Life

3 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณ “UNLOCK” ตัวเองจากความกดดันรอบข้าง และรู้ว่าอะไรที่คุณควรจะ “Don’t Give A F*ck”

By: HYENA August 23, 2017

เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เราทุกคนจะแคร์ในสิ่งที่คนอื่น คิด หรือ รู้สึก กับตัวของเรา และก็เป็นเรื่องธรรมดามากที่คนเราจะแสวงหาการยอมรับจากผู้คนที่อยู่รอบกาย อาจจะด้วยความรู้สึกไม่อยากจะผิดแปลกไปจากชาวบ้าน อยากจะรู้สึกเป็นที่ยอมรับทางสังคม และไม่อยากจะเป็นแกะดำให้ใครเขาติฉินนินทา คนเราในบางครั้งจึงเลือกที่จะแคร์สิ่งที่อยู่รอบ ๆ กายมากกว่าตัวเราเอง หรือ ที่ฝรั่งมักจะใช้คำว่า “Give A F*ck”

ผลกระทบมันมีมากมายกว่าที่หลายคนคิด ดังนั้นบทความนี้จะอธิบาย 3 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณ UNLOCK ตัวเอง และช่วยให้คุณรู้ว่า อะไรที่คุณควร Give A F*ck อะไรที่คุณควรจะ Don’t Give A F*ck  เพื่อที่จะปลดปล่อยศักยภาพความเป็นตัวคุณออกมาได้อย่างเต็มที่ และหลุดจากอารมณ์เชิงลบทั้งหลายที่อัดแน่นอยู่ในใจ จากการที่คุณใส่ใจกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างมากจนเกินไปมาให้ได้ดูกัน

การที่เราแคร์ กับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบข้างมากเกินไปนั้น มันก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียในตัวของมันเองอยู่เช่นกัน ข้อดีก็คือว่า คุณอาจจะเป็นที่พึงพอใจในสายตาคนรอบข้าง คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว และแปลกแยกไปจากใคร แต่ข้อเสียจากการที่เราพยายามใส่ใจในทุกรายละเอียดกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็น คน, สถานที่, สิ่งของ หรือแม้กระทั่ง ความคิดของคนอื่น ๆ ที่เราไม่อาจจะรู้ได้ว่า ลึก ๆ แล้ว ตัวเรา และ คนอื่น จะ Happy กับสิ่ง ๆ นั้น จริง ๆ หรือเป็นเพียงแค่การกดดันทางสายตาคนอื่นจนที่เรากังวลไปเอง และไม่อยากศูนย์เสียการเป็นที่ยอมรับไป

เมื่อคุณให้ความสำคัญ (Give A F*uck) กับอะไรบางอย่างมากเกินไป แน่นอนว่า คุณอาจจะเริ่มสูญเสียอะไรบางอย่างในตัวเองออกไปทีละน้อยด้วยเช่นกัน จนคุณรู้ตัวอีกครั้งก็กลายเป็นเหมือนบุคคลของสาธารณะ กลายเป็นคนที่จะทำอะไรก็ไม่กล้า เกรงกลัวว่าจะถูกสายตาของคนอื่นเพ่งเล็งจนพลาดโอกาส หรืออะไรดี ๆ ในชีวิตไปในที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ Give A F*ck กับครอบครัว หรือคนรอบข้างที่หวังจะให้คุณทำอาชีพอะไรก็แล้วแต่ที่พวกเขาต้องการและคิดว่ามันดี ทั้งที่คุณเองมีพรสวรรค์ และชอบทางด้านการออกแบบมากกว่า คุณก็เลือกที่จะฝืนตัวเอง และไหลไปตามกระแสคนหมู่มาก ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงก็รู้อยู่เต็มอกว่า มันไม่ใช่อาชีพที่ตัวเองรัก และใฝ่ฝันเลยสักนิดเดียว

Understand Why it Doesn’t Matter

Step แรก คุณต้องเข้าใจซะก่อนว่า ทำไมมันจึงไม่มีประโยชน์ที่คุณจะต้องกังวลเกี่ยวความคิดของคนอื่น สาเหตุก็เพราะว่า คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนว่า คนเรามักใช้วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ส่วนตัวมาตัดสินคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น พวกเขาจะไม่มีทางรู้ว่า อะไรดี หรือ ไม่ดี ไปมากกว่าตัวคุณอย่างแน่นอน

“Most People Are Too Self-Conscious to Judge You”

