DARK WATER ภาพยนตร์จากเรื่องจริงสุดฉาวของบริษัทเหนือกฎหมายที่ฆ่าประชาชนด้วยมลพิษ

ตึงเครียดกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้วยิงยาวมาถึงต้นปี 2020 เมื่อค่ายหนัง Focus Feature ปล่อยภาพยนตร์ดราม่าแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ฟ้องร้องที่สะเทือนไปทั่วทั้งโลกมาสร้างเป็นหนัง ตีแผ่ความจริงของประชาชนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่เคยได้รับความยุติธรรม ไม่เคยถูกมองเห็นในหนังชื่อว่า Dark Water (2019)

เมื่อ UNLOCKMEN ได้ดูตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เผลอคิดไปถึงชีวิตของคนไทยต้องพบเจอกับมลพิษอยู่ทุกวัน มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ? เมื่อมีคนตายจากสารพิษที่โรงงานใหญ่ของนายทุนยักษ์เป็นคนปล่อยออกมาแถมยังไม่ได้รับความยุติธรรม ประชาชนจะทำอย่างไร ? ก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ต่อไป หรือว่าจะลุกขึ้นสู้สักครั้งถึงแม้จะรู้ว่ามันยากจะชนะก็ตาม 

‘ดูปองท์’ บริษัทอุตสาหกรรมที่ทรงอิทธิพลแห่งหนึ่งของโลก

สำหรับผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมคงไม่มีใครไม่รู้จัก Dupont (ดูปองท์) บริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะบริษัทนี้มีบทบาทแทบทุกวงการทั้งการแพทย์ การทำเหมือง การก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ อาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงอุปกรณ์ในครัวเรือน ดูปองท์ทำทุกอย่าง ผู้คนทั่วโลกต่างต้องเคยใช้ผลิตภัณฑ์จากบริษัทนี้มากกว่าหนึ่งครั้งอย่างแน่นอน 

มีอยู่ยุคหนึ่งที่ผู้คนตื่นเต้นกับการใช้กระทะสารเคลือบ Teflon (เทฟลอน) สารประกอบพอลิเมอร์ชนิด polytetrafluoroethylene (PTFE) คุณสมบัติน้ำหนักเบา ทนทุกสภาพอากาศทั้งความร้อนและเย็น เป็นสารเคมีที่พลิกโฉมวงการอุตสาหกรรมของโลกที่ปองท์ผลิตขึ้น 

ดูปองท์บอกโลกว่ามีเคมีภัณฑ์อเนกประสงค์อย่างเทฟลอน แต่ไม่ได้บอกว่าเทฟลอนของตัวเองมีสารพิษเรียกว่า Perfluorooctanoic acid (PFOA) ผลเสียของสารชนิดนี้คือสร้างปฏิกิริยาก่อมะเร็งในร่างกาย ก่อเกิดการกลายพันธุ์ และเป็นพิษต่อระบบประสาทและระบบสืบพันธุ์ โดยพวกเขาก็ปล่อยให้สารพิษไหลลงสู่แม่น้ำลำคลองที่ประชาชนในละแวกโรงงานดูปองท์ในเมืองปาร์คเกอร์สเบิร์ก รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย

เมื่อบริษัทไม่แจ้งว่ามีสารพิษรั่วไหลกระจาย สู่พื้นที่ชุมชน ประชาชนบ้านใกล้เรือนเคียงไม่ทราบถึงมลพิษในอากาศ น้ำในคลองปนเปื้อนด้วยสารพิษ เป็นเวลากว่า 40 ปี ชาวบ้านในชุมชนปาร์คเกอร์สเบิร์กป่วยและล้มหายตายจากกันเป็นจำนวนมาก สัตว์เลี้ยงล้มตาย พืชผักที่ปลูกในชุมชนก็ปนเปื้อนจนกินไม่ได้ ผู้คนในเมืองเป็นมะเร็งเยอะขึ้น บางคนเป็นโรคร้ายแรงอื่น ๆ และเสียชีวิตด้วยภาวะแทรกซ้อน เด็กเกิดใหม่มีความบกพร่องทางร่างกายและสติปัญญา โรคร้ายแรงไม่หายไปจากชุมชนซ้ำยังมีวี่แววหนักขึ้นเรื่อย ๆ 

ดูปองท์ปล่อยสารพิษมากกว่า 7,100 ตัน ออกสู่สาธารณะ จากผลสำรวจคาดว่ามีประชาชนรับสารปนเปื้อนราว 70,000 ราย เกิดการฟ้องร้องจากการพบต้นตอว่าโรคร้ายเกิดจากสารพิษของบริษัทดูปองท์มากกว่า 3,500 คดี 

