Guide

GUIDE: POET HOUSE คาเฟ่ และ เวิร์กช็อปสตูดิโอย่านอารีย์ พื้นที่สร้างสรรค์ที่อบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่สอง

By: NTman October 10, 2020

เมื่อเอ่ยชื่อซอยอารีย์ขึ้นมา เชื่อว่าแทบทุกคงต้องนึกถึงย่านชิค ๆ อีกหนึ่งพิกัดที่เปรียบเสมือนเมืองหลวงคาเฟ่ของเมืองกรุง ซึ่งภาพจำที่ฉาบด้วยความดูดีมีสไตล์และความเจริญที่หลั่งไหลเข้ามาตามกระแสธารแห่งเวลา ทำให้พื้นที่ซึ่งเคยเป็น Residence Area ที่ผู้คนใช้ชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ อย่างอารีย์นั้นเปลี่ยนแปลงไป และเป็นอะไรที่ชาวอารีย์จำนวนไม่น้อยโหยหา

ซึ่ง Poet House Cafe บ้านสีขาวที่ตั้งอยู่ในย่านอารีย์ซอย 5 คือคาเฟ่ และ เวิร์กช็อปสตูดิโอ ที่เราขอยกให้เป็นอีกโลเคชันที่สามารถคืนความเป็นย่านที่อยู่อาศัยสุดชิลล์ให้กับซอยอารีย์ได้เป็นอย่างดี และนี่คือเหตุผลที่คอลัมน์ GUIDE  สัปดาห์นี้ เราเลือกพาทุกคนมาสัมผัสร้านคาเฟ่ และพื้นที่สร้างสรรค์กลางกรุง ซึ่งให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านหลังที่สอง ที่รอให้ทุกคนได้ไปผ่อนคลายกับกาแฟดี ๆ อาหารอร่อย ๆ และกิจกรรมเวิร์กช็อปมากมายไปพร้อม ๆ กัน

 

POET HOUSE CAFE บ้านที่ทุกคนคือกวีเอก

“ตอนที่เริ่มทำร้าน เรารู้สึกว่าอยากจะให้บรรยากาศความเป็นอารีย์สมัยก่อนมันกลับมาเหมือนเดิม ยังใช้ชีวิตที่เรียบ ๆง่าย ๆ สบาย ๆ ได้แบบไม่ต้องอึดอัด ไม่ต้องฟอร์มเยอะ และกลุ่มคนที่มาทำงานแถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Freelance, Creative พวกที่ทำงาน Production มันก็เลยเข้ากับชื่อร้านเดิมคือ Poet House ฐานลูกค้าเดิมคือกลุ่มคนที่สามารถมาสร้างสรรค์อะไรก็ได้ตามแบบของตัวเองเราจึงมองว่าทุกคนคือนักกวี ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนมาติวเตอร์ พนักงานมาประชุมงาน, หรือศิลปินมาสเกตช์ภาพ, ครีเอทีฟเอาสตรอรี่บอร์ดมาคุยกัน คือทุกคนสามารถสร้างบทกวีในชีวิตตัวเองได้ที่นี่ เราก็เลยยังใช้ชื่อ Poet House ต่อ”

ตัวอักษรย่อหน้าข้างบนถอดมาจากบทสนทนาที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ ‘คุณกาย’ ชาวอารีย์ขนานแท้ จากที่เคยเป็นลูกค้ากาแฟร้าน Poet House Cafe จนมีโอกาสได้มาเปิดธุรกิจเวิร์กช็อปสตูดิโอ คลาสปั้น วาดภาพสีน้ำ ถ่ายรูป ทำขนม จัดดอกไม้ฯลฯ บนพื้นที่เดียวกัน ก่อนที่จะร่วมหุ้นกับเพื่อนอีกสองคน รับช่วงต่อจากเจ้าของร้านเดิมที่ตัดสินใจเลิกทำ เพื่อรักษาความเป็น Poet House บ้านหลังที่สองของชาวอารีย์ให้ยังคงอยู่ต่อไป

ด้วยความที่คุณกายเป็นคอกาแฟสายลึกที่ลงดีเทลไปถึงวิธีการชง การเลือกเมล็ด ทำให้ Poet House Cafe ยุคปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนเมนูอาหาร เปลี่ยนเมล็ดกาแฟใหม่ ทำให้มันจริงจังขึ้น เพื่อให้คนที่เป็นคอกาแฟจริง ๆ มาจอยกับร้านได้ และขาดไม่ได้กับกิจกรรมเวิร์กช็อป พื้นที่สร้างสรรค์ที่ยังคงเปิดให้ผู้ที่สวนใจมาเข้าคลาสทุกเสาร์-อาทิตย์

