สยองขวัญแบบมันส์และเท่ 5 หนังปราบผี-ปีศาจแบบมาดแมน ที่เหล่าตัวร้ายต้องพ่ายให้กับความคูล

พอเปิดประเด็นหนังปราบผีขึ้นมา หลายคนคงคิดว่าจะมีแต่คุณพ่อหน้าตาเฉิ่ม ๆ เนิร์ด ๆ ในชุดบาทหลวงเต็มยศ มาพร้อมของคู่ใจอย่าง ประคำไม้กางเขนและน้ำมนต์ ออกมายืนอ่านคัมภีร์งึมงัม ๆ ไม่แปลกหรอก เราเองก็เคยชินกับภาพแบบนั้นเหมือนกัน แต่ UNLOCKMEN อยากจะชวนมาเปลี่ยนความคิดชุดนั้นออกไป มาเจอกับ 5 หนังปราบผี-ปีศาจแบบคนมาดเท่เขาทำกัน เอาความคูลมาขับไล่วิญญาณร้ายไปพร้อมกับพระเอกหน้าหล่อเหล่านี้พร้อม ๆ กัน

Constantine (2005)

 Director : Francis Lawrence

ความเท่ของการปราบผีระดับตำนาน เรื่องราวของ John Constantine (Keanu Reeves) เขาไม่ได้เป็นนักบุญ แต่เขาคือผู้ที่เคยผ่านความตาย และมีพรสวรรค์ในการเห็นสิ่งใด ๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาใช้ชีวิตเพื่อกำจัดพวกเกเรกลับนรกไม่ให้เหลือซาก จนเขาได้ไปเจอกับตำรวจสาวที่ขอร้องให้เขาช่วยสืบเกี่ยวกับคดีการฆ่าตัวตายของน้องสาวฝาแฝดของเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อความตายของสาวคนนั้นเป็นเพียงปมเล็ก ๆ ของเรื่องราวอันยุ่งเหยิงระหว่างปีศาจ ลูกตัวแสบของลูซิเฟอร์ที่อยากจะขึ้นมาป่วนโลกนี้แบบเต็มที

ใครที่ชื่นชอบปีศาจแบบตามศาสนา ไม่ใช่ผีแบบ Ghost ล่ะก็ แนะนำเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ เพราะเรื่องนี้จะเต็มไปด้วย ปีศาจ ศาสนา ลูซิเฟอร์ นรก สวรรค์ แต่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของความเท่ที่ไม่ได้ให้ตัวเอกมายืนสวดมนต์ไล่ผีแบบเรื่องอื่น ๆ แถมยังได้เห็น Shia LaBeouf ในวัยละอ่อน เล่นเป็นผู้ช่วยของพระเอกอีกด้วย

 The Devil’s Advocate (1997)

Director : Taylor Hackford

อีกหนึ่งผลงานจาก Keanu Reeves โดยที่เนื้อเรื่องจะไม่หนีกับเรื่อง Constantine มากนัก Keanu Reeves รับบทเป็น Kevin ทนายหนุ่มไฟแรงที่ใช้ความสามารถของตัวเองช่วยเหลือคนผิด เปลี่ยนขาวให้เป็นดำ ในตอนแรกก็ยังเป็นเพียงคดีเล็ก ๆ ในชนบท แต่แล้วโชคชะตาทำให้เขามีโอกาสได้พบกับ Milton (Al Pacino) CEO ของสำนักงานกฎหมายที่ชักชวนให้เขาไปทำงานด้วย ทั้งสองใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่วัน ๆ มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแทบจะทั้งวัน แต่แล้วเหตุการณ์แปลก ๆ เริ่มคืบคลานเข้ามาในชีวิตของ Kevin แบบไม่ทันตั้งตัว และเขาเองก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติจาก Milton ด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวที่ดูเหมือนจะมีเบื้องหลังซ่อนอยู่นี้คือฝีมือของใคร และมันจะจบลงได้ยังไงกัน

หนังเล่าเรื่องราวได้แบบค่อยเป็นค่อยไป ใครที่ชอบเก็บรายละเอียดอาจจะพอจับทางได้ เพราะหนังเองก็ทิ้งคำใบ้เอาไว้เยอะพอสมควร และถือว่าเป็นหนังล่าปีศาจที่ทำออกมาสอนใจเราได้แบบไม่เลี่ยน ไม่อิงศาสนามากเกินไปอีกด้วย

Van Helsing (2004)