คดีที่ถูกฟ้องด้วยชาวบ้านส่วนมากเงียบหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ทรงอิทธิพลของโลก พวกเขามีอำนาจในวงการเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ไปจนถึงเข้าแทรกแซงการเมืองของหลาย ๆ ประเทศได้ การฟ้องร้องนับพันครั้งคือเครื่องพิสูจน์ให้รู้ว่าประชาชนตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถล้มยักษ์ได้ ผู้คนเริ่มหมดกำลังใจและเตรียมก้มหน้ารับผลเสียอันน่าเศร้าที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อ 

ทนายความผู้กลายเป็นฝันร้ายน่าสะพรึงของดูปองท์ 

Rob Bilott (ร็อบ บิล็อตต์) ตัวจริง

เรื่องราวของภาพยนตร์ Dark Water (2019) จะเล่าย้อนไปตั้งแต่ปี 1999 เมื่อ Rob Bilott (ร็อบ บิล็อตต์) ทนายความฝีมือดีที่นิยมยืนอยู่ฝั่งจำเลยเสมอ แต่กลับตัดสินใจตกลงรับทำคดีให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาจากสารพิษ การยื่นฟ้องบริษัทใหญ่ขนาดนี้ไม่มีทางสำเร็จได้ในไม่กี่วัน ร็อบใช้เวลาฟ้องร้องคดีที่ไม่มีแววชนะยาวนานถึง 13 ปี ท่ามกลางความตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย เราจะเห็นการกดดันเล็ก ๆ ความหวาดระแวงของร็อบและครอบครัว การนัดเจอของทั้งสองเพื่อเจรจาหาตรงกลาง (มองอย่างไรก็ไม่มีวันหาตรงกลางจริง ๆ ได้) 

การต่อสู้อันยาวนานของร็อบถูกเขียนเป็นบทความดึงดูดผู้คนบนนิตยสาร The New York Times เมื่อปี 2016 ที่มีชื่อเรื่องว่า ‘The Lawyer Who Became DuPont’s Worst Nightmare’ หรือ ‘ทนายความผู้กลายเป็นฝันร้ายน่าสะพรึงของดูปองท์’ บอกเล่าถึงการฟ้องร้องของประชาชนในเมืองปาร์คเกอร์สเบิร์กกับบริษัทดูปองท์ เอ่ยถึงร็อบ บิล็อตต์ ทนายความจากบริษัทกฎหมาย Taft Stettinius & Hollister LLP และเจาะลึกถึงต้นตอของปัญหาอย่างสารพิษที่ใช้ในเทฟลอน

Dark Water (2019) นำเสนอภัยเงียบที่โลกไม่เคยรับรู้มาก่อน ภาพยนตร์นำแสดงโดย Mark Ruffalo (มาร์ค รัฟฟาโล่) รับบทเป็นทนายผู้คอยดูแลเรื่องทุกข์ของชาวบ้าน และ Anne Hathaway (แอนน์ แฮททาเวย์) เมื่อทั้งสองคนโดนทาบทามให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ พวกเขาตอบตกลงทันทีและรื้อเอกสารเก่า ๆ ของคดีที่เกิดขึ้นจริงมาอ่านเพิ่มเติม

Anne Hathaway เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เวลาอ่านเรื่องของผู้คนตัวเล็ก ๆ ที่พยายามเอาชนะมหาอำนาจ ผู้คนอยากเห็นภาพคนตัวเล็กสามารถล้มยักษ์ได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นใน Dark Water คือภาพสะท้อนของสังคมที่เกิดขึ้นจริง”

นอกจากนักแสดงที่อินกับเรื่องราวของหนัง ผู้กำกับของเรื่องก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Dark Water (2019) กำกับโดย Todd Haynes (ท็อดด์เฮย์นส์) เคยฝากฝีมือไว้ในผลงานเรื่อง Poison (1991), I’m Not There (2007) และ Carol (2015) เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขา ผลงานของเขาก็การันตีการจับประเด็นดราม่าขึ้นโรงขึ้นศาลมาเล่าได้เฉือนคม และเสียดสีสังคมอย่างเจ็บแสบแน่นอน

ผู้คนในต่างประเทศส่วนใหญ่ได้รับชมเรื่อง Dark Water (2019) กันไปแล้วในเดือนธันวาคม 2019 พร้อมแชร์คำวิจารณ์ทางบวกจากนักวิจารณ์หนังและคนดูทั่วไป ส่วนประเทศไทยพร้อมเข้าฉายในวันที่ 23 มกราคม 2020 เข้ากับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมลพิษของประเทศไทยจริง ๆ ครับ 

SOURCE