“จุดประสงค์ในการทำ Poet House ของเราคืออยากเปิดให้เป็นคอมมูนิตี้เล็ก ๆ อยากให้คนที่มาที่นี่อยู่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น หรือวันหยุดคนแถวนี้ไม่ได้ไปไหน อยากหากิจกรรมทำก็มาลงคลาสสีน้ำ หรือปั้นเซรามิก หรือคลาสถ่ายภาพอะไรประมาณนี้ อยากให้ใครที่มาร้านแล้วได้คิดถึงอารีย์สมัยก่อน ไม่ต้องเกร็งมาก เมนูอาหารก็ใช้เป็นสูตรคุณแม่ เป็นสูตรโฮมเมด ใช้วัตถุดิบคุณภาพที่เราเลือกซื้อเอง ร้านเราจะทำอาหารให้เหมือนที่ปกติเราทำกินที่บ้าน แต่ก็มีการเอามาทำเมนูให้มันตื่นเต้นขึ้น ฟิวชั่นเพิ่มขึ้น” คุณกายเล่าให้ฟังเพิ่มเติมตอกย้ำถึงความตั้งใจที่จะทำให้ Poet House ให้อารมณ์ความเป็นบ้านอย่างแท้จริง ทั้งบรรยากาศ กิจกรรม รวมถึงอาหารที่ทางร้านยืนยันว่ามันให้อารมณ์โฮมมี่อย่างแท้จริง จนเราแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรส อาหาร เครื่องดื่ม และขนม ที่คุณกายภูมิใจนำเสนอกับเราในวันนี้

 

SIGNATURE MENU

อาจเพราะว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูกาแฟอยู่แล้ว ทำให้เมนูเด็ดจาก Poet House Cafe ที่จัดมาให้เราได้ชิมนั้นไม่มีกาแฟอยู่ในลิสต์ แต่ถึงกระนั้นอาหารจากหลัก เครื่องดื่ม และขนมที่เราได้ลองนั้น ต้องบอกเลยว่ามันน่าประทับใจจนต้องบอกต่อจริง ๆ

สปาเกตตีกุ้งคั่วพริกเกลือ: เริ่มต้นด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของร้านคือสปาเกตตีกุ้งคั่งพริกเกลือ อาหารเส้นประจำชาติอิตาลีเคล้ากลิ่นรสเข้มเข้นแบบไทย ๆ จุดเริ่มต้นจากข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือเมนูโปรดประจำบ้านคุณกาย  ที่ได้ลองเอาหมูกรอบมาใส่สปาเกตตีแล้วมันไม่เวิร์ก แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะผสานรสของพริกเกลือให้เข้าเก็บเมนูเส้นสปาเกตตี้ จนมาลงตัวที่การใช้กุ้งเป็นวัตถุดิบ  บอกเลยว่าได้เคี้ยวเส้นเหนียวนุ่ม กุ้งหนึบหนับ พร้อมรับรสชาติพริกเกลือสูตรลับของทางร้าน มันช่างเด็ดขาดจนเกินบรรยาย

ข้าวปลาสลิดทอดกะเพรากรอบ: มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนู  ซึ่งดูเหมือนกับว่าร้านจะกลัวเราไม่อิ่ม จึงได้จัดข้าวปลาสลิดทอดกะเพรากรอบ อาหารจานหลักที่ได้รับความนิยมไม่ใช่น้อย กับข้าวเม็ดสวยที่ผัดมากับเครื่องเบสของผัดกะเพรารสชาติจัดจ้าน ผสานความกรอบนอกนุ่มในของปลาสลิดทอดอย่างดี แนมด้วยใบกะเพรากรอบและพริกแห้งที่ช่วยให้จานนี้เป็นเมนูกะเพราที่เราสามารถกินซ้ำได้ทุกวัน

