หักห้ามใจเสียบ้าง แบ่งยาแรงวิธีเรียกวิญญาณคืนจากโซเชียลได้แบบไม่ฟูมฟาย

หมู่นี้หายใจไปขยับนิ้วปัดจอแทบตลอดเวลา สังเกตตัวเองอีกทีตั้งแต่ตื่นลืมตา อาบน้ำ กินข้าว เข้าห้องน้ำ ทำงาน เราก็พกมือถือไปด้วยตลอด กระทั่งตอนนอนยังยอมรับตรง ๆ ว่าปิดไฟทั่วห้องแล้วแต่ตาก็ยังมองมือถือจนฟ้าสว่างก็เคย

“เรากำลังติดโซเชียลหรือเปล่า ?”

ไลฟ์สไตล์มันบังคับให้ติดว่ะ…แล้วมันก็ไม่ได้เสียหายสักหน่อย ถ้ากำลังคิดอย่างนั้น เราอยาก challenge ให้ชาว UNLOCKMEN วางมือถือลง ไม่เปิดคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปสักพัก ตอนนี้แหละที่จะเริ่มเกิดอาการลงแดง ร้อนรนไปพร้อมกับการรู้จักคำว่า “มีเวลาเหลือ ๆ” ทันที มากพอจะทำอะไรที่เราไม่เคยทำ ออกกำลังกาย เที่ยว สังสรรค์กับเพื่อน นอนหลับ ให้มันสุดใน 24 ชม. ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้มันจะทำให้ชีวิตดีขึ้นและเรียลกว่าที่เคย สำหรับคนที่ไม่เคยตั้งคำถามว่าไอ้ที่ทำกันอยู่ตรงนี้มันไม่เรียลตรงไหน ลองดู “I forgot my phone” ไวรัลคลิปยอดวิว 51 ล้านวิว ชิ้นนี้ก่อนได้ สร้างมาตั้งแต่ 2013 แต่ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่เลย

แต่ถ้าให้หักดิบเลยก็ออกจะยากไปหน่อย UNLOCKMEN ขอแนะวิธีกระชากวิญญาณจากหน้าจอได้แบบไม่ฟูมฟายด้านล่าง พร้อมแล้วไปลุยกันเลย

เปลี่ยนกรอบให้ตอบโจทย์

“เรื่องบันเทิงมันอยู่ในโซเชียล ถ้าพี่ไม่ให้ผมเข้าไปดูในนั้นผมจะไปสนุกที่ไหนได้ ?”

เรากำลังชินกับภาพแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าสำหรับคน GEN Z อาจจะโตมาพร้อมโซเชียลเลย แต่ GEN อื่นที่เขาโตมากับการนั่งเล่นด้วยกัน กินข้าวด้วยกันมันก็มี และความเป็นจริงคือเราชาว UNLOCKMEN ทุก GEN ไม่จำเป็นต้องให้โซเชียลจูงความสุขของเราไปตลอด เพื่อใช้ชีวิตแบบสมาร์ท ลับคมใหม่ให้เด็ดทั้งเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพ และงานอดิเรกที่ต้องการ เราเปลี่ยนความคิดได้

“ผมไม่จำเป็นต้องบันเทิงในโซเชียลหรอก ไปลองของจริงเลย!”

เอาเวลาไปแลกเงินให้ชาวบ้าน​ ? เราต้องการจริงหรอ ?

เชื่อไหมเราชอบคิดว่าเราได้ของฟรีจาก internet จาก Social แต่เราลืมคิดว่าแอป ฯ ที่ใช้ฟรี หรือข่าวที่เราอ่านแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร เลยเป็นเรื่องหวานหมูของนักพัฒนาแอป ฯ หรือพวก free information ทั้งหลายที่จะเข้าถึงเราแล้วเอาเวลาที่เรามีไปขายโฆษณา

เราต้องการแบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า ? ถ้ามีสิ่งที่อยากทำอยู่พุ่งไปทำเหอะ อย่าเอาเวลาของเราไปสร้างเม็ดเงินให้เขาเลย เบาสมองกับสายตากันเสียบ้าง

