FOXY LADY: ‘วาเลนตินา พลอย’ทลายกำแพงด้วยความกล้า จากเด็กขี้อายสู่ศิลปินน้องใหม่แห่ง WHATTHEDUCK

เชื่อว่าหลายคนคงจำน้ำเสียงและวิธีร้องอันเปี่ยมเสน่ห์จากเพลง In The End ในรายการ The Voice Thailand Season 6 ได้เป็นอย่างดี ในตอนนั้นสุภาพสตรีที่ร้องเพลงนั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อ พลอย-วาเลนตินา จาร์ดุลโล เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี

สุดท้ายถึงแม้เธอจะไปไม่ถึงฝัน ไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้เห็นเธอปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะผู้เข้าร่วมประกวด Miss Thailand Universe 2018 ด้วยความสามารถรอบด้านก็ทำให้เธอคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 มาครองได้สำเร็จ

ในปี 2019 สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี คนนี้ก็กลับมาอีกครั้งด้วยบทบาทใหม่ที่ต่างไปจากเดิม เพราะตอนนี้เธอคือศิลปินน้องใหม่ป้ายแดงจากชายคา Whattheduck  แต่ก่อนที่จะฟังผลงานเพลงของเธอ เราไปทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า ว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้เธอผ่านอะไรมาบ้าง และนอกจากบทบาทการเป็นศิลปินกับนางงามแล้ว แง่มุมอื่นของชีวิตเธอเป็นอย่างไร

“วาเลนตินา พลอย จากค่ายเพลง Whattheduck ค่ะ” เพียงแค่การแนะนำตัวเราก็รู้ได้ทันทีว่าการสัมภาษณ์วันนี้จะต้องเป็นไปด้วยดีแน่นอน เพราะสุภาพสตรีตรงหน้าเธอพกพา Energy และความสดใสมาอย่างเต็มเปี่ยม

“คิดว่าตัวเองเป็นคนง่าย ๆ ค่ะ ไม่มีอะไรมากเลย Very Normal Very Simple” ด้วยความที่เธออยู่ต่างประเทศมาเกือบทั้งชีวิต ภาษาไทยเธอเลยยังติดขัดนิดหน่อย และเมื่อคิดศัพท์ไม่ออกเธอก็จะพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราว่ามันดูน่ารักดี

“พลอยคิดว่าตัวเองเป็นคนไทย 100% เลย แต่การเป็นลูกครึ่งก็ทำให้เราได้ Shape ตัวเองใน 2 Cultures ได้เปิดโลกมากขึ้นค่ะ”

“การปรับตัวก็ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เพราะมาเมืองไทยทุกปีอยู่แล้ว จะลำบากก็แค่ทานอาหารเผ็ดไม่ค่อยได้ (หัวเราะ) ที่ยากที่สุดก็อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องอยู่ห่างกับครอบครัวค่ะ” เธอเล่าให้ฟังถึงการย้ายจากอิตาลีมาลงหลักปักฐานที่เมืองไทย เราเลยถามต่อว่าเธอชอบอะไรที่อิตาลีที่สุด และชอบอะไรที่ไทยที่สุด

“สิ่งที่ชอบที่สุดเกี่ยวกับอิตาลีแน่นอนว่าต้องเป็นอาหารค่ะ พิซซ่า พาสต้า คือขาดไม่ได้เลยจริง ๆ  (หัวเราะ) ส่วนสิ่งที่ชอบที่สุดของไทยก็น่าจะเป็นคนไทยค่ะ ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นพี่น้องกับทุกคนเลย เฮฮาปาร์ตี้”

อีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือพลอยสนใจเรื่องภาษาเป็นอย่างมาก แถมยังพกดีกรีปริญญาด้านภาษามาถึง 2 ใบ

พลอยชอบภาษาเพราะพลอยคิดว่ามันคือ A Passport to the World ลบกำแพงทุกอย่าง มันทำให้เราสามารถสื่อสารกับคนต่างวัฒนธรรมได้

และการที่ถูกปลูกฝังทั้งภาษาไทยและภาษาอิตาเลี่ยนมาตั้งแต่เด็กมันทำให้เราชินกับเสียงที่ไม่เหมือนกัน ช่วยให้เราเข้าใจเสียงอื่นได้มากขึ้น”

“ตอนนี้พลอยพูดได้ 5 ภาษาค่ะ อิตาเลี่ยน, ไทย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน แล้วก็กำลังเรียนภาษาโปรตุกีสอยู่ค่ะ”

จากโลกแห่งภาษาข้ามมาที่โลกแห่งเสียงเพลงกันบ้าง พลอยเริ่มหลงรักการร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไร?

“พลอยชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ๆ เลยค่ะ เท่าที่จำได้เพราะตอนเด็กพลอยเป็นคนขี้อายมาก แบบมาก มากที่สุดในโลก (พูดพร้อมทำท่าประกอบจนเราเชื่อแล้วว่าขี้อายจริง ๆ ) ก็เลยไม่ค่อยกล้าพูด พลอยก็เลยเริ่มเขียนเพลง แล้วพลอยก็อยู่ในโลกของตัวเอง ฟังเพลงทั้งวัน 24 ชั่วโมง”

เขียนเพลงได้ด้วย?

“ใช่ค่ะ ตั้งแต่เด็กเลย เขียนมาตลอด ตอนนี้มีเป็นไดอารีประมาณ 3-4 เล่มเลยค่ะ (หัวเราะ)”

ขี้อายมากแล้วไปประกวด The Voice ได้ยังไง?

“จริง ๆ ประกวดที่แรกคือที่อิตาลี่ ตอนนั้นลากเพื่อนสนิทไปด้วยเพราะจะได้รู้สึกดีขึ้น ก็ไปเลยค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็ดันติดด้วย เลยต้องขึ้นไปร้องจริง ๆ เสียงสั่นมาก ร้องไห้ด้วย แต่มันก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้เราได้เริ่มพัฒนาตัวเองค่ะ”

แบบนี้แสดงว่าตอน The Voice Thailand ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้วสิ?

“ตื่นเต้นมากค่ะ จริง ๆ จุดพลิกผันของชีวิตพลอยคือหลัง The Voice Thailand นี่แหละค่ะ เพราะพลอยรู้สึกว่าผ่านมา 3 เวทีแล้วทำไมเรายังเครียด ตื่นเต้นขนาดนี้ มันไม่ปกติแล้ว ก็เลยตัดสินใจไปเรียน Acting พลอยวางเป้าหมายปีที่แล้วของตัวเองไว้ว่าต้องทำยังก็ได้ให้หายขี้อายให้ได้”

พลอยตั้งใจอยากทำลายกำแพงความอายของตัวเองให้ได้ เธอจึงตัดสินใจท้าทายตัวเองขึ้นไปอีกขั้นด้วยการลงประกวด Miss Thailand Universe 2018

“จริง ๆ พลอยก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะ แค่มีคนมาชวนให้ลงประกวด แล้วพลอยก็เพิ่งมาจากอิตาลี่ ไม่รู้เรื่องเลยว่าเค้าประกวดกันยังไง พลอยก็เลยตัดสินใจสมัครแบบไม่คิดอะไรมาก”

“สุดท้ายพลอยก็รู้ว่ามันก็แค่ Different Way to Express Something That We Have ถึงแม้ว่าเราจะร้องเพลงหรือพูดอะไรก็ทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้ มันก็คือการสื่อสารสิ่งดี ๆ จุดประสงค์มันไม่ได้ต่างกันเลย เราก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ทั้งในบทบาทนางงามหรือศิลปิน”

ประกวดมาเยอะขนาดนี้ แต่ละเวทีสอนอะไรพลอยบ้าง?

“ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากค่ะ ทั้งความรู้รอบตัว รู้จักโลกมากขึ้น รู้จักคนมากขึ้น แล้วก็รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย รู้ว่าลิมิตของตัวเองอยู่ตรงไหน เรา Push อีกได้มั้ย ซึ่งมันจะช่วยให้เรา Push ตัวเองสูงขึ้นทุกครั้งค่ะ”

ทำมาหลายอย่างขนาดนี้ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดคืออะไร?

