FROM ZERO TO HERO: GABRIEL JESUS จากเด็กทาสีผู้กลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ฟุตบอลโลก

ฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้คงไม่มีใครเหมาะกับวลี ‘From Zero to Hero’ มากไปกว่า Gabriel Jesus กองหน้าดาวโรจน์ของทีมชาติบราซิลอีกแล้ว เพราะถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ Gabriel Jesus ในวัย 17 ปี ขณะนั้นเขาเป็นเพียงนักเตะฝึกหัดของสโมสร Palmeiras แน่นอนว่ารายได้ย่อมไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ดังนั้นเขาจึงรับจ็อบพิเศษด้วยการเป็นช่างทาสีตามกำแพงหรือพื้นถนนต้อนรับฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง

แต่เพชรยังไงก็คือเพชร หลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2014  Gabriel Jesus ก็เริ่มโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจนได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ Palmeiras และเขาก็ไม่ทำให้โค้ชและเพื่อนร่วมทีมผิดหวัง กระหน่ำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนเป็นที่หมายปองจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรป และก็เป็นทีมเรือใบสีฟ้า Manchester City ที่คว้าตัวเขาไปครองได้สำเร็จด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ซึ่งนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

Gabriel Jesus ไม่หยุดการพัฒนาตัวเองไว้เท่านี้ เขาพิสูจน์ตัวเองว่าฝีเท้าเป็นของจริง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีม และสุดท้ายก็สามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ Premier League ได้สำเร็จ เมื่อฟอร์มดีขนาดนี้ การมีชื่อติดทีมชาติบราซิลมาลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 จึงไม่ใช่เรื่องแปลก

จากวันที่เขานั่งทาสีอยู่ข้างสนามฟุตบอล ถึงวันที่เขาเป็นซูเปอร์สตาร์พาทีมบ้านเกิดลุยฟุตบอลโลกใช้เวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น อะไรคือเคล็ดลับ วิธีการทำงาน และแนวคิดของนักเตะดาวโรจน์คนนี้ วันนี้ UNLOCKMEN จะนำมาบอกต่อให้ได้รู้กัน

Charisma

พรสวรรค์เป็นสิ่งที่ฝึกกันไม่ได้ อาจจะดูไม่ยุติธรรมนักสำหรับคนทั่วไป แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันคือคุณสมบัติสำคัญในการจะประสบความสำเร็จในอะไรสักด้าน และสำหรับ Gabriel Jesus เขามีพรสวรรค์ด้านฟุตบอลอย่างเต็มเปี่ยม ถึงแม้ว่าโดยธรรมชาติของเยาวชนบราซิลจะมีทักษะฟุตบอลดีกว่าชาติอื่น ๆ อยู่แล้ว แต่ Gabriel Jesus ก็โดดเด่นขึ้นมาจากเหล่าคนเก่งขึ้นมาอีกขั้น ตั้งแต่ระดับเยาวชนเขาคือดาวเด่น เป็นนักเตะที่น่าจับตามองตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกหัดในสโมสร Palmeiras

“ผมคิดอยู่เสมอว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก ตั้งแต่ที่ผมเห็นเขาครั้งแรกเมื่อตอนเขายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ผมทำนายไว้เลยว่าเจ้าหนูคนนี้จะกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ติดทีมชาติบราซิล และจะโดนทุ่มซื้อตัวด้วยค่าตัวมหาศาล ซึ่งตอนนี้เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นแล้ว ถูกต้องตามที่ผมคิดทุกอย่าง ดังนั้นผมจะขอทำนายต่อไปเลยว่า Gabriel Jesus จะได้รางวัลบัลลงดอร์ภายใน 3 ปี” José Francisco Mamede โค้ชฟุตบอลของ Gabriel Jesus สมัยเยาวชนให้สัมภาษณ์ไว้

