Business

เราไปด้วยกันไม่ได้ ‘5 วิธีคิดที่ต้องโบกมือลา’ถ้าอยากประสบความสำเร็จ

By: PSYCAT April 19, 2017

หนทางไปสู่ชีวิตที่มีความสุข ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ นอกจากเราจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราต้องทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น บางทีเราก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทัศนคติบางอย่างในตัวที่เป็นอุปสรรคต่อเป้าหมาย และรู้จักโยนมันทิ้งไปบ้าง

UNLOCKMEN อาสาพาคุณมาสำรวจตรวจตรานิสัยที่ซ่อนอยู่ในชีวิต เพื่อดูกันหน่อยว่าทัศนคติหรือนิสัยแบบไหนบ้างที่สมควรต้องโยนทิ้งไปเพื่อให้ความสำเร็จที่เราตั้งเป้าไว้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เลิกเสพติดความสมบูรณ์แบบ

shutterstock_42998383

การคิดว่าชีวิตเราควรระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำได้อย่างหนึ่ง แต่การบอกตัวเองว่าเราจะต้องไม่มีข้อผิดพลาด สมบูรณ์แบบอยู่ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมงเหมือนร้านสะดวกซื้อขนาดนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องระวัง

การไม่ผิดพลาดนอกจากจะหมายถึงการระมัดระวัง แต่ก็อาจหมายถึงว่าเราไม่เคยออกจากเซฟโซนของตัวเอง ไม่เคยลองอะไรใหม่ ๆ ที่ท้าทายเลย เพราะฉะนั้นทำพลาดบ้างก็ได้ อย่ากลัวที่จะผิดพลาด และอย่าลืมเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นและไม่ทำมันซ้ำอีกก็พอ

เลิกคาดหวังคำชมจากคนอื่น

shutterstock_535075969

การได้รับคำชมเป็นสิ่งที่ดี แต่คงไม่มีใครมานั่งชมเราได้ตลอดเวลา และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องรู้จักมองหาเรื่องราวดี ๆ ในตัวเอง เพื่อให้ในวันที่เราไม่มั่นใจกับศักยภาพตัวเอง เราจะรู้จักเป็นกำลังใจให้ตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอคำชมจากใคร

วิธีหนึ่งที่นักจิตวิทยาแนะนำคือการเขียน โดยตอนเย็นของทุกวัน ให้เราเขียนเรื่องที่เราทำสำเร็จของวันนั้นลงไป 3 ข้อ โดย 3 ข้อนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ขอให้เป็นเรื่องดี ๆ ที่เราดีใจที่เราใช้ความสามารถตัวเองทำจนสำเร็จ

วันที่เราหมดกำลังใจ รู้สึกท้อ อยากได้พลังคำชมจากใครสักคนมาขับเคลื่อน ก็ให้หยิบเรื่องราวดี ๆ ที่เราทำสำเร็จในแต่ละวันเหล่านี้ออกมาเป็นพลังให้ตัวเอง

เลิกกลัวคำวิจารณ์

pexels-photo-29642

แน่นอนว่าการต้องรับฟังคำวิจารณ์จากคนอื่นเป็นเรื่องที่ต่อให้แข็งแกร่งอย่างไรก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง แต่การรับฟังฟีดแบ็คจากผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญมาก

งานสำรวจชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการเป็นผู้นำที่รับฟังฟีดแบ็คและรับฟังความเห็นจากผู้อื่นว่ามีความสัมพันธ์กับการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในสายตาเพื่อนร่วมงาน โดยผู้นำที่มีอัตราการถามความคิดเห็น ถามฟีดแบ็คจากผู้อื่นน้อย ถูกจัดอันดับความมีประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ที่ 17% ในขณะที่ผู้นำที่มีอัตราการถามความคิดเห็น ถามฟีดแบ็คจากผู้อื่นมาก ถูกจัดอันดับความมีประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ที่ 83%

ดังนั้นแทนที่จะมัวแต่กลัวคำวิจารณ์ ได้ยินฟีดแบ็คแล้วเห็นเป็นยาขม เห็นทีต้องปรับทัศนคติกันใหม่ เพราะการรับฟังแล้วนำมาปรับปรุง แก้ไข ก็ยิ่งเป็นหนทางที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายและความมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น

เลิกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

pexels-photo-38940

“การเปรียบเทียบ”ตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน กับคนในแผนก กับเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันมา อาจกลายเป็นสัญชาตญานลึก ๆ ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ แต่เชื่อเถอะว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่ดีนักหากเราจะมองไกลไปถึงอนาคตวันข้างหน้า

สิ่งที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจคือความสำเร็จไม่ได้วัดกันจากการเปรียบเทียบครั้งเดียว ชีวิตเราไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่เป็นการวิ่งมาราธอน อีกทั้งแต่ละคนก็มีเป้าหมายในชีวิตต่างกัน

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องเสียเวลาและบั่นทอนกำลังใจตัวเองมาก ถ้าจะมัวแต่เปรียบเทียบตัวเองกับชีวิตคนอื่น ลองนึกดูสิถ้าเรามีเป้าหมายเป็นการเก็บเงินไว้สร้างครอบครัว แต่ถ้าเอาชีวิตไปเทียบกับเพื่อนที่มีเป้าหมายไปเที่ยวรอบโลก เราก็คงรู้สึกหดหู่น่าดูที่เราต้องงก ๆ ทำงานอย่างหนัก ในขณะที่เพื่อนได้ไปเที่ยว อย่าเสียเวลาไปกับการเปรียบเทียบ เพราะ ชีวิต เป้าหมาย ต้นทุน ระยะเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากันสักหน่อย

เลิกสงสัยในความสามารถของตัวเอง

shutterstock_529624054

การรู้ว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน ทำอะไรได้มากน้อยอย่างไรเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นคนละเรื่องกับการลังเลสงสัยในความสามารถของตัวเอง จนทำให้กลายเป็นอุปสรรค เป็นความกลัวและไม่กล้าลงมือทำอะไรที่ท้าทายเสียบ้าง

วิธีที่ดีที่สุดในการเลิกนิสัยแบบนี้ คือการจดลงไปว่าเรามีทักษะอะไรบ้าง มีความสามารถแบบไหนบ้าง และอะไรที่เราอาจจะไม่ได้มีความสามารถ แต่เราใช้การฝึกฝน ใช้ความพยายามจนทำมันสำเร็จมาแล้ว

การจดศักยภาพเหล่านี้ไว้ทบทวนเป็นประจำ โดยเฉพาะการมองเห็นว่าเราทำอะไรสำเร็จมาได้แล้วบ้างจะช่วยให้เราเลิกลังเลสงสัยในความสามารถตัวเอง และกล้ากระโดดเข้าสู่ความท้าทายใหม่ ๆ ในชีวิต

 

SOURCE1SOURCE2SOURCE3SOURCE4

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line