ตั้งเป้าให้ทำให้ได้ หลอกล่อตัวเองให้เป็น

2 ข้อผ่านไป ทำให้วางได้แค่ 10 นาที หนังสือที่ซื้อมาจากงานหนังสือยังไงก็อ่านไม่จบอยู่ดี วิ่งก็ยังไม่วิ่ง ถ้าคุณเป็นอย่างนี้วิธีช่วยให้รอดคือการ trap ตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ปิดแจ้งเตือนมือถือ (ไม่เอาแบบสั่น เพราะสั่นทีไรก็ยังต้องมอง) ชาร์ตสมาร์ทโฟนไกล ๆ ตา อย่าเอาไว้ในห้องนอนได้เลยยิ่งดี แล้วแทนที่ด้วยการวางหนังสือ หรือจดบันทึกสิ่งที่ัคั่งค้างไว้กระตุ้นให้เราอยากทำมากกว่า

เรื่องจริงคือเมื่อไหร่ที่คุณไม่ไปนั่งเฝ้าสังเกตมัน หรือเอามันไปไว้พ้น ๆ ตา เหมือนเวลาอกหักจากสาว ๆ แล้วเห็นของที่เธอเคยให้ มันจะช่วยเฟดความรู้สึกได้ วิธีนี้เรียกว่ากึ่งหักดิบ แนะนำว่าให้ใช้เวลาไปไหนเสาร์ – อาทิตย์ หรือวันหยุดที่คิดว่าจะไม่มีใครตามตัว พอทำไปบ่อย ๆ จะเริ่มชินไปเอง

แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถทำได้อย่างนี้ตลอดเวลาเพราะเจ้านายหรือแฟนชอบตามตัว กลัวว่าจะพลาด เรายกเว้นให้ก็ได้ อนุโลมเพราะมันสำคัญคอขาดบาดตายจริง ๆ

LOCK SCREEN ช่วยชีวิต

ตะเกียดตะกายสุดชีวิตไม่เลิก เรียกได้ว่าเข้าข่ายอาการซอมบี้เข้าสิงให้พุ่งเข้าหามือถือ งั้นต้องสะกดอาการด้วยการตั้ง LOCK SCREEN ตอกฝาโลง เขียนเตือนตัวเองไว้

Credit Photos: phonebreakup.com

แต่ถ้ามันยังใช้การไม่ได้ ปลดล็อกเข้าไปจนได้ จัดให้สนุกกว่านั้นด้วยการใช้แอปฯ เตือน บล๊อก หรือเปลี่ยนมิติการเล่นให้เป็นเกมไว้ challenge กับเพื่อนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้มากขึ้นได้จากแอป​ ฯ เหล่านี้

• แอปฯ เตือนเวลาว่าใช้หน้าจอนานเท่าไรแล้ว :Moment, Quality Time  และ (OFFTIME)
• แอปฯ บล๊อกไม่ให้เข้า :Freedom และ Flipd
• แอปฯ แข่งกับเพื่อนใครอึดกว่า offline นานกว่า : Flipd

คุมตัวเองผ่านคนอื่น

ซูฮกให้วิธีนี้ที่เรียกได้ว่าใช้ความเผือกเตือนตัวเองหน่อย โดยตั้งกติกาไว้ว่าเมื่อไหร่เห็นคนหยิบมือถือเราต้องหยุดทันทีแล้วสูดหายใจให้ลึก ผ่อนคลายความตึงของตัวเองจากการใช้จอ วิธีนี้นิ้วไม่ล็อกแน่ ออฟฟิศซินโดรมก็ไม่ถามหา เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก้มหน้าจับมือถือกันทั้งนั้นแหละ

กลับมาปิดท้ายว่าเราจะได้อะไรจากการทำแบบนี้ ? ถ้าไม่เน้นเรื่องความมันส์ของกิจกรรมที่มันอาจจะไม่ช่วยตรงไหนเพราะคุณเป็นชาว UNLOCKMEN สาย geek ที่ชอบเรื่องโลกดิจิทัลจริง ๆ ก็คิดเสียว่าอยากให้คุณรักษาสุขภาพไว้ดูมันได้ยาว ๆ ถนอมร่างกายจากการเป็นโรคแปลกๆ อย่าง Sadbook, Sleephone, โรควุ้นในตาเสื่อม,  Nomophonebia และ Smartphone Face แล้วกันนะ

ถ้าอยากเช็กตัวเองว่าใกล้เป็นโรคพวกนี้หรือยังก็เข้าไปดูได้ที่นี่

SOURCE1    SOURCE2