ที่สำคัญคือว่า คุณไม่ใช่คนเดียวบนโลกที่กังวลเกี่ยวกับความคิดคนอื่น จึงไม่ต้องไปคิดมากว่า ใครจะมองคุณในแบบไหน แต่ให้มองว่า คนเหล่านั้นมีอะไรน่าสนใจ และเชื่อได้แค่ไหนในคำติ หรือคำชมของพวกเขาแทน

ดูคนที่ประสบความสำเร็จหลาย ๆ ต่อหลายคนเป็นตัวอย่างก็ได้ คนเหล่านี้อาจจะเริ่มต้นจากการทำอะไรที่คนรอบข้างหาว่า บ้า โดนคนมากมายดูถูกต่าง ๆ นา ๆ ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขารู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร เขาจึงให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มากกว่า ให้ความสำคัญกับคำพูดของคนอื่น จนตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย

ส่วนสิ่งดี ๆ ที่คนรอบข้างมอบให้มา ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะทำเป็นก้มหน้าก้มตาไม่สนใจไปเลย แต่คุณควรจะรู้สึกขอบคุณ และนำเอาสิ่งดี ๆ ที่สิ่งรอบข้างมอบให้ ไปใช้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาการใช้ชีวิต สรุปง่าย ๆ เลยก็คือ ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีในสิ่งที่คนอื่นยัดเยียดมันมาให้ ก็แค่อย่าไปสนใจ เพราะคนเหล่านั้นยังไม่เอาเวลาไปโฟกัสเรื่องของตัวเองเลย

“The ‘High’ of Approval Does Not Last”

การยอมรับ และ ความคาดหวังที่ “สูง” สำหรับบางคนนั้น ในตอนแรกอาจจะเป็นเหมือนแรงผลักดัน แต่เมื่อถ้าคุณรับมันมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง วันหนึ่งคุณจะรู้ว่า มันเป็นความกดดันที่แทบจะแบกรับเอาไว้ไม่ได้ อีกทั้งทำให้ความสุข และความสมบูรณ์ของชีวิตหายไป

ความคาดหวัง และการจะได้รับการยอมรับจากคนอื่น ๆ นั้น ไม่มีที่สิ้นสุด คุณจะถูกคาดหวังให้ดีขึ้น เก่งขึ้น รวยขึ้น ไปเรื่อย ๆ จนคุณจะรู้สึกว่า จุดไหนกันแน่ คือ จุดที่คนจะยอมรับในตัวคุณได้ คุณมีเพียงหน้าที่ไล่ล่า วิ่งไปข้างหน้าแต่ไม่มีวันเข้าเส้นชัย และไร้ความสุขจากส่ิงที่เรียกว่า แบกรับ และสนใจกับความคาดหวังจากสิ่งรอบข้างมากเกินไปนั่นเอง

การแบกรับความคาดหวังที่สูง เพราะต้องการเป็นที่ยอมรับจากสิ่งรอบข้างจนมากเกินไปนั้น อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่า มีใครต่อใครมากมายอยู่รอบข้างเป็นกำลังใจให้กับคุณเสมอในวันที่คุณยังคงแบกรับมันไหว

แต่เช่ือเถอะว่า การแบกรับสิ่งต่าง ๆ จน ลืมสนใจตัวเองว่ามันมากเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหวแล้วหรือยังนั้น วันหนึ่งที่คุณไม่สามารถจะแบกสิ่งต่าง ๆ ต่อไปได้ คุณก็จะกลายเป็นแค่คนที่ล้มเหลวทั่ว ๆ ไปคนหนึ่ง แล้วคุณจะรู้ว่าการใส่ใจสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป ไม่ได้ช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ หรือเป็นคนที่สมบูรณ์แบบของใครสักคนได้

Build a Lifestyle You Can Be Proud of

ทำในสิ่งที่เหมาะสม และเป็นสิ่งที่คุณอยากทำมันจริง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องกลัวว่า ใครจะมองว่ามันไร้สาระ หรือมันไม่เหมาะกับคุณแต่อย่างใด  คุณรู้ดีว่า ลึก ๆ แล้ว ตัวคุณเองชอบอะไร ซึ่งคนอื่นรอบตัวคุณนั้น 100% ไม่มีทางจะรู้ดีเท่า ดังนั้น คุณจงใช้ชีวิตอย่างที่คุณเป็น และทำในสิ่งที่ถูกต้องไปอย่าได้แคร์ ไม่ว่าคุณเป็นผู้ชายที่ชอบทำอาหาร หรืออาจจะชอบเล่นโยคะ ซึ่งคนอื่น ๆ อาจจะมองว่า คุณแม่งโคตรตุ๊ดก็ตาม

