Life

“GREENTASTIC 4” นักปั้นแบรนด์รุ่นใหม่ แชมป์ J-MAT BRAND PLANNING COMPETITION ครั้งที่ 1 กับโจทย์แบรนด์รักษ์โลก “SCG GREEN CHOICE : คุณเลือกเพื่อโลกได้”

By: JEDDY August 13, 2022

ผ่านพ้นไปแล้วกับ JMAT Brand Planning Competition#1  การแข่งขันที่เฟ้นหานักสร้างแบรนด์รุ่นใหม่จากรั้วมหาวิทยาลัย โดยความร่วมมือของ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และ เอสซีจี  ซึ่งได้ยื่นโจทย์ให้คิดแผนสร้างแบรนด์ฉลาก SCG Green Choice : คุณเลือกเพื่อโลกได้” ทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับ และมองหาเมื่อต้องซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน หรือคิดง่าย ๆ ว่าเป็นการทำแบรนด์ชวนคนมาเลือกสินค้าที่ดีต่อเรา และดีต่อโลกนั่นเอง

หลังจากที่เริ่มต้นเปิดรับสมัครไปเมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ก็มีเหล่าบรรดานิสิตนักศึกษาตั้งทีมยื่นใบสมัครมากว่า 800 คน กว่าร้อยทีม ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 50 ทีม เข้ามาเรียนรู้และเก็บประสบการณ์กับโครงการผ่านกิจกรรม Online Training & Workshop ที่มีเหล่ากูรูด้านการสร้างแบรนด์ การวางแผนการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นแบรนด์รักษ์โลก มาให้ความรู้ ให้น้องๆ ได้นำไปพัฒนาแผน  และส่งผลงานเข้าชิงในรอบ10 ทีมสุดท้าย  ซึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบนี้จะได้รับเงินสนับสนุน 20,000 บาท เพื่อนำแผนไปลงมือทำจริงในเวลา 1 เดือน แล้วกลับมาชิงชัยหาผู้ชนะกันในรอบไฟนอล

และสุดท้ายก็เป็นทีม Greentastic 4 ที่คิดและนำเสนอแผนสร้างแบรนด์ได้ชนะใจกรรมการจนคว้ารางวัลชนะเลิศรับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และเกียรติบัตรไปครอง ด้วยความเก่งกาจขนาดนี้ UNLOCKMEN ก็อดใจไม่ไหว อยากจะทำความรู้จักกับน้อง ๆ เพื่อที่จะเจาะลึกถึงแนวคิดต่าง ๆ อันเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จกับการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ไปติดตามกันได้เลยครับ


Greentastic 4 เกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาต่างสถาบัน ประกอบไปด้วย สโรชา วิริยะศิริปัญญา (มายด์) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 4, เกศวลัย ทองตุ้ย (เจส) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชั้นปีที่ 3, แรกขวัญ ทองสัมฤทธิ์ (ข้าวเจ้า) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 และ ณัฐภรณ์ มโนสัมฤทธิ์ (ตันหยง) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 4

ซึ่งสมาชิกทุกคนต่างก็อยากได้ลองลงประกวดเพื่อคว้ารางวัลซักครั้งในระหว่างที่ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วมันดันตรงกับจังหวะที่มีการเปิดรับสมัคร JMAT Brand Planning Competition ภายใต้โจทย์ SCG Green Choice : คุณเลือกเพื่อโลกได้”  ทั้งหมดจึงได้ตัดสินใจรวมทีมเพื่อเข้าร่วมแข่งขัน โดยมีมายด์เป็นตัวตั้งตัวตีในการชักชวนเพื่อน ๆ อีกทั้งยังควบตำแหน่งหัวหน้าทีมด้วยเช่นกัน

“ยอมรับว่าหลังจากช่วงโควิด เราไม่ได้แข่งกันมานานมาก ๆ คือเกือบสองปีเลย แล้วเราเห็นงานนี้ก็รู้สึกท้าทายมาก ๆ เพราะได้ทำแผนสร้างแบรนด์และยังได้ช่วยโลกด้วย เราก็เลยคิดว่างานนี้น่าสนใจมาก ๆ อยากลองลงแข่ง และได้รางวัลซักครั้งหนึ่งในชีวิต” มายด์ Greentastic 4


