รู้จัก Main Character Syndrome เมื่อเราใช้ชีวิตเหมือนเป็นตัวเอกจากภาพยนตร์

ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง “Sex and the City” คงคุ้นเคยกับตัวละครที่ชื่อว่า “Carrie Bradshaw” นักเขียวสาวสวยผู้เป็นตัวละครหลักในเรื่อง นิสัยของเธอมีความน่าสนใจมาก คือ เธอคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกอย่าง ปัญหาของเธอต้องมาก่อนปัญหาของคนอื่นเสมอ และเพื่อนมีหน้าที่คอยให้กำลังใจเธอเท่านั้น

นิสัยที่ชอบทำตัวเหมือนเป็นตัวเอกในเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ในทางจิตวิทยา เรียกว่าเป็น Main Character Syndrome หรือ อาการของตัวละครหลัก ซึ่งคนที่มีอาการนี้มักมองว่าตัวเองเป็นตัวเอกในเรื่องราวชีวิตของตัวเอง และคนอื่นเป็นเพียงตัวละครสมทบเท่านั้น พวกเขาจึงไม่ค่อยสนใจชีวิตของคนอื่นมากนัก และมองว่าชีวิตของตัวเองสำคัญที่สุด หากไม่ได้รับการเปลี่ยนนิสัย อาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตได้

อาการนี้มักพบในคนรุ่น GenZ ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ซึ่งมีความผูกพันกับการใช้เทคโนโลยี พวกเขามักพยายามหนีจากโลกความเป็นจริง โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการสร้างตัวตนใหม่ เช่น แต่งภาพให้ดูดีขึ้น หรือ แต่งเรื่องราวของตัวเองให้ดูน่าสนใจ

แม้การมองตัวเองเป็นตัวละครหลัก จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการใช้ชีวิตและมองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงมันก็สะท้อนถึงปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวเองเหมือนกัน เพราะคนกลุ่มนี้มักอ่อนแอต่อคำวิจารณ์มาก และเป็นพวกนิยมความสมบูรณ์แบบ จึงพยายามใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่แสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองสุดยอดแค่ไหน เช่น การแต่งรูปให้ดูดี หรือ การแต่งเรื่องราวของตนเองให้คนสนใจ

ปัญหาของ Main Character Syndrome คือ มันมักเกิดขึ้นกับคนที่มีปัญหาในชีวิตจริง แต่เลือกที่จะหนีปัญหาโดยการเข้าสู่โลกแฟนตาซี เพื่อมองหาการยอมรับจากคนอื่น พวกเขาจึงแสดงพฤติกรรมที่น่าอึดอัดต่อคนรอบข้าง เช่น ไม่สนใจคนอื่น อวดเบ่ง หรือ ไม่จริงใจกับคนอื่น จนสุดท้ายพวกเขาอาจสูญเสียเพื่อนไปได้

นอกจากนี้ มันสามารถทำให้คนไม่มีความสุข และไม่ยอมเผชิญหน้ากับความกลัวหรือปัญหาของตัวเองได้ และยังสะท้อนถึงปัญหาด้านสุขภาพจิตด้วย เช่น โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) และความผิดปกติอื่นที่เกี่ยวข้องกับอาการหลงผิด ส่งผลให้เราแสดงพฤติกรรมที่เป็นปัญหาต่อตัวเองและสังคม อีกทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้าได้ด้วย

เมื่อ Main Character Syndrome เป็นปัญหาต่อสุขภาพจิตของเรา UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการรับมือกับอาการนี้ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยเริ่มจากการมี self-awareness หรือ รู้ว่าตัวเองคิดหรือ react ต่อสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไร โดยอาจถามเพื่อนว่าเราทำตัวน่าอึดอัดหรือไม่ และเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็น

ต่อมา คือ เราต้องรู้ว่าสิ่งไหนที่ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ในโลกความเป็นจริง เช่น ถ้าเราดูหนังที่เห็นพระเอกตะโกนใส่หัวหน้าว่า “อย่ายุ่งกับกู” เราก็ควรรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตามในชีวิตจริง เพราะมันจะส่งผลเสียต่อการทำงานของเราได้ เราควรคิดถึงผลลัพธ์จากการกระทำของเราด้วย

หยุด romanticize ทุกเรื่อง เพราะชีวิตของเราไม่เหมือนในภาพยนตร์ที่จะเจอกับวิธีการแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ บางทีการมองโลกในแง่ดีมากเกินไป ก็ทำให้สถานการณ์มันแย่ลงได้เหมือนกัน ดังนั้น หยุดมองทุกอย่างเป็นเรื่องสวยงาม และมองโลกตามความเป็นจริงมากขึ้น

ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียให้น้อยลง เพราะถ้าเราใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากเกินไป มันมักทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และเกิดอาการมากขึ้น ดังนั้น ลดเวลาในการเล่นโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้เราเป็น Main Character Syndrome ได้น้อยลง และใช้เวลากับสิ่งที่จำเป็นกับชีวิตได้มากขึ้น

พาตัวเองกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพราะถ้าเราทำตัวเป็นตัวละครที่ถูกมองหรือชมอยู่ตลอดเวลา เราจะรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว และเกิดความทุกข์ในการใช้ชีวิตได้ ดังนั้น เราควรทำให้ชีวิตของเรามีความเป็นส่วนตัว โดยเลิกเชื่อว่าโลกหมุนรอบตัวเรา และพยายามพาตัวเองกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการรับมือกับ Main Character Syndrome ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองทำตามกัน แล้วจะพบว่าชีวิตมีความสุขมากขึ้นเยอะ 

Appendix: 1 / 2 / 3 / 4