบขับไปรับพ่อไปกินก๋วยเตี๋ยวที่เยาวราชตลอด เทียบกับขับไปผับเนี่ย นับครั้งได้ เพราะการอวดพ่อมันทำให้เรารู้สึกว่า เราทำสำเร็จว่ะ พ่อก็จะเข้าไปนั่ง จับนั่นจับนี่ แล้วเขาก็จะพูดแบบ โอ้โห มึงนี่แม่งเอาจริงว่ะ มึงแม่งของจริงว่ะ มันทำให้เราภูมิใจในตัวเอง นั่นคือ ที่มาว่าทำไมผมถึงมี Passion เกี่ยวกับเรื่องรถ”


“ส่วนใหญ่จะเป็นรถ American Muscle ซะส่วนใหญ่ อย่างเช่น Ford Mustang 1969 คือจะเหมือนรถที่อยู่ในหนังเรื่อง John Wick รถที่มันฮิตสุด ๆ นั่นมันเป็น Shelby GT500 เราก็เลยเอารถเราไปแต่งให้เป็น Shelby GT500″

“ส่วนอีกคันก็จะเป็น Ford Mustang ปี 1964 จริง ๆ มันคาบเกี่ยวระหว่าง 64 กับ 65 เป็นรถเปิดประทุน คันนี้อยากได้มานาน แล้วก็ได้มาโดยบังเอิญ แล้วก็มีอีกคันนึงเป็น Corvette Stingray ปี 1968 เป็นตัวที่มีราคาที่สุด แล้วก็จะเป็น Muscle Car รุ่นใหม่หน่อย ก็คือ เจ้า Bumblebee”


“ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่บ้าหนังมาก รถแต่ละคันเนี่ยจะต้องอยู่ในหนัง ยิ่งหนังดังเท่าไหร่ยิ่งอยากได้รถคันนั้นมา อย่าง Mustang สีเทาก็คือ มาจากเรื่อง Gone in 60 Seconds ส่วน Mustang สีแดง นี่อยู่ในหลายเรื่องมาก แล้วก็ Chevrolet Camaro ก็มาจากหนังที่ดังมาก นั่นก็คือ Transformers ตอนเห็นพระเอกขับรถเก่า ๆ บุโรทั่งสวนกันอยู่ใต้อุโมงค์ แล้วแม่งแปลงร่างมาเป็นคันนี้”

“คือ จำได้ติดตา จำซาวด์ดนตรี จำทุกอย่างได้เลย เห็นปุ๊บรู้สึกเลยว่า โห!! รถอะไรวะแม่งโคตรหล่อ แม่งแปลงเป็นหุ่นยนต์ได้ด้วย เลยคิดว่า ชาตินี้ต้องได้ขับ มีความรู้สึกว่า มันโคตรของโคตรหล่อเลยในตอนนั้น จนสุดท้ายมันก็มาอยู่ในบ้านเรา เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่เรามี Bumblebee อยู่ในบ้าน”


“ในสายรถซิ่งญี่ปุ่นก็จะเป็นพวกรถยุค 90 อย่าง GT-R R33 ซึ่งเป็นรถที่หลาย ๆ คนบอกว่าเป็นลูกเมียน้อย แต่สำหรับเรา มันอยู่ในยุคที่ผมเป็นวัยรุ่นพอดี สำหรับผม R32 เก่าไป R34 ก็ใหม่ไป เราก็เลยรู้สึกว่าชอบ R33 มากที่สุด จริง ๆ มี 2 คัน กำลังทำอยู่อีกคันนึง นอกจากนี้ก็จะมี Mitsubishi Evolution ที่เป็นตัวแทนของเฉินหลง ถ้าคนดูหนังเฉินหลง เขาจะใช้ Mitsubishi Evo ผนวกกับเป็นรถคันแรกในชีวิตของเราด้วย แล้วก็เป็นรถคันเดียวที่พ่อซื้อให้ เราก็เลยหามาเก็บสะสมเอาไว้”

“นอกจากนี้ก็จะรถอิตาลีอยู่คันนึงก็คือ Lamborghini Huracan Evo แล้วก็มี Mini Austin เพราะชอบ Mr.Bean รู้สึกว่ามันเป็นรถที่มีคาแรคเตอร์ดี และเป็นรถแข่งในสนามในสมัยก่อนด้วย ซึ่งมันน่าประหลาดใจมากในเรื่องของ Handling เอาจริง ๆ แม่งดีกว่าพวก Mustang  รุ่นเก่า ๆ อีก”


