Life

เค็มไปหน่อยต้องเบามือ เกลือหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คุณพุงป่อง

By: Thada December 8, 2016

หากจะบอกว่าโซเดียมเป็นหนึ่งในตัวการอันร้ายกาจของคนที่คิดจะลดน้ำหนักเลยก็ว่าได้ เพราะโซเดียมเป็นหนึ่งในเกลือแร่สารอาหารที่มนุษย์เราไม่สามารถตัดออกจากร่างกายได้ โซเดียมมีหน้าที่ควบคุมสมดุลของของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ อีกทั้งช่วยในการทำงาน ของประสาทและกล้ามเนื้อ ตลอดจนการดูดซึมสารอาหาร บางอย่างในไตและลำไส้เล็ก แต่ถ้าหากคุณรับประทานโซเดียมเข้าไปมากจนเกินไป พุงของคุณก็จะป่อง บวมน้ำ แถมโรคมาให้อีกเพียบ

161207-sodium-4

ตามหลักโภชนาการที่ถูกต้องตามองค์การอนามัยโลกได้ระบุไว้ คือวันหนึ่งเราสามารถรับประทานเกลือได้เพียง 6 กรัม ซึ่งมีปริมาณโซเดียมอยู่ 2,400 มิลลิกรัมเพียงเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่า ภายในอาหารต่างๆ ที่เรารับประทานกันอยู่เป็นประจำล้วนแฝงไปด้วยโซเดียม ( โดยเฉพาะหนุ่มออฟฟิศที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแปรรูป ,อาหารกึ่งสำเร็จรูป , อาหารแช่แข็ง  หรือแม้แต่ขนมปังที่มีโซเดียมจากผงฟูโซเดียมไบคาร์บอเนต )  ที่เราแทบจะไม่เคยรู้ตัว ทำให้บางทีเรารู้สึกกินอาหารเข้าไปก็ไม่ได้เยอะแยะมากมาย แต่ทำไมถึงน้ำหนักไม่ลด ร่างกายบวมๆ ตันๆ

161207-sodium-2

ที่น่ากลัวกว่าความอ้วนก็คือ ความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการกินอาหารคลีน คนเหล่านี้ไม่สามารถทานรสชาติอื่นได้ จึงทำคิดว่าการเติมรสเค็มลงไปในอาหารสักเล็กน้อยคงไม่เป็นอะไร แต่การกระทำเช่นนั้น จะทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ และจะยิ่งไปกระตุ้นต่อมความหิวทำให้คุณจะอยากอาหารเพิ่มขึ้นไปอีก นี้จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบางคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ แต่น้ำหนักยังคงรูปร่างเท่าเดิม

161207-sodium-3

และคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของโซเดียม ที่ทำให้มันเป็นสารอาหารที่ควรได้รับการควบคุมอย่างเร่งด่วนคือ โซเดียมมีหน้าที่เก็บกักน้ำส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีกับไตของคนเราสักเท่าไหร่ ที่เป็นสาเหตุของโรคไตวายเรื้อรัง ในขณะนี้ คนไทยมากกว่า 10% เป็นโรคนี้กันอยู่ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เผื่อใครยังไม่รู้ว่าโรคนี้เป็นแล้วรักษาไม่หาย แถมต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อประคองอาการไปตลอดชีวิต

161207-sodium-1

ทีมงาน UNLOCKMEN จึงอยากมาเตือนผู้อ่านทุกท่านว่าให้เราใส่ใจในเรื่องของโภชนาการอาหารกันให้มากขึ้น เวลาที่จะรับประทานอะไรดูฉลากที่ข้างบรรจุภัณฑ์อาหารให้ดีเสียก่อน เพราะสิ่งที่เรากินเข้าไปแม้ว่ามันจะไม่แสดงผลในวันนี้ แต่มันเป็นการเก็บสะสมไปเรื่อยๆ เหมือนการเป็นหนี้ธนาคาร หากวันหนึ่งหนี้ซึ่งเปรียบดังของเสียในร่างกายมีมากจนเกินไป คุณก็จะถูกยึดทอนทรัพย์สินที่เรียกอวัยะสำคัญภายในแบบไม่ได้กลับคืนมา ดังนั้นคำแนะนำของเราก็คือถ้าให้ดีที่สุดพยายามทำกับข้าวกินเองแบบนั้นเราจะควบคุมปริมาณสารอาหารทุกอย่างได้ และปลอดภัยที่สุด ที่สำคัญอย่าหมั่นเติมพริกน้ำปลา หรือน้ำปลาลงไปในกับข้าวจานโปรดของคุณมากจนเกินไป

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line