สโรชา วิริยะศิริปัญญา (มายด์)

แม้จะมีการแข่งขันลักษณะที่คล้ายกัน เช่น ประกวดแผนการตลาดที่มีอยู่หลายเวที  แต่สิ่งที่ทำให้ทีม Greentastic 4 ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขัน นอกจากความแตกต่างของการแข่งทำแผนสร้างแบรนด์ ซึ่งมีมุมมองที่ครอบคลุมกว่าแผนการตลาดแล้ว  มันคือการได้ลงมือนำแผนไปทำจริง  ได้เก็บเกี่ยวความรู้เรื่องการทำแบรนด์อย่างเข้มข้น กับกูรูมืออาชีพ และ Mentor ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์  ทั้งยังมีเดิมพันที่ท้าทายกับเงินรางวัลถึง 100,000 บาทด้วย

“งานนี้เราได้ทำจริงด้วย เพราะที่เคยผ่านมาคือเราทำแผนไป เรา Present กรรมการตรวจแล้วจบเลย แต่การแข่งนี้เราได้ลองลงมือทำจริงด้วย ไม่ใช่แค่ส่งแผนแล้วจบ

พอผ่านเข้ามาถึงรอบ 10 ทีม เรามีโอกาสได้ลองนำแผนไปทำจริง เพื่อดูว่าตอบโจทย์ตรงประเด็นหรือไม่  ใช้ได้จริงหรือเปล่า  ทำให้เรารู้ว่าบางไอเดียอาจจะไม่โอเค แต่บางอย่างเวิร์ก ควรเอาไปทำต่อ เราได้เรียนรู้ว่าการแข่งนี้ให้เราได้ลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎีค่ะ” มายด์ Greentastic 4

ทั้ง 3 คนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้จักฉลาก SCG Green Choice เท่าไหร่ แต่หลังจากที่ได้มาสัมผัสก็ทำให้รับรู้ว่า “ยังมีปัญหาที่เราจะต้องแก้” เกี่ยวกับมุมมองการรักษ์โลกของคนทั่วไป อีกทั้งมันยังทำให้ได้รู้อีกว่าการสร้าง Awareness ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์ด้วยเช่นกัน

“ตอนแรกไม่ได้รู้ว่าทำไมคนธรรมดาถึงไม่รักษ์โลกมากพอ ทำไมคนถึงเลือกสิ่งที่เขาสะดวกใช้อยู่ เราก็เริ่มรู้สึกว่าการ Convince ให้พวกเขามาเป็นสาย Green มันเป็นไปได้ยากมากเลย

เราเลยมาคิดกันต่อว่าแผนของเราต้องทำง่าย ๆ ก่อน ทำให้คนที่ไม่ได้สนใจ เริ่มหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันให้ดีขึ้นก่อนค่ะ” ข้าวเจ้า Greentastic 4


แรกขวัญ ทองสัมฤทธิ์ (ข้าวเจ้า)

โครงการ JMAT Brand Planning Competition นอกจากจะมีความแตกต่างแล้ว ยังพ่วงด้วยโจทย์ที่ท้าทายความสามารถของเหล่าผู้เข้าแข่งขัน เพราะในความเป็นจริงแล้วการวางแผนเพื่อสร้างแบรนด์และทำการตลาดอาจจะต้องระยะเวลาเป็นปี ๆ แต่สมรภูมิแห่งนี้มีเวลาเหลือเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น!

ด้วยเหตุนี้ทำให้ทีม Greentastic 4 ต้องทำงานกันอย่างหนักมาก ต้องสละเวลา ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ ต้องทำด้วยความรวดเร็ว ต้องพยายามระเบิดไอเดียเพื่อนำมาโยงเข้ากับโจทย์ให้มีความเป็นไปได้มากที่สุด มีการใช้มุมมองและองค์ความรู้ของแต่ละคนมาชั่งน้ำหนัก และนำมาปรับให้เข้ากับแผนที่ได้วางกันเอาไว้ แน่นอนว่ามันต้องนำมาสู่การถกเถียงหรือ Discuss นั่นเอง ซึ่งมันได้กลายเป็นจุดแข็งของทีมนี้