“เป็นคำถามที่ทุกคนชอบถามนะ แต่มันตอบโคตรยาก เรื่องคำจำกัดความของเรื่องรถเนี่ย ผมมองว่ารถเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิต มองรถเหมือนคน เพราะฉะนั้น ก็บอกไม่ได้เลยทีเดียวว่า คนไหนมันดี คนไหนที่มันไม่ดี แต่ว่ารวม ๆ ที่มีอยู่เนี่ย คบแต่คนดีหมดเลย”

 

“อย่างพวกรถ Mustang, Corvette เก่า ๆ  มันก็เหมือนคนแก่ที่ยังสุขภาพดีที่อยู่กันมานาน และยิ่งแก่ยิ่งหล่อ อันนี้คือความรู้สึกนะ  แต่ถ้าเป็นพวก GT-R พวกนี้มันจะยังไม่แก่มาก สาว ๆ ชอบ แรงตอบโจทย์ แต่ถ้าเป็นรถรุ่นใหม่ ๆ อย่าง Bumblebee, Lamborghini พวกนี้มันจะเป็นเหมือนหนุ่มหล่อในยุคปัจจุบันซึ่งแบบว่าไปออกศึกที่ไหนก็ได้”

“ถ้าถามว่า รักคันไหนมากที่สุด ต้องขอแบ่งเป็น 2 Part  คือ คันที่แพงที่สุด กับคันที่หายากที่สุด แล้วกัน คันที่แพงที่สุดก็จะเป็น Lamborghini เพราะว่าเป็นรถที่ไม่เคยคิดจะซื้อ แต่ว่าเราเล่นรถอเมริกันมาจนสุดทางจริง ๆ”

“แม้แต่วินาทีนี้ที่นั่งคุยกันอยู่ รุ่นใหม่ล่าสุด Corvette C8 ที่เพิ่งออกมา เราก็สั่งไปแล้วเหมือนกัน เราเลยรู้สึกว่าอยากจะลองเปลี่ยนเส้นทางเพิ่มประสบการณ์ชีวิตบ้าง ก็เลยลองไปซื้อรถอิตาลีมาใช้บ้าง แล้วมันก็แพงเหลือเกิน ทำให้ช่วงเวลานั้น เราต้องขายรถที่มีออกไปตั้ง 3 คัน เพื่อจะแลกมันมาเลยรู้สึกว่าเออเฮ้ยมันมีความสำคัญ และเป็นลูกรักคนนึง”

“ส่วนอีกคันนึงก็จะเป็น Corvette Stingray ปี 1968 มันเป็นรถที่ Super Starในอดีตเค้าใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Arnold Schwarzenegger, Steve Jobs หรือแม้แต่วันที่เขาจะปล่อยจรวด Apollo ขึ้นอวกาศ เขาก็เอา Corvette รุ่นนี้ไปจอดเปิดตัวอยู่หน้ากระสวย 3 คัน มันแบบเป็นรถที่เจ๋ง และหายาก ในเมืองไทยรถเเท้ ๆ เนี่ย มีไม่กี่คันเท่านั้น”


“ต้องบอกเลยว่า แม่งโคตรยุ่ง ยิ่งถ้าเป็นรถเก่าคือ มีตังค์อย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีเวลามีความรู้ เปรียบเป็นคนก็เหมือนกับมีคนชราอยู่ที่บ้าน ก็คือ มีเงินรักษาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเวลาดูแล ต้องคอยถามว่าเป็นไงบ้าง อย่างน้อย 4 วันต้องสตาร์ทครั้ง ต้องคอยถามเขาว่า เป็นไงบ้าง ต้องพาออกไปเดิน พาออกไปวิ่ง ถ้าเจ็บปวดออดแอด ๆ ปุ๊บ ต้องรีบพาหาหมอทันที ทิ้งไว้ไม่ได้ เนี่ยคือเสน่ห์ของการดูแลรถ”

“เล่นรถเก่ามันจะเพิ่มวิทยายุทธในวงการรถให้กับเรา จะทำให้เรารู้แพทเทิร์นในการดูแลรถ อย่างถ้ารถสตาร์ทไม่ติด เราจะรู้เลยว่ามันจะเกิดมาจากอะไร ถ้าเร่งไม่ขึ้นต้องแก้ที่ตรงไหน อีกอย่างคือเรื่องของการวิ่ง เวลาเราสตาร์ทติดแล้วต้องเอาเขาไปวิ่ง ส่วนใหญ่แล้วต้องเอาไปวิ่งทุกประมาณ 4  วัน”

