Life

“ผู้ชายร้องไห้ไม่ได้อ่อนแอ”นักจิตวิทยาบอกว่าการร้องไห้ช่วยให้จิตใจแข็งแกร่งกว่าเดิม

By: PSYCAT March 21, 2017

ไม่รู้ใครบัญญัติไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าคนร้องไห้บ่อยแปลว่าเป็นคนอ่อนแอ พอ ๆ กับการบอกว่าน้ำตาเป็นของเหลวแห่งความอ่อนไหวที่มาคู่กับเพศหญิงเท่านั้น ในขณะที่น้ำตาจากลูกผู้ชายอกสามศอกนั้นไม่มีสิทธิแสดงออก เพราะถ้าผู้ชายหลั่งน้ำตาเมื่อไหร่เป็นต้องโดนเหมารวมว่าอ่อนแอ ไม่เป็นลูกผู้ชาย หรือแข็งแกร่งไม่พอทุกครั้งไป แต่ในโลกยุคที่เส้นแบ่งความเป็นชายเป็นหญิงไม่ได้จัดแบ่งกันง่าย ๆ อีกต่อไปแล้ว การร้องไห้บ่อย ๆ แปลว่าเป็นคนอ่อนแอจริงหรือ?

วันนี้เราอาจต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่เพราะนักจิตวิทยาเขาก็สงสัยแบบที่เราสงสัย ถึงได้เริ่มการศึกษา’ศาสตร์แห่งการร้องไห้’ ซึ่งเป็นมุมมองทั้งทางสังคม จิตวิทยา และประสาทวิทยา เพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าแท้จริงการร้องไห้อาจสร้างความแข็งแกร่งให้เรา

17-03-21-crying-is-good-001

Crying relieves stress

น้ำตาไม่ใช่เครื่องหมายของความอ่อนแอ แต่มันไหลออกมาเพราะมีเหตุผลของมัน ผลวิจัยทางเคมีเมื่อ 30 ปีก่อนก็บอกเราแบบนั้นเช่นกัน เพราะน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยอารมณ์ (จะสุข เศร้า เหงา ประทับใจหรืออะไรก็ตาม) มีโปรตีนมากกว่าน้ำตาที่ไหลออกมาแบบบังเอิญ (ปอกหัวหอม ฝุ่นเข้าตา หรือตาแห้งเกินไป) สิ่งเหล่านี้จึงยิ่งตอกย้ำกับเราว่าร่างกายของเรามีความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจเกิดขึ้นจริง ๆ เวลาเราร้องไห้

แล้วน้ำตาลดความเครียดได้อย่างไร? Alex Goetz นักจิตวิทยามีคำตอบให้เราว่า น้ำตาแห่งอารมณ์ที่ไหลออกมานั้น มันมีฮอร์โมนส์แห่งความตึงเครียดหลั่งออกมาด้วย! น้ำตาจึงเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ร่างกายเราระบายความรู้สึกแย่ ๆ ออกมาได้จริง ๆ และการกลั้นน้ำตาไว้อาจทำให้เราดูเป็นคนเข้มแข็งชั่วครั้งคราวแต่จะสร้างผลเสียต่อสุขภาพจิตและความไม่มั่นคงทางอารมณ์ในระยะยาวอย่างที่เราคาดไม่ถึง

17-03-21-crying-is-good-003

Crying builds mental toughness

อารมณ์แย่ ๆ ใครก็ไม่อยากเผชิญ แต่การเพิกเฉยหรือละเลยต่อความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านั้นอาจสร้างผลเสียต่อสุขภาพจิต ไปถึงขั้นมีภาวะวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า รวมถึงกลไกการจัดการความรู้สึกแย่ ๆ อื่น ๆ เช่น พฤติกรรมก้าวร้าว การใช้ยาเสพติด หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ดังนั้นการกล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเราอย่างตรงไปตรงมา ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ในตอนที่อยากจะร้อง โดยไม่ต้องมัวพะวงว่าจะดูไม่แมน หรือใครจะว่าเอา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจอารมณ์แย่ ๆ ของเรามากขึ้น และการกล้าที่จะปล่อยให้น้ำตาไหล ก็เป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่งเท่าที่ผู้ชายสักคนจะทำได้เช่นกัน

17-03-21-crying-is-good-004

Crying helps you cope and heal

Roger Baker ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Bournemouth เชื่อว่าการร้องไห้เป็นการเปลี่ยนอารมณ์(ซึ่งดูเหมือนจับต้องไม่ได้)ที่มันรบกวนจิตใจเรา ให้กลายเป็นน้ำตาซึ่งเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ที่จับต้องได้ โดยกระบวนการนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าความอัดอั้นในใจเป็นความรู้สึกที่มีอยู่จริง เมื่อเราเริ่มยอมรับว่าเราอึดอัด เราเจ็บปวด เราเสียใจ ไม่ใช่เอาแต่ปฏิเสธ เมื่อนั้นเราก็จะเริ่มหาทางเยียวยาความรู้สึกของเรา น้ำตาจึงไม่ใช่สัญลักษณ์ของความไม่เข้มแข็ง แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกและพร้อมที่จะเยียวยาตัวเอง

17-03-21-crying-is-good-005

การร้องไห้จึงได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จริง แต่แน่ล่ะว่าการร้องไห้ไม่ได้ช่วยเราแก้ปัญหาตรงหน้าได้แบบทันใจ หรือพาคนรักที่จากไปให้เดินกลับมาหาเรา ไม่แม้แต่เปลี่ยนสถานการณ์เลวร้ายตรงหน้าให้ดีขึ้นอย่างฉับไว แต่การร้องไห้คือการแสดงสิ่งที่เรารู้สึกออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ และบำบัดความตึงเครียดของเรา พร้อม ๆ กับทำให้เราเข้มแข็งพอที่จะแก้ปัญหาต่อไป

ในยุคสมัยที่ความเป็นชายไม่ได้ถูกผูกติดอยู่กับความเข้มแข็งแบบเดิม ๆ การร้องไห้จึงไม่ได้เท่ากับความอ่อนแออย่างที่เราเคยเข้าใจ ไม่แปลกเลยถ้าน้ำตาลูกผู้ชายจะไหลออกมา เพราะการกล้าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองก็นับเป็นความกล้าหาญอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นผู้ชายทำไมจะร้องไห้ไม่ได้? เป็นผู้ชายทำไมถึงจะมีอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้? บอกกับตัวเองเบา ๆ ว่า crying is good! แล้วลองเรียนรู้ที่จะร้องไห้ระบายสิ่งแย่ ๆ ออกมาบ้างเถอะ

 

SOURCE

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line