“ความท้าทายอีกอย่างคือ ทีมเรามาจากหลาย ๆ ที่ และมารวมทีมกันเป็นครั้งแรก ทำให้ความคิดเห็นหลาย ๆ อย่างต่างกัน ให้น้ำหนักกับแต่ละเรื่องที่ต่างกัน แต่มันก็เป็นข้อดี เพราะทำให้เราได้คุยกัน เถียงกันจนได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด

เราทั้งหมดกล้าบอกว่าได้หรือไม่ได้ในมุมมองของเรา เรากล้า Discuss กันจริง ๆ ด้วยเหตุผล เลยรู้สึกว่าการทำงานกับทีมนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนกล้าพูดและใช้เหตุผลทั้งหมดค่ะ” เจส Greentastic 4


เกศวลัย ทองตุ้ย (เจส)

แม้ว่าหลาย ๆ คนจะทราบว่าการสร้างแบรนด์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญขององค์กรต่าง ๆ แต่หากไม่ได้ลงดีเทลศึกษารายละเอียดจริง ๆ ก็อาจจะไม่ทราบเลยว่ามันมีความหมายที่ลึกซึ้งเอามาก ๆ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของโลโก้ หรือแค่เป็นวิธี Convince (โน้มน้าวใจ) ให้ผู้บริโภคสนใจเท่านั้น แต่มันหมายถึง Identity (ตัวตน) ขององค์กร และ Emotional (อารมณ์) ที่จะส่งต่อไปให้ผู้ที่มองเห็นเกิดความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกับแบรนด์ได้ มันยังส่งผลถึงการตัดสินใจเลือกใช้แบรนด์นั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่มีราคาอาจจะสูงกว่าเจ้าอื่นด้วยซ้ำ

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือองค์ความรู้ที่น้อง ๆ จากทีม Greentastic 4 ได้เอ่ยปากตรงกันทุกคนว่าได้เรียนรู้และกลายเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาจากที่ไหนไม่ได้ง่าย ๆ


มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงอยากจะทราบว่าเพราะอะไรทีม Greentastic 4 ถึงสามารถฝ่าฟันจากร้อยกว่าทีมจนกลายมาเป็นทีมชนะเลิศอันดับ 1 และสามารถคว้าเงินรางวัล 100,000 บาทไปครองได้ ซึ่งเคล็ดไม่ลับของน้อง ๆ ก็คือการ “เอาชนะใจผู้บริโภค” ให้ได้นั่นเอง

พวกเขาได้วางแผนการลงแข่งตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการเลือกหยิบผลิตภัณฑ์  Food Packaging ที่ได้รับการรับรองโดยฉลาก SCG Green Choice มาเป็นตัวชูโรง เนื่องจากเหล่าบรรดาสมาชิก Greentastic 4 มองว่าสิ่งที่ทุกคนต้องบริโภคทุกวันคืออาหาร ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเริ่มเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ห่ออาหารเป็นหลัก

แต่การเข้าถึงคนเหล่านี้ต้องเป็นไปด้วยความเป็นมิตร และจะต้องไม่ใช่การยัดเยียด  ดังนั้นพวกเขาจึงต้องออกไปลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เข้าไปสัมภาษณ์ ทำแบบสำรวจ รวมไปถึงการสังเกตกิจวัตรประจำวันของผู้บริโภคตั้งแต่ตื่นนอนเลยทีเดียว มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของแบรนด์ที่วิ่งเข้าไป Offer สิ่งดี ๆ ให้ถึงหน้าบ้าน และยังทำให้หลาย ๆ คนรู้จัก SCG Green Choice มากขึ้นตามไปด้วย

“แผนงาน 1 เดือนที่ทีมเราได้เงินสนับสนุนมาลองทำ เราเอาเงินไปลงพื้นที่จริง ๆ เรามีแผนว่าในระยะยาวเราอยากพาร์ตเนอร์กับร้านอาหารต่าง ๆ ดังนั้นใน 1 เดือนเราก็ไปทำจริง ๆ เลยค่ะ เราไปซื้อบรรจุภัณฑ์มา แล้วเอาไปแจกกลุ่มร้านค้าในตลาดนัดที่อยู่ในชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมาย

มันคือสิ่งที่อยู่ในแผนระยะยาว แต่เราย่อให้เป็นแผนระยะสั้น แล้วทำให้เป็นจริงขึ้นมา แล้วผลตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้เรารู้ว่าถ้าเราทำแผนนี้ในระยะยาว แผนนี้เวิร์กแน่นอน เป็นการตัดสินใจอย่างมั่นใจของกลุ่มเรา ที่ทั้งรวดเร็วและกล้าลงมือทำจริงค่ะ” มายด์ Greentastic 4


อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ Greentastic 4 ประสบความสำเร็จคือการนำความรู้ และคำแนะนำของเหล่าบรรดา Mentor มาปรับใช้เข้ากับแผนของตนเอง มันยังช่วยเปิดมุมมองเรื่องการสร้างแบรนด์ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม เพราะในตอนแรกน้อง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของเหตุผลกับการสร้างแบรนด์มากเกินไป จนขาดในเรื่องของเรื่องอารมณ์ ซึ่งมันคืออีกหนึ่งเหตุผลในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

จากข้อแนะนำต่าง ๆ ของ Mentor  ทำให้ทีมกลับมาคิด และต้องหันมาปรับมุมมองใหม่ ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจปรับแผนครั้งใหญ่ จากที่เน้น Brand Consideration ก็ปรับให้มีสัดส่วนลดลง และทดแทนด้วย Brand Awareness  โยกย้ายปรับแผนสลับตำแหน่งแผนงานกันใหม่  เรียกว่าปรับแก้กันมากกว่า 70% เพื่อให้แผนลงตัวและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งจุดนี้ ถือเป็นการพลิกแผนครั้งสำคัญของทีม Greentastic 4 โดยแท้จริง

“ช่วงนั้นแผนของเราค่อนข้างกว้างไปหน่อย และไม่ค่อยเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายค่ะ เราก็แทบจะล้มกระดาน พลิกแผน คิดใหม่ตั้งแต่ต้นเลย เอาแผนเราตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายมาอ่านใหม่ทุกอันว่ามันลิงค์กันหรือไม่

มันเป็น Big Change ของเราคือช่วงกลางถึงช่วงท้าย ช่วงนั้นทำงานกันหูดับตับไหม้เลย เพราะต้องพลิกมาอ่านใหม่ทุกอย่าง ทำให้เราได้รู้ว่ามีบางอันมันไม่ได้ลิงค์กันมากขนาดนั้น หรือบางอันเหมือนตรงกลางขาดไป ไม่ได้มีเหตุผลมาสนับสนุน ทำให้เราต้องตัดบางส่วนหรือเพิ่มบางส่วนมากขึ้นค่ะ” ข้าวเจ้า Greentastic 4

พูดถึงการปรับเปลี่ยนแผน น้อง ๆ ได้ทิ้งท้ายพร้อมเสียงหัวเราะว่า

“15 นาทีสุดท้ายยังเปลี่ยนแผนกันอยู่เลยค่ะ”


นอกจากความภาคภูมิใจและเงินรางวัลที่ได้รับแล้ว โครงการ JMAT Brand Planning Competition ยังได้มอบขุมทรัพย์อันล้ำค่า นั่นคือ “ความรู้ในการทำแบรนด์” ให้กับทุก ๆ ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งรวมไปถึงทีม Greentastic 4 ด้วยเช่นกัน

น้อง ๆ ทั้ง 3 คนเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะได้นำความรู้ที่ได้มาไปใช้กับหน้าที่การงานในอนาคต รวมไปถึงในชีวิตประจำวันปัจจุบัน เช่น การนำไปใช้กับแผนงานของธุรกิจของตัวเอง การนำไปใช้กับการสร้างคอนเทนต์ลงบนโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างตนเองให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ การนำไปปรับใช้กับการเรียน และแน่นอนมันได้สร้างความเข้าใจการสร้างแบรนด์ในแบบที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้ที่ถ้าหากต้องลงคอร์สเรียน คงต้องเสียเงินหลายหมื่นบาทอย่างแน่นอน