เพราะถ้าหากมันเป็นสิ่งที่คุณชอบทำ ทำแล้วรู้สึกว่ามีความสุข มันไม่สำคัญแต่อย่างใดว่าใครจะแอนตี้คุณบ้าง ผู้หญิงบางคนอาจจะปฎิเสธคุณเพราะ Lifestyle การใช้ชีวิตของคุณ​แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ผู้ชายคนอื่นอาจจะมองว่าคุณตุ้มติ๋มน่ารังเกียจ แต่คุณไม่จำเป็นจะต้อง Give A F*ck กับคนพวกนี้แต่อย่างใด เพราะคนเหล่านั้น ไม่ได้สร้างความสุขอะไรให้คุณแม้แต่นิดเดียว

Catch Yourself Seeking Approval

เลิกที่จะสงสัย และจับผิดตัวเอง เลิกคิดในแง่ร้ายแทนคนอื่น ๆ รอบข้างสักที เพราะนั่นมันทำให้คุณใส่ใจกับอะไรรอบตัวมากเกินไป กลายเป็นคนที่กลัวอะไรไปหมด  ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คุณไม่จำเป็นที่จะคิดแทนคนอื่นเลย ไม่ต้องคิดว่า เธอจะชอบเสื้อของคุณหรือไม่? ถ้าคุณเข้าไปในงานนี้ คนอื่นจะรู้สึกไม่ดีรึเปล่า? หรือ มีใครที่กำลังจับตามองคุณอยู่ไหม? ทั้งหมดนี้คือ ปัญหาที่จะบั่นทอนความสุขในการใช้ชีวิตเป็นอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

เพื่อที่จะไม่ต้องกังวล และเก็บอะไรที่ไม่จำเป็นมาใส่ใจให้รู้สึกแย่ นี่คือ 3 Step ที่จะช่วยให้คุณ Don’t Give A F*ck เรื่องไม่เป็นเรื่อง

1#Catch You Self – จดจ่ออยู่กับตัวเองให้มากขึ้น รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร พูดกับใคร และอะไรที่คุณควรจะรับรู้ และใส่ใจกับมันบ้าง?

2#Accept It – ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณไม่จำเป็นจะต้องเก็บมันมาคิดให้ยาวเหยียด คุณอาจจะแค่รับรู้มัน พร้อมทั้งคิดว่า อืม…แล้วไงวะ?

3#Let It Go – มันไม่สำคัญ หรือจะต้องหาเหตุผลมาให้คุณไม่ไปสนใจสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตของคุณ แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่า คุณจะต้องปล่อยให้มันผ่านไปไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่างหาก โดยอาจจะใช้วิธี หายใจเข้าให้ท้องป่อง หายใจออกให้ท้องยุบ 4 – 5 ครั้ง คุณก็จะรู้ว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนี่หว่า แล้วมันก็ผ่านไป

How to Stop Giving a Fuck

ถ้าคุณทำตามที่เราบอกทั้งหมดนี้  เรารับประกันได้เลยว่า คุณจะเป็นอิสระจากความคิดของคนอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน ขอเพียงแค่คุณเข้าใจว่า การที่คุณ Give A F*uck กับการตัดสินของคนอื่นมากเกินไปไม่เคยช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และมันไม่เคยมีที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม คุณควรจะเริ่มต้นพัฒนาชีวิต และโฟกัสกับตัวเองรวมไปถึงเห็นคุณค่าของเวลาที่เสียไป

ดังนั้น เรามาเริ่มต้นสร้างความภาคภูมิใจขึ้นมาด้วยตัวเองกันตั้งแต่ตอนนี้ อาจเป็นการตั้งเป้าหมายในชีวิต หรือลองทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตัวคุณเองมองว่า ถ้าทำได้ถือว่าตัวคุณมีการพัฒนามากเก่งขึ้น ลองหาอะไรใหม่ ๆ มาท้าทายตัวเอง อย่ามัวแต่ปล่อยให้ใครมาท้าทาย และดูถูกเราได้ง่าย ๆ สุดท้าย ใช้ชีวิตให้เต็มที่ สนุกกับความเป็นอิสระ แล้วเชื่อเถอะว่า คุณจะรู้สึกได้ถึงความสุข มากกว่าแต่ก่อน ที่มัวแต่เอาอะไรมากมายรอบข้างมาใส่ไว้ในหัว จนไม่กล้าที่จะทำอะไรไปหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายก็รู้สึกเสียดายในตอนหลังแน่นอน

SOURCE

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line