Director : Stephen Sommers

ใครที่เป็นสายบู๊ รีบเปิดเรื่องนี้ดูแบบด่วน ๆ เรื่องราวของ Van Helsing (Hugh Jackman) บุรุษที่เป็นตัวแทนขององค์กรลับทำหน้าที่ปราบปีศาจอย่างลับ ๆ นั่นทำให้เขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นฆาตกรอยู่เสมอ เขาจึงใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่กับความทรงจำในอดีตที่ขาดหายไป เมื่อเขาได้เดินทางมายัง Transylvania เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของปีศาจร้ายอย่าง Count Vladislaus Dracula (Richard Roxburgh) และแวมไพร์สาวที่เป็นเหล่าสนมของเขา ที่พยายามทำการทดลองปลุกซากศพให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาต้องค้นหาคำตอบกันว่าพวกนั้นทำไปเพื่ออะไร และที่นี่ยังทำให้เขาได้ค้นพบบางอย่างในอดีตของเขาอีกด้วย

ถือว่าเป็นหนังปราบปีศาจแบบปีศาจจ๋า แถมฉากแอ็กชั่นเจ๋ง ๆ ให้เราได้ลุ้นระทึกเป็นช่วง ๆ ถือว่าดูได้เพลิน ๆ ไม่เครียด ไม่หลอน เหมือนกับหนังผี Horror

Hellboy (2004)

Director : Guillermo del Toro

พลิกแพลงกันสักหน่อย นี่ไม่ใช่หนังปรายปีศาจ แต่ดูเหมือนจะเป็นปีศาจที่มาเป็นฝ่ายปราบอธรรมแทน Hellboy ที่เกิดมาจากความชั่วร้าย (แถมนิสัยก็ค่อนไปทางลบ) ดันถูกเลี้ยงดูมาด้วยฝ่ายธรรมะอย่าง สำนักงานวิจัยและป้องกันอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่เขาต้องอุทิศชีวิตให้กับการปกป้องมนุษย์ที่ไม่ค่อยจะให้ความรักความอบอุ่นกับเขาสักเท่าไหร่นัก มันจึงเป็นความรู้สึกสับสนในใจของเขา ที่ต้องช่วยเหลือสังคมที่ไม่เคยจะเหลียวแหลเขาสักเท่าไหร่ มาดูกันว่าในที่สุดเขาจะกลายเป็นฮีโร่ที่สังคมยอมรับได้มั้ย

ถือว่าเป็นแอ็คชั่นสร้างจากการ์ตูนที่ดูเพลิน ๆ ถือเป็นฮีโร่สุดเฟี้ยวอีกคนที่เราจะลืมฮีโร่มาดเนี้ยบ สุภาพ ทำเพื่อสังคมด้วย Positive Thinking ไปเลย ถือว่าได้เปลี่ยนมุมมอง มาดูในฝั่งของปีศาจกันบ้าง เมื่อเขากลายเป็นฝ่ายล่าอีกทีจะเป็นยังไง

Blade (1998)

 Director : Stephen Norrington

ปิดท้ายไปด้วยแอ็กชั่นมันส์ ๆ กันอีกเรื่องกับเรื่องนี้ เรื่องราวของ Blade ครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ ที่ต้องการจะปกป้องมนุษย์จากแวมไพร์ด้วยกัน เพราะเขาเองไม่ได้ต้องการจะยืนอยู่ข้างเผ่าพันธุ์อีกครึ่งหนึ่งในตัวเขาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาจึงอุทิศชีวิตให้กับการปราบเเหล่าปีศาจแทน แม้ตัวเองจะไม่ใช่มนุษย์เต็มตัวก็ตาม แถมมาในชุดและลุคสุดเท่ ไม่แพ้นักปราบปีศาจในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้แบบไม่ต้องขบคิดอะไรมาก ถือเป็นแอ็กชั่นที่สนุกมากกว่าจะให้ข้อคิดทางศาสนาหรือชีวิตแบบเรื่องอื่น ๆ ที่เราได้เอามาแนะนำ เป็นอีกเรื่องที่เหมาะแก่การนอนดูในวันหยุดซะจริง ๆ

ลองเลือกสักเรื่องที่ถูกใจ แล้วเสพความเท่ของการปราบปีศาจตัวร้ายไปพร้อม ๆ กันกับตัวละครในเรื่อง หากใครอยากได้หนังแนวไหนเพิ่มเติม สามารถแนะนำกันเข้ามาได้ คิดซะว่าได้แลกหนังกันดูกับเพื่อนนั่นแหละ