

FASHION
Oxford shirts เสื้อนักเรียนของฝรั่งที่ได้กลายมาเป็นไอเท็มที่ผู้ชายทุกคนควรมีติดตู้ พร้อมวิธี Mix and Match
By: unlockmen March 10, 2017 48888
เสื้อเชิ้ตเป็นหนึ่งในไอเท็มที่ผู้ชายทุกคนควรมีติดตู้เสื้อผ้าไว้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ชายไทยที่นิยมสวมเสื้อเชิ้ตเพื่อเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดีเป็นทางการมากยิ่งขึ้น ซึ่งเสื้อเชิ้ตก็มีหลายประเภทให้เลือกใส่ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็น Straight Point Collar (ปกมาตราฐาน) , Button-Down Collar (ปกกระดุมสองข้าง) , Spread Collar (ปกกว้าง) , Club Collar (ปกวินเทจ) , Mandarin Collar (ปกคอจีน) ที่เหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เสื้อเชิ้ตประเภทที่เรียกว่า Oxford shirts เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในหมู่คนออฟฟิศ รวมถึงนักศึกษาที่เลือกซื้อมาใส่กันอย่างแพร่หลายจนทำให้เสื้อเชิ้ตประเภทอื่นๆ แทบจะหาไม่ได้ตามท้องถนนอีกต่อไป ดังนั้นวันนี้เราจึงขอมาเล่าเรื่องความเป็นมาของ Oxford shirts รวมถึงการมิกซ์แอนด์แมทช์ให้ชาว UNLOCKMEN ได้รู้กัน
ทุกคนอาจจะเข้าใจว่า Oxford shirts ต้องมาจากเมือง Oxford เป็นผู้คิดค้นอย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะหากพูดถึงประวัติของเสื้อเชิ้ตประเภทนี้แล้ว มันเริ่มต้นในช่วงศตวรรษ 19 ประเทศสก็อตแลนด์ โดยพวกเขาได้คิดค้นวิธีการทอผ้าแบบใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า basket weave คือการสานด้ายเส้นใหญ่เหนือด้ายเส้นเล็กสองเส้นแล้วจึงลอดด้ายเส้นเล็กอีกหนึ่งเส้นทำวนไปเรื่อยๆ จนทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่เฉพาะตัวที่สำคัญเป็นงาน handmade ทำให้เสื้อ Oxford มีราคาสูงกว่าเสื้อเชิ้ตทั่วไปในตลาดเวลานั่น
เนื่องจากคุณภาพที่ดีแถมเป็นเครื่องบ่งบอกความมีฐานะ ทำให้มหาวิทยาลัยชื่อดังลูกเศรษฐีทั้งหลายอย่าง Yale , Cambridge, Harvard รวมถึง Oxford ได้เลือกที่จะใช้เสื้อประเภทนี้เป็นเครื่องแบบประจำตัวของนักเรียน แต่ทำไมมันถึงมีชื่อว่า Oxford shirts หละ ไม่ใช่ Yale shirt? หรือ Cambridge shirt?
นั่นก็เพราะว่าพอเวลาผ่านไปสักพัก มหาวิทยาลัยเหล่านี้ได้เลิกใช้บริการโรงงานทอผ้าจากสก็อตแลนด์แห่งนี้ เหลือแต่เพียงมหาวิทยาลัย Oxford ที่ยังคงใช้บริการผ้าและการตัดเย็บของพวกเขาอยู่ จึงทำให้โรงทอผ้านี้ตั้งชื่อตามมหาวิทยาลัย Oxford เพื่อง่ายต่อการจดจำ ในสมัยนั่นใช้ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้สวมใส่เสื้อ Oxford shirt เพราะหากไม่ใช่นักเรียนในกลุ่ม Ivy League หรือลูกท่านหลายเธอ อย่าหวังเลยที่จะได้ใส่เสื้อเชิ้ตผ้าดิบนี้เนื่องจากราคาที่แพงหูฉีก
ในอีกด้านหนึ่งเสื้อ Oxford shirts ยังได้กลายเป็นเครื่องแบบสำหรับนักกีฬา Polo ที่ไว้ใช้ลงแข่งขันอีกด้วย โดยเสื้อ Oxford สามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ ที่เหมาะจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปได้แก่ Button-Down Collar (ปกกระดุมสองข้าง) ที่จะเหมาะกับการแต่งตัวในแนว Casual กึ่งสปอร์ต สามารถใส่ในวันชิวๆ ได้สบายกับกางเกงขาสั้นหรือขายาวและอีกแบบคือ Traditional Point Collar (ปกมาตราฐาน) ที่จะมีความทางการมากขึ้นเหมาะสำหรับสวมใส่ร่วมกับเสื้อประเภทอื่นๆ อย่างเช่น blazer กางเกง chinos เพื่อเพิ่มความเป็นพิธีการตามวาระโอกาส