“สิ่งที่ชอบทำที่สุดก็คือร้องเพลงนี่แหละค่ะ อันนี้รู้มาโดยตลอด ถึงเราจะไปประกวดอย่างอื่นแต่มันก็อยู่กับเราตลอด ถ้าไม่มีสิ่งนี้มันอยู่ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”

กลับมาที่คำถามสบาย ๆ กันบ้าง ทั้งร้องเพลงเพราะ แถมยังแต่งเพลงได้อีกต่างหาก เราเลยอยากรู้ว่าปกติพลอยฟังดนตรีแนวไหน และชื่นชอบศิลปินคนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?

“ถ้าจะให้เลือกแนวเดียวที่พลอยชอบที่สุดพลอยคงตอบไม่ได้ เพราะพลอยไม่ได้ Classified ที่แนวเพลง แต่ Classified อารมณ์ที่เพลงนั้นมอบให้เรามากกว่า ถ้าเราชอบก็คือชอบ ต่อให้เป็นเมทัล, เร็กเก้, ลาติน หรืออะไรก็ตาม”

“ส่วนศิลปินที่ชอบที่สุดคือ Linkin Park (ยิ้ม) ชอบแบบเป็นบ้า ชอบมาก แล้วพลอยก็คิดว่าวงนี้มีอิทธิพลกับการแต่งเพลงของพลอยมาก เพราะเพลงของ Linkin Park มันจะมีแรป และพลอยก็ชอบท่องไรม์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ดังนั้นเวลาพลอยเขียนเพลงก็อยากให้ทุกท่อนมันคล้องกันหมด”

เพลงที่จะออกกับ Whattheduck พลอยเขียนเองด้วยหรือเปล่า?

“ใช่ค่ะ เป็นแนว Pop-Folk ตอนแรกเราก็ร้องกับกีตาร์ตัวเดียว จากนั้นก็มี Producer มารับช่วงต่อทำให้เพลงมันออกมาสมบูรณ์ค่ะ”

ตอนนี้เรารู้จักพลอยพอสมควรแล้ว ทั้งในแง่ศิลปินและเด็กขี้อาย อย่างไรก็ตามก็มีอีกหลายแง่มุมที่เรายังไม่รู้

“พลอยชอบเดินทาง ชอบอ่านหนังสือ แล้วก็ชอบวาดรูปค่ะ”

พลอยคิดว่าการเดินทางมันสอนให้ Respect คนอื่นมากขึ้น ทำให้เราเห็นว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เรา

ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมเราที่ถูกต้อง มันมีหลายอย่างให้ดูมาก แล้วพลอยก็เป็นคนชอบพูดคุย ยิ่งกับคนที่มาจากที่ไกล ๆ พลอยก็จะไปถามเลยว่า You กินอะไร You พูดขอบคุณว่ายังไง อะไรแบบนี้ค่ะ”

เดินทางมาเยอะขนาดนี้ ชอบประเทศไหนที่สุด?

“มี 4 ประเทศค่ะที่ชอบมากที่สุด ประเทศแรกคืออินเดีย ตอนนั้นไปกับพี่ชาย Backpack แล้วก็ Road Trip ใน Rajasthan”

“ญี่ปุ่น ไปกับพ่อแม่ เป็นประเทศที่ไปแล้วแฮปปี้มากค่ะ”

“เคยไป Volunteer ที่เนปาล แล้วก็ชอบมากเหมือนกัน”

“สุดท้ายคือไป Road Trip ที่ East Europe อันนี้ประทับใจมาก ๆ เลย”

ความเป็นคนรักการเดินทางของพลอยดูจะเข้ากับคอนเซ็ปต์ถ่ายแบบ ‘ในวันที่พลาสติกล้นโลก’ ของเราวันนี้พอดี เราเลยอยากให้พลอยงัดสกิลนางงามออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกันว่าเราจะถามคำถามนี้

คิดว่าสถานการณ์พลาสติกทั้งในไทยและทั่วโลกตอนนี้น่าเป็นห่วงหรือเปล่า?