“แต่ถ้าไม่ว่างจริง ๆ บางทีก็มีครึ่งเดือน การเอารถพวกนี้ออกไปวิ่งเนี่ย มันสำคัญมาก และสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้เลยว่าเราจอดทิ้งไว้นานเกินไปก็คือ บางทีรถที่จอดแล้วไม่ได้ใช้เนี่ยยางมันจะแบน เพราะฉะนั้นเราต้องหมั่นเช็คลมยาง ถ้าขี้เกียจเติมลม เราก็ต้องขยันเอาเขาออกไปวิ่ง มันจะทำให้ยางมันใช้ได้นานขึ้นด้วย”

“เวลาจอดนาน ๆ ยางมันเสื่อมหรือหมดอายุ เวลาเราขับเราจะได้ยินเสียง ว๊อง ๆ ๆ ๆ นั่นคือ เสียงยางมันใกล้ตายเต็มที่ มันจะดังลั่นเหมือนจะระเบิดอยู่แล้ว แต่บางคนไม่สนใจ อันนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งนะที่ต้องคอยสังเกตตลอด เพราะยางมันสำคัญมากกับการมีรถหลายคัน และจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ต้องดูเลยว่า ยางบวมมั้ย ผมจะไม่ปล่อยให้ยางผิดปกติเลย”


“บอกแบบนี้ดีกว่า ยาง เป็นส่วนเดียวของรถเลยดีกว่าที่มันแตะอยู่กับพื้นโลก เป็นสิ่งเดียวที่ประคองชีวิตเรา และครอบครัว เวลาขับอยู่บนถนน อย่างเวลาที่ไปถึงร้านขายยาง ตัวผมเองจะบอกเลยว่า พี่ผมก็ไม่ได้ขับเร็วอะไรมากนะ แต่ด้วยสมรรถนะของรถผม มันเป็นรถซิ่งมันเหยียบได้ประมาณนึง ผมต้องการยางที่มันซัพพอตความแรงของรถได้ ต้องอธิบายให้ฟังก่อนนะครับว่า เอายางธรรมดาเนี่ย มาใส่กับรถแรง ๆ เนี่ย มันเอาไม่อยู่ทั้งความเกาะถนน หรือเรื่องเบรคเนี่ยมันเอาไม่อยู่จริง ๆ”

“ผมจะมีสมุดจดเอาไว้เลยว่า รถคันไหนเปลี่ยนยางเมื่อไหร่ รถทุกคันต้องเปลี่ยนทุก 2 ปี พอถึงเวลาจะต้องรีบเอาไปเปลี่ยนยาง เพราะผมเป็นคนที่เวลาขับรถถ้าถนนโล่งเราจะใช้สปีดเต็มที่ เพราะฉะนั้นผมจะเข้าร้านยางเป็นประจำ และผมจะจำได้เลยว่ายางที่เลือกใช้ทุกครั้ง จะเป็นยางของ Continental รุ่น MaxContact MC6 สังเกตง่าย ๆ เลย คือจะมี แก้มยางลายธงตาหมากรุก รุ่นนี้คือดีมาก เหมาะกับรถที่ใช้ความเร็วสูง แล้วก็นุ่มเงียบ เหมาะมากเลย เวลาเราเลี้ยวโค้งยัดโค้งหนัก ๆ เนี่ย มั่นใจ เจ้าของร้านยางเนี่ยรู้เลยเวลาเอารถเข้าไปเนี่ย คุณเพชรจ้า ใช้ Continental ตลอด”


“ใครที่บ้านอาจจะมีทั้งรถซิ่ง และรถบ้าน รถบ้านก็คือ ไม่ได้เอาไปซิ่ง ใช้ขับไปทำงาน ขับไปโรงเรียน บางครั้ง ถ้าเราเลือกยางถูกสเป็ค มันจะช่วยให้เราประหยัดขึ้น สองคือมันขับสบายขึ้น สบายขึ้นยังไง? คือถ้าคุณเอารถบ้านไปใส่ยางซีรีย์สปอร์ตเนี่ย ความที่เป็นยางสปอร์ตเนี่ย มันจะเป็นยางที่เกาะถนน คือมันจะหนึบมาก แต่มันจะมีข้อหนึ่งที่ต่างกับยางรถบ้านคือ มันจะแลกมาด้วยความกระด้าง เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณเอายางสปอร์ตมาใส่กับรถบ้านธรรมดาที่คุณต้องใช้ทุกวัน บางครั้งคุณก็อาจจะได้รับแรงกระแทกที่มันมากเกินไป หรือบางคนมีลูกเล็ก มีคนท้องโดยสารไปด้วยมันก็จะลำบาก”

