Entertainment

ค้นใจมนุษย์ วรรณะ ความเหลื่อมล้ำใน ‘DELHI CRIME’ซีรีส์ฟิล์มนัวร์อาชญากรรมชั้นยอด

By: PERLE April 18, 2019

บทความนี้ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์ Delhi Crime

ในยุคที่หันไปทางไหนก็เจอแต่ Game of Thrones เราที่ไม่ได้โปรดปรานซีรีส์แนวแฟนตาซีอีพิค หักเหลี่ยมชิงบัลลังก์เลยกลายเป็นชนกลุ่มน้อยไปโดยปริยาย คุยกับใครก็ไม่รู้เรื่อง จึงจำเป็นต้องถอยออกมา เดินตามเส้นทางของตัวเองต่อไป จนกระทั่งวันหนึ่งก็บังเอิญเจอซีรีส์เรื่อง Delhi Crime หลบมุมเงียบ ๆ อยู่ใน Netflix

สร้างจากเหตุการณ์จริง!

นี่คือคำโปรยของซีรีส์เรื่องนี้ เมื่ออ่านเรื่องย่อเพิ่มเติมเราก็จำได้ทันทีว่ามันสร้างมาจากเหตุการณ์รุมโทรมผู้หญิงบนรถบัส เป็นคดีสะเทือนขวัญในช่วงปี 2012 ที่ทั้งโลกให้ความสนใจ เพราะพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมันล้ำเส้นความเป็นมนุษย์ไปมาก เราจึงไม่รอช้า กดปุ่มเพลย์ทันที รู้ตัวอีกทีทั้ง 7 EP ก็จบลงอย่างรวดเร็ว

เราเป็นคนที่มีมาตรฐานในการดูซีรีส์ค่อนข้างสูง ถึงแม้จะดูมาเกิน 100 เรื่อง (นับเฉพาะแค่ใน Netflix) แต่ก็มีแค่ไม่กี่เรื่องที่เรากล้าพูดได้เต็มปากว่าชอบและ Delhi Crime คือหนึ่งในนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นต่าง ๆ ในเรื่อง และอธิบายว่าทำไมทุกคนจึงไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้

สร้างจากเหตุการณ์จริง

South China Morning Post

อย่างที่คำโปรยของซีรีส์เรื่องนี้บอกไว้ ถึงแม้ นิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ อินเดีย จะเป็นเมืองใหญ่ มีประชากรมากกว่า 20 ล้านคน แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับแทบไม่เคยได้รับความสนใจจากโลกภายนอกเลย ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดคดีอะไรก็ไม่มีสื่อจากประเทศโลกที่ 1 สำนักไหนหยิบจับไปเล่า อย่างไรก็ตามในปี 2012 โลกทั้งใบต่างพร้อมใจจับตามองนิวเดลีและประเทศอินเดีย

ผู้ชาย 6 คนรุมโทรมหญิงสาวคนหนึ่งบนรถบัสที่กำลังวิ่งอยู่ในใจกลางเมือง เท่านั้นยังไม่พอ คนร้ายใช้เหล็กแหลมสอดเข้าไปในอวัยะเพศ กระชากลำไส้ออกมา กระหน่ำทุบตีเธอแบบไม่ยั้ง ก่อนจะจับโยนออกนอกรถ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันล้ำเส้นศีลธรรมความเป็นมนุษย์ไปมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั่วโลกพากันกดดันกรมตำรวจเดลีให้จับสัตว์ในคราบมนุษย์เหล่านี้มาลงโทษโดยเร็วที่สุด

มีกลิ่นอายความเป็นฟิล์มนัวร์

Netflix

ภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่จัดอยู่ในประเภทฟิล์มนัวร์นั้นจะใช้แสงสีมืดทึบ หรือขาวดำเป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงด้านมืดในใจมนุษย์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องราวที่เกิดในเรื่องไม่ได้บ่งบอกว่าใครดี ใครเลวกว่ากัน ทุก ๆ คนมีเหตุผลของตัวเอง แตกต่างกันไปตามแต่ละมุมมอง

นี่คือนิยามของฟิล์มนัวร์ ซึ่งใน Delhi Crime มีสิ่งนี้อยู่อย่างเต็มเปี่ยม ดังนั้นเนื้อเรื่องจึงมีความลึก มีมิติที่ให้คนดูได้เข้าไปสำรวจ ไม่ใช่แค่ซีรีส์ตำรวจจับโจรทั่วไป เรารู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยตัวละคร ซึ่งนี่คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ชมติดหนึบหน้าจอ ขยับไปไหนไม่ได้ตั้งแต่ตอนที่ 1 จนจบตอนที่ 7

เริ่มจากศูนย์ ก่อนจะประกอบเข้าด้วยกันเหมือนจิ๊กซอว์

netflix

ในแง่ของการเป็นซีรีส์อาชญากรรม Delhi Crime ก็ถือว่าไม่ด้อย ถึงแม้จะสร้างมาจากเรื่องจริง ความพีคจึงอาจไม่เท่ากับซีรีส์ที่แต่งขึ้นมา แต่โดยรวมก็ถือว่าสนุก ได้เห็นการรวบรวมข้อมูลของตำรวจเดลีที่สู้ไม่ถอย เริ่มต้นจากศูนย์ ไม่รู้อะไรเลย ค่อย ๆ สืบจนได้ข้อมูลมาทีละชิ้น ก่อนจะนำมาประกอบกันเหมือนจิ๊กซอว์จนได้เป็นรูปใหญ่ เป็นการงมเข็มในมหาสมุทรที่ชื่อว่าอินเดีย ดูกว้างใหญ่จนแทบสิ้นหวัง ไม่เพียงเท่านั้น การทำงานต้องแข่งกับเวลา ต้องวินาทีมีค่า ก่อนที่พวกเดนมนุษย์จะหายตัวไปตลอดกาล

นำเสนอความเหลื่อมล้ำในสังคมอินเดีย

Netflix

อีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากชื่นชมใน Delhi Crime คือ การเล่าเรื่องที่ไม่มุ่งเน้นประเด็นหลักอย่างการตามจับคนร้ายเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาได้สอดแทรกปัญหาในสังคมอินเดียไว้โดยตลอด และทำได้อย่างแนบเนียนกลมกลืนไปกับเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย

การที่เด็กรุ่นใหม่มองว่าอินเดียเป็นประเทศเสื่อมโทรม สิทธิสตรีภายในประเทศ และอีกหลายประเด็น มันถูกถ่ายทอดออกมาเหมือนเป็นเรื่องเล่าประกอบฉาก ไม่มีการดราม่าฟูมฟาย แต่ก็ทำให้ผู้ชมที่ไม่เคยรู้จักประเทศนี้มาก่อนได้เห็นภาพชัดขึ้น นี่คือสิ่งสำคัญที่ผู้กำกับและทีมเขียนบททำได้สำเร็จอย่างงดงาม

ใครกำลังประสบปัญหา ‘ไม่รู้จะดูอะไรใน Netflix’ อยู่ ลองเปิดใจให้ซีรีส์ที่ใช้ภาษาอินเดียเรื่องนี้ดู เราขอยืนยันว่ามันคือซีรีส์น้ำดีที่ถูกมองข้าม ทั้งสนุกและเปิดมุมมองให้ได้รู้จักประเทศนี้มากขึ้น

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line