World

HARVEST MOON ของจริง เมื่อจีนโชว์เมล็ดฝ้ายงอกพิสูจน์ว่าพืชโตบนดวงจันทร์ได้และคนอาจอยู่สบาย

By: anonymK January 16, 2019

ในอดีตความฝันเรื่องอวกาศเหมือนสิทธิ์ผูกขาดของตะวันตก สหรัฐฯ จะบินไป โซเวียตจะบินมาเหนือดาวสีน้ำเงินก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำหรับพวกเราเหล่าซีกโลกตะวันออก แต่มาวันนี้ประเทศแดนมังกรอย่างจีนได้พิสูจน์แล้วว่าความฝันของมนุษยชาตินอกโลกนี้ เขาสามารถก้าวเข้ามาได้ในฐานะผู้นำและไปเอี่ยวมันได้ทั้งหมด

นับจากเสียงฮือฮาตั้งแต่ปีที่แล้วที่จีนอุกอาจส่งดาวเทียมไปทำหน้าที่พระจันทร์เทียมเพื่อสร้างแสงสว่างประหยัดพลังงานให้ประเทศ มาถึงวันนี้จีนยังเหนือขั้นกับการไปนอกโลกแบบไม่ไปเปล่า พกของติดไม้ติดมือไปทดลองเพิ่มด้วย โดยคราวน้ีเป็นการนำเรื่อง ชีววิทยาอย่างการปลูกพืชและปล่อยสิ่งมีชีวิตเล็ก ไปทดลองหายใจในต่างดาว (ไม่ใช่แค่ต่างแดน) ซึ่งเขาคือเจ้าแรกที่ทำให้มันโตได้สำเร็จ ก่อนจะโชว์ความเหนือชั้นของมนุษยชาติครั้งนี้ผ่านทางทวิตเตอร์

Chang’e 4 : อดีตยานพระรอง ที่กำลังเป็นพระเอกเพราะเมล็ดฝ้ายโต

ถ้าใครเคยติดตามเรื่องราวของยานอวกาศจีนที่ยิงขึ้นไปปล่อยบนดวงจันทร์ ชื่อของ Chang’e 4 อาจจะเป็นชื่อที่เคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแล้ว เพราะยานลำนี้แหละที่เคยสำรวจดวงจันทร์ด้านมืดมาก่อน

แต่ก่อนจะไปสำรวจด้านมืดมันโดนวางตำแหน่งไว้ในฐานะยานสำรองของ Chang’e 3 ที่จีนมอบภารกิจลงจอดนิ่ม แล้วนำรถโรเวอร์ลงวิ่งบนพื้นผิวดวงจันทร์ ทว่าพอ Chang’e 3 ทำได้ดีโดยไม่ต้องการตัวสำรอง Chang’e 4 ก็เลยได้รับการปรับแต่งและมอบภารกิจใหม่ให้อย่างการสำรวจดวงจันทร์ด้านมืดแทน

ระหว่างที่คนกำลังตื่นเต้นกับภารกิจสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์ที่ไม่มีใครเคยสำรวจมาก่อนในวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา อยู่ เราก็ได้รับข่าวดีว่าภารกิจซ้อนที่เราไม่เคยรู้อย่างการทดลองชีววิทยาซึ่งถูกเหน็บไปพร้อมกันด้วย เพราะ Chang’e 4 ติดตั้งถังทดลองขนาด 18 เซนติเมตรไป ด้านในประกอบด้วย เมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ เช่น ฝ้าย มันฝรั่ง พร้อมสิ่งมีชีวิตขนาดย่อมอย่างไข่แมลงหวี่ (fruit flies) และยีสต์ไปพร้อมกัน โดยภาพที่ส่งกลับมายังโลก โชว์ให้เห็นว่าฝ้ายกำลังเติบโตสดใสบนดวงจันทร์

งานนี้มนุษยชาติเลยได้เฮ เพราะแม้มันไม่ได้ถูกเพาะด้วยดินบนดวงจันทร์ ควบคุมการเติบโตในยานจากการจำลองสภาวะโลก แต่มันก็สามารถเติบโตงอกงามได้ในพื้นที่ของดวงจันทร์ ทลายขีดจำกัดในแง่ของเอเลี่ยนที่สามารถไปเติบโตได้ในที่แห่งนั้น