Button-Down Collar
Traditional Point Collar
ด้วยความเอกประสงค์ขนาดนี้ทำให้ทุกวันนี้เสื้อ Oxford shirts ยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่ลดละ ยิ่งมีการพัฒนารูปทรงให้มีความเข้ารูปมากยิ่งขึ้น พอสวมใส่จะช่วยให้ทุกคนดูมีรูปร่างและสรีระที่ดีขึ้น ด้วยผ้าคุณสมบัติเพิ่มความกระชับของสัดส่วนบอดี้ให้ดูลงตัว อีกทั้งราคาที่ถูกลงมากกว่าในสมัยก่อนและมีทางเลือกในท้องตลาดเสื้อมากมาย Oxford shirts จึงได้กลายเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ชายที่มีความต้องการอยากที่จะดูดีอีกต่อไป
ความโดดเด่นอีกหนึ่งอย่างของเสื้อ Oxford shirt เนื้อผ้าที่รีดง่าย ยับค่อนข้างยาก จึงเหมาะกับหนุ่มๆที่ต้องการดูดีตลอดเวลา ด้วยเนื้อผ้าที่ใส่สบาย และระบายอากาศได้ดีทำให้เหมาะกับการใส่ในเมืองร้อนอย่างบ้านเรา และพอเรายิ่งซักผ้าจะยิ่งนิ่มลง แต่มีข้อควรต้องระวังคือไม่ให้เสื้อไปเกี่ยวอะไรแหลมๆ เพราะผ้าที่ทอแบบ basket weave จะค่อนข้างขาดเป็นรูมดได้ง่าย
สำหรับวิธีการ Mix and Match ให้กับเสื้อ Oxford shirts ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย เพราะเพียงลำพังตัวของเสื้อเชิ้ตเองก็สามารถทำให้ดูดีได้แล้วไม่ว่าจะนำมาใส่กับการกางเกง Chinos ซึ่งเป็นสไตล์ต้นตำรับถอดแบบมาจากนักเรียน Ivy League ที่ฮิตมาตั้งแต่ยุค 70s จนปัจจุบันหากใครที่ยังใส่เสื้อผ้าสไตล์นี้ก็ยังเป็นที่น่าจับตามองโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่งอะไรที่มันเยอะแยะสำหรับสีที่รอดแทบทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องคิดมากคือเสื้อเชิ้ต oxford สีฟ้า,ขาวแมทช์เข้ากับกางเกงสี navy , สีดำ หรือถ้าหากมั่นใจว่าเป็นคนที่มีช่วงขาสวยจะลองกางเกงโทนสีอ่อนอย่างสีกากี หรือขาวก็ได้เช่นกัน
หรือถ้าจะเพิ่มความเท่ให้มากขึ้นไปอีกสำหรับหนุ่มออฟฟิศขี้เล่น อาจจะหาเสื้อ jumper หรือเสื้อคาร์ดิแกนบางๆ มาสวมทับอีกชั้นก็จะได้ลุคที่ดูทางการแต่ยังคงมีสบายขึ้นกว่าการใส่ blazer ในสภาพอากาศร้อนเช่นนี้ แต่มีข้อควรระวังสำหรับการมิกซ์เสื้อ jumper หรือ cardigan ที่จะต้องไม่ให้สีโดดต่างกันสุดขั้วเกินไปเพราะเนื่องจากเสื้อ oxford ส่วนใหญ่จะเป็น pastel color ดังนั้นหากหาคู่สีที่ปี้ดมาเลยอาจจะหลุดเกินไป
แต่ถ้ายังไม่ชอบอีกจะแต่งแบบสบายสุดๆ คล้ายกับหนุ่มสไตล์ครีเอทีฟก็เพียงนำ Oxford shirts มาเป็นเสื้อทับเสื้อยืดไว้ด้านใน มิกซ์กับกางเกงยีนส์จะสีดำ สีเข้ม สีซืด มีรอยขีดข่วนขาด อะไรก็ได้ตามแต่ใจต้องการ แต่ที่สำคัญคือต้องใส่รองเท้าผ้าใบสีเรียบๆ สักคู่ ก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการมิกซ์เสื้อสไตล์ Mr.Casual
และนี่ก็เป็นเรื่องราวของ Oxford shirts และวิธีการนำไปมิกซ์ตามสไตล์ของตัวเองที่เราได้นำมาฝากกัน ซึ่งหากจะบอกว่า Ivy League มีความสำคัญต่อวงการแฟชั่นของผู้ชายไม่แพ้ Military เลยก็ไม่ผิดเพี้ยน เพราะหากเราสืบสาวราวเรื่องลึกลงไป ไม่ว่าจะเป็น Baseball Jacket เสื้อ Polo เสื้อ Oxford shirts หรือแม้แต่ Preppy Style ล้วนเกิดมาจากสังคม Ivy League ทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องขอขอบคุณพวกเหล่าชนชั้นการศึกษาในอเมริกาที่ได้คิดสไตล์การแต่งตัวแบบนี้ออกมาจากเสื้อผ้าของเด็กนักเรียนได้กลายมาเป็นไอเท็มที่ผู้ชายทุกคนทั่วโลกต้องมีติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้