UNLOCKMEN เชื่อว่าทุกคนมีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ในตัวเอง อาจจะไม่ใช่เรื่องฟุตบอล แต่มันต้องมีอย่างแน่นอน หามันให้เจอ และจงใช้มันให้เป็นประโยชน์

Motivation

นักฟุตบอลส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จมาจากครอบครัวที่ยากจน โดยเฉพาะชาวบราซิลมีคำกล่าวว่า “วิธีที่จะหลุดพ้นจากความยากจนให้เร็วที่สุดคือการเป็นนักฟุตบอล” ดังนั้นการแข่งขันสู่หนทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในบราซิลจึงสูงมาก แน่นอนว่า Gabriel Jesus ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาเกิดและเติบโตในย่านแออัดของเมือง São Paulo สนามฟุตบอลในชุมชนนอกจากจะเป็นที่เล่นฟุตบอลแล้วยังเป็นที่ ๆ เขาและเพื่อน ๆ มักจะได้กินแซนวิชและน้ำผลไม้ฟรีจากผู้ใจบุญเสมอ

ความยากจนนั้นน่ากลัวแต่ในขณะเดียวกันมันคือแรงผลักดันชั้นดี สำหรับเด็กหนุ่มชื่อ Gabriel Jesus ฟุตบอลคือหนทางเดียวที่จะทำให้เขาและครอบครัวหลุดพ้นจากคำ ๆ นี้ ซึ่งเมื่อเขาทำมันสำเร็จแล้วเขาก็ต้องพยายามต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเขาจะไม่ยอมกลับไปอยู่ในจุดเดิมเด็ดขาด

สำหรับเพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN แรงผลักดันอาจจะไม่ใช่เงิน แต่อาจจะเป็นอะไรสักอย่างที่ปลุกคุณในทุกเช้าให้ลุกขึ้นมาสู้ จงรักษามันไว้ให้ดี

Passion

นอกจากแรงผลักดันแล้วความชื่นชอบหลงใหลในสิ่งที่ทำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งสำหรับ Gabriel Jesus นั้นก็มีสิ่งนี้อยู่เต็มเปี่ยม เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ชาวบราซิลคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนที่เกิดในครอบครัวยากจน ลืมความบันเทิงจากวิดิโอเกมหรือคอมพิวเตอร์ไปได้เลย ความสนุกอย่างเดียวที่พวกเขาจะหาได้คือการเล่นฟุตบอล

นี่คือสนามฟุตบอลที่ Gabriel Jesus และเพื่อน ๆ มักจะมาเล่นด้วยกันเสมอในตอนที่เขายังเด็ก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไม่ใช่สนามฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบ พื้นก็เป็นดินปนหิน แต่เขาก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้วิ่งไล่ตามลูกหนังใบกลม ๆ

Responsibility

ถึงแม้ Gabriel Jesus จะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ รายล้อมด้วยอบายมุข แต่สิ่งเหล่านั้นไม่อาจทำให้เขาไขว้เขวออกจากเส้นทางฟุตบอลได้เลย เขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและระเบียบวินัยในตัวเองสูงอย่างเหลือเชื่อ

“Gabriel ไม่เคยขาดซ้อม และเขายังเป็นคนแรกที่มาถึงสนามซ้อมเสมอ เขาแตกต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ที่พอเริ่มมีชื่อเสียงก็จะหลงใหลกับสิ่งเร้าต่าง ๆ และเริ่มขี้เกียจ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Gabriel” คำสัมภาษณ์ของ José Francisco Mamede โค้ชในวัยเด็กของ Gabriel Jesus

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเด็กหนุ่มชื่อ Gabriel Jesus  จึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เขาอาจจะไม่ได้มีเคล็ดลับอะไรพิเศษ ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จ แนวคิดของเขาก็เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่ Gabriel ไม่ใช่แค่รู้ แต่เขาลงมือทำและทำมันอย่างจริงจัง แน่วแน่ในแนวทางของตัวเอง และสุดท้ายเขาก็ได้ความสำเร็จเป็นรางวัลตอบแทน

SOURCE 1