Earl Grey Maple with Cinnamon Smoked: เมื่อจานหลักผ่านพ้นไปเราขอพักหายใจหายคอด้วยเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่ทางร้านแนะนำว่ารสของกาแฟหลังมื้ออาหารอาจจะให้อารมณ์ที่หนักไป เราเลยมีโอกาสได้ลิ้มรสชาเลดี้เอิร์ลเกรย์เย็นฉ่ำที่มิกซ์มากับเมเปิ้ลไซรัป เสิร์ฟพร้อมซินนาม่อนเบิร์นไฟที่ด้านบน สวยงามจนเชื่อว่าหลายคนคงอดถ่ายรูปก่อนดื่มไม่ได้ ส่วนวิธีการดื่มแนะนำให้เอาแท่งซินนามอนด้านที่ไหม้จุ่มลงไปในเครื่องดื่มแล้วคนแช่ทิ้งไว้สักพักรอให้ละลายแล้วค่อยดื่มต่อ เพื่อให้ความหอมของซินนามอนซึมซาบลงไปกับชาเอิร์ลเกรย์ รับรองว่าอร่อยจนหยดสุดท้าย

Rose Lychee Sparkling: สำหรับใครที่ไม่ถูกโรคกับเมนูชา, กาแฟ, โกโก้ ฯลฯ ที่ Poet House Cafe ก็ยังมีเครื่องดื่มแนว Sparkling มาให้ได้เติมความสดชื่นกัน และต้องบอกเลยว่ารสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวของลิ้นจี่ และกลิ่นหอม ๆ จากดอกกุหลาบ ในเมนู Rose Lychee Sparkling มันคือความสดชื่นซึ่งมาในรูปแบบที่ดื่มได้อย่างแท้จริง

Special Cake: ปิดท้ายกันที่เมนูของหวาน ที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นขนมเค้กไม่ธรรมดา เพราะว่ามาแบบจำนวนจำกัด ทำแค่อาทิตย์ละ 10 ชิ้น มีรสชาติสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปสัปดาห์ละ 3 – 4 รส ซึ่งทั้ง 3 รสที่เราได้ลองในวันนั้น บอกได้ทำเดียวว่า ‘ฟิน’

  • Valrhona Chocolate Cake – สาวกชอคโกแลตพูดถึงตัวนี้ทุกคนต้องรู้จัก กับแบรนด์ชอคโกแลตจากฝรั่งเศสที่ติดอันดับว่าเป็นชอคโกแลตที่ดีที่สุดในโลก  ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีใครนำมาทำเค้กขาย แต่ Poet House Cafe จัดให้สมศักดิ์ศรีความสเปเชียล การได้ลิ้มรสเค้กช็อคโกแลตชั้นยอด ตัดรสด้วยสตรอเบอร์ที่ฉ่ำ ๆ แบบนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
  • Caramel Macadamia Cake – เค้กกาแฟหอมกรุ่นจากเอสเปรสโซชอตแท้ ๆ ไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ เพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวมันด้วยถั่วแมคคาเดเมียคัดไซส์ มาเน้น ๆ อัดแน่นเต็มปากเต็มคำ บอกเลยว่าเพลินจนอยากเบิ้ลอีกชิ้น
  • Triple Orange Cake – มากันที่ชิ้นสุดท้าย กับเค้กที่ให้กลิ่นรสที่สดชื่นด้วยส่วนผสมของส้มสามชนิด ยูสุ, เจแปนนิสยูสุ, ซันคิสแคลิฟอร์เนีย พร้อมดอกส้ม ได้กลิ่นส้มแบบชัด ๆ แต่มาในความส้มหลายมิติที่ให้ความแตกต่างจากเค้กส้มทั่วไปที่เราเคยชิมมา อีกทั้งการท็อปด้วยบลูเบอร์รี่สดนอกจากจะได้สีสันที่ตัดกันสวยงาม ยังช่วยตัดรสชาติให้มีความน่าสนใจ และเป็นการปิดท้ายมื้อนี้ที่ Poet House Cafe ได้อย่างน่าประทับใจจริง ๆ

สำหรับชาวอารีย์ หรือชาว Cafe Hopping จากย่านไหนก็ตาม ที่กำลังมองหาพิกัดทำกิจกรรม หรือพื้นที่นั่งชิลล์วันหยุด ในบรรยากาศสบาย ๆ เหมือนได้ไปนั่งเล่น กินข้าวบ้านเพื่อ เราเชื่อว่า Poet House Cafe แห่งนี้คือที่ที่พวกคุณต้องการ

 

// POET HOUSE CAFE Ari Soi 5, Bangkok
Open Daily  09.00-20.00
Parking Available
Tel. 089 742 2299
Facebook: https://www.facebook.com/poethouse.ari5

 

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line