“เพราะฉะนั้นเวลาเราเลือกยาง เราต้องเลือกให้ถูกสเป็คกับรถ มันจะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าเป็น Continental MaxContact MC6  ที่แม้จะเป็นยางซีรีย์สปอร์ต แต่มันก็ยังให้ความนุ่ม ไม่ว่ารถบ้านหรือรถซิ่งก็ใส่ได้ และเรื่องของขนาดยางก็เป็นอีกสิ่งที่เป็นปัญหาของหลาย ๆ คน แต่ถ้าเป็น Continental MaxContact MC6 เรียกได้ว่าไม่ต้องห่วงเลย เพราะมีทุกไซส์จริง ๆ และดีไซน์นี่ก็ต้องบอกว่า สวย ทันสมัยมาก เพราะผมเป็นคนนึงที่ ถ้าใส่ยางมาแล้ว แก้มไม่สวย ลายดอกยางไม่สวยจะไม่ชอบ เพราะมันดูไม่ซิ่ง อย่างแก้มยางของ Continental ดูปุ๊บรู้เลยว่า มันสปอร์ต”


“มีผลแน่นอน อย่าง Continental จะเป็นยาง “German Technology” จะบอกให้ว่ามันดียังไง เคยสังเกตกันมั้ยว่า สุดยอดยนตกรรม พวกรถระดับโลก  มันไม่ได้มาแค่จากฝั่งอิตาลีอย่างเดียว เอาจริง ๆ มันมาจากฝั่งเยอรมันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Porsche, Mercedes-Benz, BMW รถพวกนี้ High-Performance ทั้งนั้น ซึ่ง Continental คือ ยางจากประเทศเยอรมันแท้ ๆ รถส่วนใหญ่ที่ใช้มันอยู่ในสนามแข่งระดับโลกทั้งนั้ ดังนั้น เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน มันอยู่อันดับต้น ๆ ของโลกอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่ทำให้รู้สึกมั่นใจ และก็ชอบมันมาก”


“ถ้าหากพูดถึง Continental MaxContact MC6 ผมบอกเลยว่า มันเป็นสิ่งที่เพิ่มความปลอดภัยได้เยอะมาก เชื่อว่าเพื่อน ๆ อาจจะต้องเคยมีประสบการณ์เวลาเจอยางเก่า ตอนขับเราจะรู้สึกไม่ค่อยกล้าขับเร็ว มันไม่มั่นใจ รู้สึกเหมือนมันจะไประเบิดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ข้อสอง คือ เราไม่รู้เลยว่า เวลาเราเบรคหนัก ๆ ยางมันเอาอยู่รึเปล่า”

“ผมเคยมีประสบการณ์ตรงคือ ไปเอารถเพื่อนมา ขับอยู่ประมาณ 120 แต่ยางมันหมดอายุไปแล้ว เหยียบเบรคปุ๊บ รถมันไม่หยุด รถแม่งไปต่อ เพราะฉะนั้น ยางมันเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ ซึ่งถ้าใช้ Continental MaxContact MC6 ปัญหานี้จบไปเลย เพราะลายดอกยางถูกดีไซน์มาให้ปลอดภัยสุด ๆ ทั้งรถระยะเบรค การรีดน้ำ มุมองศาหน้ายางเนี่ย มันจะถูกกดลงบนถนนแบบเต็ม ๆ เวลาเบรคเนี่ยรถต้องหยุด ยางต้องทำงานทันที อันนี้คือ สิ่งนึงที่เป็นจุดเด่นของยางในดวงใจของผม”

 

และทั้งหมดนี้ต้องบอกเลยว่า ถ้าหากใครที่จะเข้าสู่วงการรถยนต์ หรือจะเป็นนักสะสมคงได้ความรู้จากพี่เพชรจ้าไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องราวของรถแต่คัน รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษารถ และเรื่องราวสนุก ๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้น และ Passion ที่พา คุณเพชรจ้า เดินทางเข้าสู่วงการรถยนต์แบบสุดทาง สุดท้ายอย่าลืมไปลองยางรถยนต์ระดับโลก อย่าง  Continental MaxContact MC6 กันได้ โดยเฉพาะใครที่กำลังมองหายางรถยนต์คุณภาพที่ตอบสนองการขับขี่ได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมรรถนะ ความปลอดภัย ช่วยประหยัด และที่สำคัญคือราคาสมเหตุสมผล  Continental MaxContact MC6 ชื่อนี้รับประกันว่า ยางรถยนต์รุ่นนี้คือ สิ่งที่คุณกำลังตามหาอย่างแน่นอน

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line