ทำไม ฝ้าย มันฝรั่ง แมลงหวี่ จึงเป็นตัวแทนของระบบนิเวศขนาดย่อม

ด้วยความเสี่ยงในฐานะผู้มาเยือน แน่นอนว่าคงไม่มีมนุษย์คนไหนไปปักเต๊นท์นั่งนอนเล่นนาน  บนดวงจันทร์ แต่จะเลือกส่งตัวแทนอื่น ไปทดสอบการใช้ชีวิตแทน สำหรับเหตุผลที่หลายคนสงสัยว่า แล้วทำไมต้องไข่แมลงหวี่ ทำไมต้องฝ้าย ทำไมต้องมันฝรั่ง ทำไมต้องยีสต์ คำตอบเหล่านั้นมาจากการไตร่ตรองดูว่าอะไรพอจะเป็นอาหารหลักของนักบินอวกาศในอนาคต อะไรจะแทนที่ปัจจัย 4 ที่ต้องการ และเหตุผลอื่น ที่น่าจะเกี่ยวข้องดังนี้

ฝ้าย : เหตุผลของการเลือกพืชชนิดนี้เพราะมนุษย์ต้องการปัจจัยสี่อย่างเครื่องนุ่งห่ม เพราะเรามีวิทยาการแต่การแบกของเคลื่อนย้ายขึ้นไปเพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานมันเป็นเรื่องยาก การสร้างแหล่งวัตถุดิบแบบนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ

ยีสต์ : สามารถควบคุมคาร์บอนไดออกไซด์และออกซิเจนในพื้นที่ขนาดเล็กได้ เป็นผลพวงการสร้างอากาศหายใจ

มันฝรั่ง : นี่คือแหล่งอาหารสร้างพลังงานที่แม้เป็นพืชแต่มันก็เป็นแป้งที่จะแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาลสร้างพลังงานให้มนุษย์อย่างเรา ตอนนี้ยังไม่ได้รับผลสรุปว่ามันจะโตไหม งานนี้ถ้าไม่โตก็คงต้องหาพืชพันธุ์ชนิดใหม่ที่โตได้ขึ้นไปแทน

ไข่แมลงหวี่ : สัตว์มีตั้งมากมายทำไมส่งสัตว์ไม่สร้างประโยชน์หรือหน้าตาไม่น่าพิสมัยนี้ขึ้นไป คำตอบนี้ก็ไม่ยากเขาน่าจะเลือกโดยคำนวณแล้วว่าวงจรเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันให้มีชีวิตรอดได้ เนื่องจากไข่แมลงหวี่จะโตได้ถ้ามีอุณหภูมิที่เหมาะสม และวงจรชีวิตของมันที่จะพัฒนาเป็นตัวเต็มวัยได้ก็ค่อนข้างใช้ระยะเวลาสั้น คือใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้นจึงง่ายต่อการสังเกต ที่สำคัญคือมันยังกินของบูดเน่า ถ้าเกิดเมล็ดต่าง ที่พกไปไม่โต หรือโตแต่เน่าเสียเพราะไม่มีคนกิน นั่นจะกลายเป็นแหล่งอาหารของมันต่อไป เรียกได้ว่าเชื่อมวงจรถึงกันครบห่วงโซ่นั่นเอง

Chang’e 5 ทายาทยานแห่งอนาคต

แม้รุ่น 4 จะเด็ด แต่รุ่น 5 ก็รับรองได้ว่าต้องมีต่อ เพราะพี่จีนเขาวางแผนแล้วว่าจะมอบหมายให้ยาน Chang’e 5 ทำภารกิจเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับโลกแทน เราคงต้องรอลุ้นว่าสิ่งที่เก็บกลับมาจะมีดอกผลของอะไรที่เอาไปปลูกไว้ด้วยรวมอยู่ในนั้นด้วยไหม

ส่วนอดีตแฝดโลกอย่างดาวอังคาร ที่เชื่อว่ามีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกันกับโลก ทรัพยากรพร้อม ก็กำลังจะเป็นโปรเจ็กต์ต่อไปในอนาคตที่จีนเตรียมขยายการสำรวจในปี 2020 เจอข่าวแบบนี้เจ้าใหญ่ที่เคยเยือนอวกาศงานนี้คงต้องเร่งมือผลิตเทคโนโลยีใหม่ ให้เต็มสูบ พร้อมไปแข่งขันแน่นอน น่าติดตามว่าอวกาศเหนือดาวสีน้ำเงินที่เราเหยียบจะมีใครเข้าไปยึดครองเป็นเจ้าของก่อนกัน

หมายเหตุ : หลังจากบทความนี้ลง เพียง 1 วัน ต้นฝ้ายดังกล่าวก็ตายไปแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศยามค่ำบนดวงจันทร์ด้านห่างไกลที่ติดลบ 170 องศา ไม่ได้รับแสงอาทิตย์ ส่งผลให้ยาน Chang’e 4 เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานเพื่อป้องกันความเสียหายจึงทำให้การดำเนินการเพาะปลูกในยานล้มเหลว

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4 / 5

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line