หลังจากที่จบการแข่งขันไป สิ่งที่ยังคงดำเนินต่อไป คือ ความอินเรื่องความรักษ์โลก ที่ฝังลงสู่ความรู้สึกของสมาชิกทีม Greentastic 4 ทุกคน  น้อง ๆ ได้เรียนรู้และเข้าใจว่าแบรนด์ที่ประกาศว่าตัวเองรักษ์โลก ต้องไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญมันคือการลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพอนามัย การปรับเปลี่ยนและส่งเสริมพฤติกรรมการแยกขยะ,  หรือการผลิตและเลือกใช้วัสดุสิ่งของที่สิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยที่สุด

นอกจากแบรนด์ SCG แล้ว ปัจจุบันมีทั้งองค์กรขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว แต่การจะถูกยอมรับว่าเป็นองค์กรที่รักษ์โลกนั้นไม่ง่าย  มันไม่ใช่เรื่องของการตลาด แต่มันจะเกิดขึ้นได้จริงจากตัวตนของแบรนด์จริง ๆ

เท่านั้นยังไม่พอน้อง ๆ ยังพร้อมจะนำเรื่องราวเหล่านี้ส่งต่อไปยังคนรอบ ๆ ตัว เพื่อชวนคนมารักษ์โลกไปด้วยกันอีกด้วย

“จริง ๆ คนรอบตัวเห็นเราทำแผนเขาก็เริ่มสนใจ ว่าอะไรคือ SCG Green Choice ทำให้เขามองในมุมของโลกใบนี้มากขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าโลกใบนี้วิกฤต แต่หลาย ๆ คนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร? ตรงนี้เป็นอีกจุดที่เราแสดงให้เห็นว่าคุณทำอย่างนี้สิ แค่คุณเลือกสินค้าที่ติดฉลาก SCG Green Choice แค่นี้คุณก็จะได้ช่วยโลกไปในตัวด้วยส่วนหนึ่ง

มันเป็นสิ่งที่เราได้ทำในแผนหนึ่งเดือนเรื่องบรรจุภัณฑ์ ให้เขาเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ได้ให้เปลี่ยนพฤติกรรมจากศูนย์เป็นร้อย แค่เปลี่ยนเล็กน้อยก็ได้ช่วยโลกแล้วค่ะ” มายด์ Greentastic 4

ชุดความคิดนี้ไม่ได้ถูกถ่ายทอดไปสู่แค่ทีม Greentastic 4 เท่านั้น แต่ยังถูกเผยแพร่ไปสู่ทีมอื่น ๆ กว่าร้อยทีมที่เข้าแข่งขัน ซึ่งแต่ละคนคือคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสร้างพื้นฐานที่สำคัญของการรักษ์โลกให้กับใครต่อใครได้อีกมากมาย


สุดท้ายน้องมายด์, น้องข้าวเจ้า และน้องเจส ได้ฝากเชิญชวนให้กับเหล่าบรรดานิสิตนักศึกษาในช่วงปี 1 – ปี 4 ให้มาร่วมแข่งขัน JMAT Brand Planning Competition

” เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นการแข่งขัน JMAT Brand Planning Competition ในปีนี้ น่าจะเริ่มสนใจกันแล้ว  เป็นเวทีที่พวกเราชอบกันมาก ถ้าใครอยากลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่ทำแผนในกระดาษ  และได้เห็นผลลัพธ์จากแผนของเราชัดเจน  ให้มาเวทีนี้ค่ะ พวกเราได้ลงมือทำจริง ได้มีมิตรภาพดี ๆ และโจทย์ของแบรนด์นี้ ยังทำให้เราได้ช่วยโลกจริง ๆ ด้วยค่ะ”


ทาง UNLOCKMEN ต้องขอขอบคุณน้อง ๆ ทีม Greentastic 4 ที่สละเวลามาพูดคุยกับพวกเรา หวังว่าความบทความนี้จะส่งต่อแรงบันดาลให้ทุกคนหันมาสนใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้นนะครับ

Photographer : Krittapas Suttikittibut

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line