Life

บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังมากๆ ระวังเกิดสารพิษในตับโดยไม่รู้ตัว

By: Thada November 17, 2016

เกิดเหตุการณ์น่าประหลาดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากอยู่ดีๆ ชายวัยกลางคนอายุ 50 ซึ่งทำงานเป็นพนักงานก่อสร้างเกิดล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากทนทุกข์ทรมานจากอาการอาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และปัสสาวะเป็นสีเข้มเป็นเวลาสองสัปดาห์เขาจึงเดินทางไปพบแพทย์

หลังจากการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ โดยการฉายอัลตราซาวด์ตับ เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการป่วยแพทย์ลงได้ความเห็นวินิจฉัยพบว่าชายคนนี้ได้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบขั้นรุนแรง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียตับแบบถาวร แพทย์ผู้รักษาพยายามหาถึงสาเหตุของอาการที่ชายคนนี้กำลังประสบอยู่ เพราะโดยปกติแล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบมักมีพฤติกรรมการใช้ติดยาเสพติด เหล้า หรือใช้ยารักษาโรคที่ส่งผลกระทบต่อตับโดยตรง แต่ผู้ป่วยคนนี้กลับไม่ปรากฎพฤติกรรมที่กล่าวมา

แต่กระนั้นเขาได้บอกกับหมอว่าเขามีพฤติกรรมชอบดื่มเครื่องดื่มชูกำลังวันละ 4-5 ขวดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติด เพราะเป็นช่วงที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนได้บทสรุปที่ว่า การที่ชายคนนี้บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินตามที่ฉลากได้ระบุ เป็นผลที่ก่อให้ตับเกิดอาการเป็นพิษและอักเสบในเวลาต่อ

161117-energy-2

จากข่าวนี้ก็มีการสันนิฐานกันต่อว่าจริงๆ แล้วทำไมเครื่องดื่มชูกำลังจึงสามารถทำลายตับของคุณได้ถึงเพียงนี้ สาเหตุที่ Dr. Vikas Khullar ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอาหาร และตับ ได้กล่าว วิตามินบี ที่มีชื่อว่า niacin ในเครื่องดื่มประเภทชูกำลัง คือตัวการหลักที่ทำให้ตับของผู้บริโภคเกิดภัยอันตราย เพราะวิตามินประเภทนี้จะไปเก็บสะสมอยู่ในตับ และถ้ามีประมาณที่มากเกินไป จะทำให้ตับเกิดการทำงานที่ผิดปกติ จนท้ายที่สุดตับของผู้บริโภคจะไม่สามารถกรองสารพิษออกจากร่างกายได้ ซึ่งนำไปสู่ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและไวรัสตับอักเสบ

161117-energy-1

 

โดยพฤติกรรมการบริโภคเกินกว่าที่ฉลากระบุเอาไว้ มักเป็นสิ่งที่คนเราละเลยโดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มชูกำลังขนาด 16 ออนซ์ ในนั้นมีจำนวน niacin อยู่ 40 มิลลิกรัม ซึ่งจริงๆ แล้วร่างกายคนเราต้องการ วิตามินบีประเภทนี้เพียงแค่ 16 มิลลิกรัมเท่านั้น และปริมาณสูงสุดสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้รับต้องไม่ 35 มิลลิกรัม

161117-energy-3

ยังไม่รวมประมาณสารกระตุ้นอื่นๆ ที่บริษัทเหล่านี้ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือที่เปิดเผยอาทิ คาเฟอีน ที่ร่างกายคนเราสามารถรับได้ต่อวันเพียงแค่ 400 มิลลิกรัมเทียบเท่ากาแฟ 4 ถ้วย แต่ในเครื่องดื่มชูกำลังส่วนใหญ่จะมีปริมาณคาเฟอีนต่อกระป๋องอยู่ที่ 200 มิลลิกรัม ซึ่งสอดคล้องกับอาการของผู้ป่วยที่เป็นกรณีศึกษานี้ ที่รับประทานวันละ 5 กระป๋องเทียบเท่ากับ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งนำไปสู่อาการปวดท้อง นอนไม่หลับ ระดับอะดรีนาลีนที่สามารถเพิ่มดันความโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ

ดังนั้นคำเตือนที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการได้แนะนำคือ การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเดือนละครั้งสองครั้งต่อเดือนไม่ใช่เรื่องอันตรายแต่อย่างใด แต่หากคุณต้องการเพิ่มพลังงานให้กับตัวเอง การนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม หรือดื่มชา กาแฟ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง

 

 

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line