ในวาระครบรอบ 20 ปี เราขอนำประวัติ “NIKE AIR MAX 98” มาฝากกัน

หลังจาก Nike เริ่มจะรู้ทิศทางของตัวเองว่ามีจุดแข็งคืออะไร เห็นได้จากกลยุทธ์ในปีที่ผ่านมา ที่ได้มีการนำรองเท้าเรโทรสลับกับโมเดลรุ่นใหม่ ๆ ออกมาทำตลาด นับว่าแผนที่ยอดเยี่ยม จนส่งผลให้พวกเขาสามารถฉีกคู่แข่งแบรนด์รองเท้ากีฬาอื่น ๆ ชนิดไม่เห็นฝุ่น และกลับไปเป็นเจ้าแห่ง Sneakers อย่างมั่นคงอีกครั้ง

โดยเมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นการครบรอบ 20 ปีของ Air Max  97 จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจว่าในปี 2017 เราจะได้พบกับรองเท้า Air Max 97 มากมาย ทั้งงาน Collaboration หรือสี colorway ใหม่ ๆ นับว่าเป็นปีทองของ  Nike  Air Max 97 กลายเป็นรองเท้าหายาก และขาดตลาด ไม่พอต่อจำนวนความต้องการที่มี

ซึ่งในปีนี้ Nike ก็ดูเหมือนจะยังใช้กลยุทธ์เดิมในการผลักดันรองเท้าเรโทรประจำปีที่ในครั้งนี้เป็นคิวของ Nike Air Max 98 เนื่องจากเป็นการครบรอบ 20 ปีเช่นกัน ดังนั้นในวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จะขอนำประวัติของรองเท้าคู่นี้มาเล่าให้ฟัง

หากเราย้อนกลับไปในปี 1998 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Nike รวมถึงนวัตกรรม Air Max เนื่องจากพวกเขาได้ผลิตรองเท้าเจ๋ง ๆ ออกมาสู่ตลาดและครองใจผู้คน อาทิ Air Max Plus ที่เป็นการนำเสนอเทคโนโลยี Tuned air โดยใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาผลิตชุดพื้น Air อีกทั้งก็ยังมีรองเท้ารุ่นอื่น ๆ ที่ฮิตทล่มทายอย่าง Air Max Tailwind III และ Air Max Triax Plus อีกด้วย

Air Max Plus / Air Max Tailwind III

แต่ไฮไลท์ที่เราจะไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้นั่นคือ Nike Air Max 98 รองเท้ารุ่นเรือธงประจำปี 1998  โดยโมเดล 98 นี้ถือเป็นการสานต่อเทคโนโลยี Air-sole เต็มแผ่นที่มีความยาวตลอดตัวรองเท้าจากโมเดล 97 ถูกนำมาต่อยอดในการผลิตเพื่อซัพพอร์ตเท้าของผู้สวมใส่อีกครั้ง

โดยทีมวิจัยของ Nike มีการปรับเปลี่ยนมาใช้หนังสังเคราะห์ และผ้าตาข่ายที่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น 97 พร้อมการร้อยเชือกแบบ overlay system เพิ่มความกระชับหน้าเท้าเวลาที่สวมใส่ อีกทั้งยังเลือกยางคาร์บอน BRS 100 ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้แข่ง MotoGP มาใส่บริเวณ​พื้นรองเท้าเพื่อให้มีความทนทานมากขึ้น

ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่ารองเท้า Air Max 98 ถือเป็นรองเท้าที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมทุกรูปแบบ และที่สำคัญยังเอาใจคอการ์ตูนด้วยการนำแรงบันดาลใจจากการ์ตูน  Gundam มาเป็นสี OG colorway ซึ่งภายในปี 1998 Nike ได้ออกรองเท้า Air Max 98 มาด้วยกันทั้งหมด 5 เฉดสี อันประกอบไปด้วย

The Royal/Red (Gundam)

 Varsity Royal/Comet Red-Obsidian 

White/Deep Orange-Black-Varsity Maize

Cement Grey/Citron-Obsidian

Metallic Silver/Atlantic Blue-Black-White

ทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมตามแบบฉบับรองเท้า Nike Air  ทั่วไป แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่ารองเท้าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะลำพังแค่โลโก้ Swoosh  ก็สามารถเพิ่มความเท่ให้กับผู้สวมใส่เป็นไหน ๆ

หลังจากปี 1998 ก็มีการนำ Air Max 98 กลับมาขายอย่างจริงจังอีกครั้งในช่วงปี 2000 ด้วยเฉดสีใหม่ ก่อนที่รองเท้ารุ่นนี้จะหายหน้าหายตาไปสักพักใหญ่ จะมีงาน Collaboration บ้างประปราย  แต่หนึ่งในไฮไลท์ที่ช่วยส่งเสริมมูลค่าให้กับ Air Max 98 คือเมื่อประมาณสองปีก่อน Supreme แบรนด์สตรีทแวร์ชื่อก้องโลกได้เลือกรองเท้าโมเดลนี้มาทำคอลเลคชั่นพิเศษ และก็ได้ผลตอบรับดีมาก จนแฟน ๆ ร้องขอให้นำ Nike นำ Air Max 98 สี Original กลับมาขายอีกครั้งหนึ่ง

Nike Airmax 98 x Supreme

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประวัติความเป็นของรองเท้า Nike Air Max  98 ที่ล่าสุดได้กลับมาวางขายในวาระครบรอบ 20 ปีเป็นที่เรียบร้อย และก็เป็นไปตามคาดเพราะ Nike Air Max 98 สต๊อกหมดเกลี้ยงทั่วโลกอย่างรวดเร็วทำให้ราคารีเซลตอนนี้สูงถึง 13,xxx บาทต่อคู่เลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องมารอลุ้นกันว่าในส่วนของ Nike Thailand จะได้โควต้านำเข้ามาจำหน่ายหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอบอกเลยว่าหากคุณจะอยากเป็นเจ้าของรองเท้า Nike Air Max 98 งานนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน