Life

HOW TO ENJOY LIFE ใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น แค่มองโลกด้านใหม่ให้ดีกว่าเดิม

By: PSYCAT April 22, 2019

ถามตัวเองว่ากี่เช้าแล้วที่เราลืมตาขึ้นมาเพื่อพบกับโลกใบเก่าและเผชิญการเดินทางบนถนนแสนทรมาน ไหนจะการทำงานสุดหนักหน่วงจนดูดเอาพลังงานทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกายไป และปิดท้ายวันอันเมื่อยล้าเกินทนด้วยการดื่มเพื่อลืมความทุกข์ตรมของชีวิต การพลิกมุมใหม่ในเรื่องเดิม ๆ จึงจะช่วยให้เรามีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น

เพราะ Urban Men อย่างเราล้วนแต่ใช้ชีวิตอยู่ในวงจรเก่าซ้ำเดิมไม่จบสิ้น เราใช้เวลาจำนวนมากของแต่ละวันหมดไปความซ้ำซากเพราะเราจมอยู่กับ “มุมมองเดิม ๆ” ในหัวของตัวเราเองเหมือนเดินหลงทางอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออก

จะดีกว่าไหมถ้าเราพลิกมุมมองด้านลบอันซ้ำซากจำเจที่เราเกลียดแสนเกลียด เพื่อพาตัวเองก้าวเข้าสู่ “มุมมองด้านบวกที่ทำให้ชีวิตสนุกกว่าเดิม” ด้วยการพลิกวิธีคิดใหม่เพื่อเดินทางได้เป็นสุขขึ้น ทำงานได้สุดขีดขึ้นและสนุกกับชีวิตแบบไม่มีข้อจำกัดได้มากขึ้น เพราะชีวิตเราย่อม เลือกได้ แค่พลิกวิธีคิดใหม่ๆ เพื่อใช้ชีวิตให้มีความสุขพุ่งทะยานสู่สิ่งที่แสนสดใส!

ไม่ต้องเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่: THOUGHT DISTORTION ตัวการร้ายแห่งความหน่ายเหนื่อย!

“ความเข้าใจ” คือกุญแจแรกสู่โลกแห่งความสดใหม่ที่เราฝันถึง เราคงไม่อาจสลัดต้นตอแห่งความคิดลบ ๆ ออกไปได้ ถ้าเราไม่รู้ที่มาของมันแล้วรีบถอนรากถอนโคนให้ถูกจุด และจุดสำคัญที่เราต้องข้องใจให้ไวเพราะมันคือตัวการร้ายที่ทำให้เราไม่สามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ก็คือ “THOUGHT DISTORTION”

เพราะจิตใจของเรานั้นฉลาดเกินกว่าที่เราคิด บ่อยครั้งมันจึงชี้นำ บิดเบือน และชักจูงให้เราหลงคิด หลงเชื่อกับสิ่งที่ไม่เป็นความจริงซึ่งเป็นที่มาของวิธีคิดลบ ๆ ซึ่งวนเวียนอยู่ในหัวเรานั่นเอง แต่ถ้าเรารู้เท่าทันมัน เมื่อนั้นไม่ว่าจิตใจเราจะพยายามบิดเบือนเข้าสู่ด้านลบแค่ไหน เราก็ไม่หวั่นกลัว

Black and white thinking: Black and white thinking ถือเป็น THOUGHT DISTORTION อย่างหนึ่งที่เรามักหลงคิดว่าบนโลกใบนี้มีแค่สองสี สองทางเลือก คือขาวกับดำ หรือดีสุดขั้วกับร้ายสุดโต่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่ง ๆ ขึ้นและมันไม่ได้ขาวใสสวยงาม เราก็มักจะหลอกตัวเองว่ามันต้องเป็นสีดำเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเฉดสีมีหลากหลายเกินกว่าแค่ขาวกับดำ แค่พลิกมุมใหม่ลองมองในอีกด้านแง่มุมสีอื่นๆอาจจะปรากฎและทำให้คุณรู้สึกดีกว่าสีที่คุณคิดว่ามันจะมีแต่สีดำก็ได้

Personalizing: คล้ายเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ความคิดในหัวเราจะสอนให้เราบิดเบือนทุกอย่างให้กลายเป็นปัญหาของเราเองไปเสียหมด ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องก็อาจไม่ใช่ปัญหาของเราด้วยซ้ำ นึกภาพง่าย ๆ ว่าถ้าวันหนึ่งเราเจอเพื่อนร่วมงานทำหน้าบึ้งใส่ แวบแรกที่ความคิดในหัวจะบิดเบือนคือเรามักจะคิดว่าเขาต้องไม่ชอบขี้หน้าเรา หรือเราคงไปทำอะไรให้เขาโกรธแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงมีสาเหตุเป็นล้านที่จะทำให้เพื่อนคนนั้นหน้าบึ้ง แทนที่จะเหนื่อยหน่ายกังวลกับการหน้าบึ้งของเพื่อนจนเราเสียสมาธิ เลิกคิดว่าคนคนนั้นโกรธเรา แต่เราลองพลิกมองมุมใหม่ในเรื่องเดียวกันนี้ว่า  เขาอาจเจออะไรที่ทำให้รู้สึกแย่มา ดังนั้นถ้าเราเข้าใจแล้วมองมุมอื่นเราก็จะสบายใจขึ้น หรือถ้าเรามีโอกาสเราอาจจะช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นในการพลิกมุมใหม่ในเรื่องที่เขาเจอปัญหาอย่างน้อยเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นไม่มากก็น้อย

Filter thinking: เมื่อหนึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรามีหลายสิบมุมมอง บางสถานการณ์มีหลายร้อยมุมมองแต่เราเลือกทำตัวเป็นฟิลเตอร์กรองมาแค่ด้านลบ ๆ ด้านแย่ ๆ ด้านร้าย ๆ ลองคิดใหม่ ใช้ตัวกรองความคิดแบบใหม่ พลิกมุมใหม่แล้วก้าวเข้าสู่โลกในแง่มุมบวกที่สนุกขึ้นที่เราจะได้เข้าใจว่าในหนึ่งสถานการณ์มันมีอีกหลายมุมมองที่เราไม่เห็นและไม่ได้มีแค่มุมแย่ ๆ อันน่าเหนื่อยหน่ายเท่านั้น

Catastrophizing: ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จิตใจด้านลบเก่า ๆ มักกระตุ้นเร้าให้เราคิดถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันล้วนมีความเป็นไปได้มากมายที่ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเสมอไป ขุดตัวเองออกมาจากเขาวงกตแห่งความคิดเก่า ๆ ไม่ต้องถึงกับเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่ แล้วมามองหาความเป็นไปได้อันชวนตื่นเต้นให้ชีวิตตั้งแต่วินาทีนี้!

 

ไม่ต้องเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่: ท้าทายชีวิตสู่ความคิดใหม่ เดินทางแบบไหนก็ไม่เฟล!

การเดินทางคือกิจกรรมที่กลืนเวลาจำนวนมากของชีวิตเราไป โดยเฉพาะการเดินทางในเมืองที่เราต้องฝ่าฟันความหนาแน่นไปในทุกเช้าและเย็น ถ้าเรายังวนเวียนอยู่กับโลกใบเก่า มุมมองแบบเดิม ๆ และหัวเสียกับการเดินทางในแต่ละวันไม่รู้จบ ทั้งโบกเท่าไหร่แท็กซี่ก็ไม่รับ หรือรถติดจะอะไรก็ติดขัด เราจะไม่มีวันได้เห็นโลกที่เอนจอยขึ้นแน่นอน

ท้าทายตัวเองให้หลุดจาก THOUGHT DISTORTION และการทำสิ่งเดิม ๆ แล้วก้าวสู่การพลิกมุมใหม่ ให้โลกของคุณสดใสไปด้วยกัน

เพราะนอกจากการจราจรที่ติดขัดแล้ว หลายครั้งที่ปัญหาบนท้องถนนชวนให้เราหัวร้อน เช่น โดนปาดหน้า โดนแซง โดนเบียด การหยุดกระบวนการ Personalizing คิดว่าเพราะรถคันนั้นต้องการหาเรื่องเรา มาแซงกลับเพราะเราแซงเขามา ความคิดแบบนี้มีแต่จะทำให้เราพังและโมโหกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในวันนั้น

การพลิกมุมใหม่มองในเรื่องนี้ เพียงบอกตัวเองให้ได้ว่าท้องถนนคือพื้นที่ของทุกคน อย่าเก็บเอาความวุ่นวายบนท้องถนนมาเก็บไว้กับตัวเองนานเกินไป เขาแซงเราไป ไม่กี่นาทีเขาก็ลืมแล้ว มีแต่เราที่ขุ่นมัวโดยไม่มีใครรู้ เขาไม่ได้ทำร้ายเรา แต่เรานั่นแหละที่กำลังทำร้ายตัวเอง การพลิกมุมใหม่กับการที่เค้าแซงเรา เพราะเขาอาจเห็นรถเราสวยแล้วอยากแซงมาดูรถเรา หรือมาดูหน้าเราที่ตกแต่งรถได้สวยงาม อย่างน้อยแง่มุมใหม่นี้มันก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสันขึ้น ไม่ตรึงเครียดกับเรื่องบนท้องถนน แล้วเราจะรู้ว่าโลกใบใหม่ที่เราเลือกมองมันกว้างใหญ่เกินกว่าท้องถนนแคบ ๆ ที่เราต้องเจอทุกวันหลายต่อหลายเท่า

 

ไม่ต้องเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่: งานยิ่งมากก็ยิ่งท้าทาย ทำงานให้สุดขีดไว้ยังไงก็เท่!

งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน ในโลกที่เราต้องหาเงินเพื่อดำรงชีวิต นอกจากงานจะช่วยให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราอยากใช้แล้ว งานยังทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเอง งานที่เราทำทำให้เราได้พิสูจน์ตัวเองและรู้ว่าเราไปได้ไกลแค่ไหน แถมคนใกล้ตัวเรายังต้องมีแอบชื่นชมในงานที่เราทำด้วยก็เป็นได้

แต่ THOUGHT DISTORTION และมุมมองเดิม ๆ อาจทำให้เรากดดัน หดหู่ และเหนื่อยหน่ายกับการทำงานจนไม่ทันได้พลิกมุมใหม่ที่ว่าเพราะงานนี่แหละที่ทำให้โลกสดใหม่ขึ้นกว่าที่เคย

ยิ่งหัวหน้าให้งานกับเรามากเท่าไหร่ เรายิ่งต้องท้าทายตัวเองมากเท่านั้น จากที่เคยคิดว่าทำไมมันต้องมาลงที่เราคนเดียววะ ? เราเลือกพาตัวเองก้าวเข้าสู่โลกใบใหญ่ขึ้นที่จะพาเราเติบโตขึ้นได้ เพราะมีงานวิจัยที่ยืนยันแล้วว่าการที่หัวหน้างานมอบหมายงานให้ใครเป็นพิเศษนั่นเป็นเพราะหัวหน้างานนั้น “เชื่อมั่น” ในตัวคนนั้น หรือ “เพราะคุณ..คือคนโปรดของเขานั่นเอง”

งานหนักหรืองานพิเศษสำหรับเรา จึงไม่ได้หมายถึงความเหนื่อยแบบเดิม ๆ ความล้าแบบเก่า ๆ แต่หมายถึงความเชื่อมั่นที่องค์กรมีให้เราอย่างเต็มเปี่ยม ในเมื่อองค์กรให้ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมขนาดนี้ แล้วเราจะมัวรีรอจมอยู่ทำไม ?

เพื่อนร่วมงานที่ดูกี่ทีก็เหมือนไม่พอใจเราอยู่คนเดียว แค่พลิกมุมใหม่แท้จริงแล้วเขาเองก็อาจมีปัญหาส่วนตัวที่ไม่อาจแก้ด้วยตัวเองได้ แทนที่จะมัวเหี่ยวเฉากับอารมณ์ขุ่นมัวของเขา มุมมองใหม่ของเรานอกจากเยียวยาตัวเรายังอาจช่วยเยียวยาเพื่อนร่วมงานได้อีก

 

ไม่ต้องเปลี่ยนโลกแค่พลิกมุมใหม่! จงลุกขึ้นมาเชื่อมั่นกับศักยภาพที่พลุ่งพล่านในตัวเอง กระโจนเข้าสู่โอกาสที่ได้รับ มองมันในฐานะความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ไกลกว่าเดิม

 

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line