“น่าเป็นห่วงมากค่ะ พลอยคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเลย ตอนนี้ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยใช้หลอด เวลาไปซื้ออะไรแล้วเค้าถามว่าจะเอาหลอดมั้ย เอาถุงมั้ย พลอยก็จะปฏิเสธตลอด เพราะพลอยรู้ว่าต่อให้สิ่งเหล่านี้เราจะไม่ได้เห็นกับตา แต่มันก็กำลังเกิดขึ้น และเราก็ควรจะทำอะไรสักอย่างเพราะมันเป็นโลกของเรา ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ”

ถ้าพลอยมีอำนาจในการออกนโยบายแก้ปัญหาพลาสติก พลอยจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ยังไง?

“ง่าย ๆ เลย คือจะให้เลิกใช้ถุงพลาสติก แล้วก็หลอด เพราะว่ามันไม่จำเป็น พลาสติกอะไรที่มันไม่จำเป็นจริง ๆ เราก็ไม่ใช้ก็ได้ อยากให้ทุกคนพกถุงผ้าเวลาไปซื้อของ เพราะตอนนี้พลาสติกมันเยอะมากจริง ๆ ค่ะ”

แล้วคิดว่าในปัจจุบันคนในสังคมตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหานี้แล้วหรือยัง?

“ยังค่ะ พลอยว่ามันได้มากกว่านี้ ตอนนี้เหมือนทุกคนรู้แต่ไม่รู้ เหมือนเห็นแต่ไม่เห็น เพราะสุดท้ายแล้วเค้าก็ไม่ได้ Aware อะไรมากมาย พลอยว่าทุกคนต้องช่วยกัน Spread the Voice มากกว่านี้ค่ะ”

แล้วจะทำยังไงให้คนในสังคมตระหนักได้มากกว่านี้?

“พลอยว่าอันดับแรกเลยเราต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน แล้วมันก็จะค่อย ๆ ต่อเป็น Chain เราทำ พ่อแม่เราเห็น เพื่อนเราเห็น เค้าก็ทำตาม จากเพื่อนก็กลายเป็นสังคม จากสังคมก็กลายเป็นโลก ถ้าทุกคนทำสิ่งนี้มันจะเปลี่ยนได้ในวินาทีเดียวเลยค่ะ” 

มาถึงคำถามที่หนุ่ม ๆ รอคอยกันแล้ว ทั้งร้องเพลงเพราะ น่ารักสดใส เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานขนาดนี้ เลยอยากรู้ว่าตอนนี้พลอยมีแฟนหรือยัง?

“ไม่มีค่ะ มีแต่เพื่อน (หัวเราะ)”

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอหัวเราะลั่นขนาดนั้น เราเลยถามต่อว่าพลอยมีหนุ่มในสเป็คหรือเปล่า และถ้าจะจีบพลอยต้องทำยังไงถึงจะได้ผล

“อย่างแรกเลยที่พลอยมองเวลามีคนเข้ามาคือรอยยิ้ม ยิ้มเก่งมั้ย ส่วนที่เหลือก็เป็น Personality มากกว่าค่ะ ว่าเขานิสัยใจคอเป็นยังไง”

“พลอยคิดว่าเขาไม่ต้องทำอะไรมากเลยแค่เป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าทุกวันนี้มันยากมากที่จะได้เจอคนที่เป็นตัวของตัวเอง 100% มันมีอะไรกั้นอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเขาเป็นตัวของตัวเองมันก็จะมีเสน่ห์อะไรบางอย่างค่ะ”

ก่อนจะจากกันไปอยากบอกอะไรกับคนขี้อายที่ยังไม่กล้าทำสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง แล้วก็ฝากผลงานให้ทุกคนได้ติดตามหน่อย

“จะบอกว่าเวลาของเรา It’s Limited. Today You’re Here, Tomorrow You’re not Here. You Don’t Know What Can Happen เราไม่มีทางรู้หรอกว่าอีก 10 นาทีจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเรา เราต้อง Appreciate Every Moment and Just Do It”

“ขอฝากผลงานของพลอยด้วยนะคะ เพลง See You in Life หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ แล้วก็ติดตามพลอยได้ที่ Facebook Valentina Ploy  และ Instagram Valentinaploy ค่ะ”

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut