FRIENDZONE FOREVER: สัญญาณแสบ ๆ บ่งบอกว่าสาวของเรายังไม่พร้อมจะเดตแบบเต็มตัว

ถ้าถามว่าความสัมพันธ์ช่วงไหนของความรักที่หอมหวานที่สุด ส่วนใหญ่จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าคือช่วงเดต ช่วงทำความรู้จัก คบหาดูใจ เรียนรู้ตัวตนของอีกฝ่าย ว่าเขาน่าหลงใหลแค่ไหน และจะไปกับเราได้ดีถึงขนาด In A Relationship ได้หรือไม่

แม้ช่วงเดตจะดูเป็นช่วงหอมหวาน แต่ทุกอย่างมันไม่ได้มีด้านเดียวเสมอไป ช่วงหอมหวานอาจจะเกิดขึ้นสำหรับคนที่ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายอยู่ใน Stage เดียวกัน ไม่มีใครต้องทุ่มเทมากกว่าใคร แต่สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจและรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังรออะไรบางอย่าง ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ชวนอึดอัดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ว่าเราจะต้องไปต่อหรือพอแค่นี้ UNLOCKMEN ชวนมาสังเกตสัญญาณจากฝั่งสาว ๆ ว่าสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณของความไม่พร้อม (หรือยังไม่อยากพร้อม) ที่จะเดตกับใครสักคนแบบจริงจัง

พูดถึงแฟนเก่าอยู่เสมอ

ไฟอะไรมันจะร้อนเท่าถ่านไฟเก่า หลายครั้งที่การพูดถึงเรื่องเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี ๆ หรือเรื่องเลวร้ายที่เคยเจอมา นั่นหมายความว่าความทรงจำเหล่านั้นไม่เคยหายไปเลย ถึงแม้จะดูเหมือนการพูดแบบบอกเล่าเก้าสิบ แต่ลองนึกดูว่า ไปนู่นมานี่ กินนู่นนี่ ก็ยังต้องฟังสาวพูดถึงหนุ่มคนเก่าของเธออยู่ตลอดว่าเคยกินร้านนี้ด้วยกัน เจอกันที่นั่นที่นี่ ทำให้มันดูเป็นเรื่องบังเอิญเดินผ่านแล้วเล่าขึ้นมา แต่ความจริงคือภาพในหัวของเธอยังคงมีเขาอยู่อย่างชัดเจนเสียจนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

ความน่าเบื่อของการเดตกับคนที่ไม่ลืมอดีต มันเหมือนเราต้องต่อสู้กับคนในใจของเธออยู่ตลอดเวลา ต้องทำให้ดีกว่าเขา เอาชนะคนนั้นของเธอให้ได้ สุดท้ายมันแทบจะไม่เหลืออะไรที่เราทำเพื่อเธอเองจริง ๆ เลย มีแต่ความอยากเอาชนะคนเก่าของเธอเท่านั้น

เธอไม่ได้พยายามทำตัวให้ว่าง

“แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว” “เอาไว้ว่างก่อนนะ” ฟังดูแล้ว ด้วยความเป็นผู้ชายเต็มตัวครับ เราต้องเห็นใจเขาว่าเหนื่อยกับงานมาแล้ว ไม่อยากให้ต้องมาเหนื่อยกับเราอีก เป็นผู้ชายขี้น้อยใจมันช่างดูไม่เท่เอาเสียเลย นั่นเลยบังคับให้เราต้องโชว์ความแมนด้วยการพูดออกไปว่า “ไม่เป็นไรครับ เข้าใจ” 

ถ้าสถานการณ์ที่ว่ามันเป็นครั้งสองครั้ง คงไม่ทำให้เราลำบากใจ แต่ถ้ามันเป็นมาตลอดจนเรารู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเขาเอาเสียเลย นั่นคงทำให้เราหัวเสียอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้มันดูกันไม่ยากเท่าไหร่ ต่อให้เธอไม่ว่างจริง ๆ เธอก็จะพยายามหาเวลาว่างให้เราทางใดสักทาง แสดงออกว่าเธอพยายามที่จะหาคิวให้เรา แค่นั้นมันก็แสดงออกถึงความกระตือรือร้นที่จะอยู่ด้วยกันแบบเพียงพอแล้ว ในทางกลับกัน ถ้าเธอไม่พร้อมที่จะเดต เราก็จะได้ยินสารพัดข้ออ้างของการไม่มีเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากัน

ชอบตัดสินใจนาทีสุดท้าย

พอมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ ไม่ว่าจะออกไป Hangout ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรืออะไรก็ตามที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน แล้วเธอไม่ได้มีท่าทีกระตือรือร้นต้องตัดสินใจตอนนั้นเลย รู้สึกว่าเรื่องที่ทำร่วมกันเป็นเรื่องไม่เร่งด่วน และชอบปัดตกไว้ไปคิดเอาหน้างาน หรือเป็นเรื่องที่ไว้คิดทีหลังอยู่เรื่อย

ทีนี้พอเห็นอะไรมั้ย “ลำดับความสำคัญ” ไงล่ะ การที่เราไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเอามาคิดตอนนั้น หมายความว่าความสำคัญของเราไม่ได้อยู่ในลำดับที่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ อาจจะไปอยู่กลางแถวหรือรั้งท้ายก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เอาเป็นว่าไม่ใช่อันดับแรกอย่างแน่นอน 

เล่นสงครามประสาท

การเล่นสงครามประสาทกัน แม้มันดูจะเป็นชั้นเชิงของแต่ละคนที่บางคนอาจมีติดตัวไว้ใช้กับทุกเรื่อง แม้แต่ความสัมพันธ์ในแง่ความรัก แต่อย่าลืมว่า สงครามประสาทนั้นมันคือการยึดเอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วเล่นเกมให้อีกฝ่ายเป็นไปแบบที่เราต้องการ เต็มไปด้วยทิฐิ ที่ไม่ควรมาอยู่ในความรักเลยด้วยซ้ำ

การมีความรักที่มีทิฐินำทางมันมีแต่จะทำร้ายกันและกัน เพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะทำทุกอย่างให้เป็นไปตามเกมของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะต้องเสียความรู้สึกไปมากน้อยแค่ไหน และมันไม่ควรมาอยู่ในความรักตั้งแต่ต้นแล้ว

ยังคงต้องเดตกับคนอื่นอีก

ด้วยสถานะของเราที่ยังไม่ได้เป็นแฟนแบบเต็มตัว อาจทำให้เราตกอยู่ในสถานะตัวเลือกของเขา ซึ่งถ้าตกลงกันไว้แต่แรกก็ไม่แย่อะไรสำหรับคนที่รับได้ว่าตัวเองยังต้องต่อสู้กับคู่แข่งคนอื่นเพื่อเข้าเส้นชัยเอาชนะใจเธอ เท่ากับว่าเราก็ต้องทำใจไว้ด้วยว่าเธอไม่อาจ Pay Attention มาที่เราได้ 100% เพราะเธอยังต้องใช้เวลาในการพิจารณาตัวเลือกอื่นมาเป็นคนรู้ใจอีก

ต่อให้เราทำใจไว้แล้วว่าเป็นตัวเลือก แต่การที่เธอไม่ได้ให้เราเป็นเพียงคนเดียวที่จะได้ไปต่อในการคบหาดูใจ นั่นเท่ากับว่าเธอก็ยังไม่ได้มั่นใจในตัวเราขนาดที่จะยอมทิ้งตัวเลือกอื่น ๆ เพื่อให้เราเป็นเพียงตัวเลือกเดียวของเธอแบบไม่ต้องแข่งขันกับใคร

โปรดอย่าลืมว่า สำหรับความสัมพันธ์นั้น ความไม่ชัดเจน คือความชัดเจนอย่างหนึ่งแล้วเหมือนกัน