Life

WAKE UP BEFORE THE SUN: ข้อดีของการตื่นแต่เช้า และวิธีงัดตัวเองออกจากเตียงให้เร็วขึ้น

By: PEERAWIT August 22, 2018

“การนอนหลับ” คือหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติ แต่ด้วยภาระหน้าที่และชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน ทำให้พวกเรามีเวลาพักผ่อนมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนได้นอนยาวจนเพียงพอ บางคนต้องปะติดปะต่อให้เต็มอิ่ม บางคนนอนหัวค่ำ บ้างก็นอนเช้า ไม่ก็อดนอนบ้างในบางวัน ซึ่งมันไม่มีผิดมีถูกอะไร เพราะเงื่อนไขคนเราย่อมไม่เหมือนกัน

แม้ว่าเวลาการนอนของหนุ่ม ๆ อย่างเราจะเป็นเรื่องปัจเจก แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่บริหารชีวิตประจำวันของตัวเองให้สามารถเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม แถมตื่นแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นเสียอีก แค่คิดก็รู้สึกง่วงแล้ว เราเองคงงัดตัวเองออกจากที่นอนตอนเช้าขนาดนั้นไม่ได้แน่ ๆ  ขอชื่นชมอยู่ห่าง ๆ ดีกว่า (ฮา)  แต่พอมานอนนึกดูดี ๆ ข้อดีของการตื่นแต่ไก่โห่มันก็มีหลายอย่างนะ ลองดูสักตั้งดีมั้ย ปรับเวลานอนของตัวเองให้เร็วขึ้น แล้วมาตื่นก่อนหรือพร้อม ๆ กับดวงอาทิตย์ แล้วเริ่มชีวิตตั้งแต่เช้ากันดีกว่า น่าจะมีอะไรดี ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้ไม่มากก็น้อย

 

ประโยชน์ของการตื่นนอนแต่เช้า

เพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน

โลกของเราในเวลา 6 โมงเช้ามันช่างเงียบสงบ คนรอบข้างและสังคมส่วนใหญ่ยังไม่มีใครตื่น ห้างร้าน บริษัท สถานที่ราชการต่าง ๆ ก็ยังไม่เปิด เพราะฉะนั้นเวลานี้คือเวลาดีที่เราจะเริ่มต้นวันใหม่ เวลาดี ๆ เช่นนี้เหมาะกับการวางแผนการใช้เวลาในวันนี้ จัดการงานเล็กงานน้อย เคลียร์งานนอกเพื่อไม่ให้กระทบกับงานหลัก เริ่มไล่เช็กอีเมล หรือออกกำลังกายก็ดี แค่เซ็ตอัพตัวเองแบบนี้ก็มีส่วนช่วยให้การทำงานในแต่ละวันมีประสิทธิผลที่ดีขึ้น ด้วยไทม์ไลน์ที่ลงตัวกว่าเดิม

กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

นักเขียน และศิลปินหลายคนพบว่า ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาจะพรั่งพรูมากเป็นพิเศษในตอนเช้าหลังจากนอนมาเต็มอิ่ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราจะรู้สึกสดชื่นที่สุด การครีเอทในตอนเช้ามักจะไหลลื่นกว่าช่วงเวลาอื่น สำหรับใครที่ต้องทำงานถึงดึกดื่น พอเที่ยงคืนปุ๊ปลองปิดคอมพ์ปั๊ป แล้วนอนเลย หกโมงตื่นมายืดเส้นยืดสายแล้วลองเปิดงานมาดูต่อ แล้วจะรู้ว่าเราสามารถปรับแก้งานให้สมบูรณ์ขึ้นในช่วงเวลาที่หัวโล่งเช่นนี้

ลดความเครียด

ประโยชน์ของการตื่นแต่เช้ากับเรื่องงานแบ่งได้เป็นสองทาง ทางแรกคือ พอเราตื่นเช้าขึ้น เราก็จะมีเวลาทำงานมากขึ้น เสร็จเร็วขึ้น มีเวลาส่วนตัว และเวลาพักผ่อนมากขึ้น ความเครียดก็ลดลง ส่วนอีกทางก็คือการตื่นแต่เช้าเพื่อทำสมาธิก่อนเริ่มต้นทำอย่างอื่น อาจเป็นการผ่อนคลายความคิดก่อนจะเริ่มงาน เวลาเช้าอันมีค่านี้สามารถสร้างคุณค่าทางจิตใจให้กับเราได้ แถมยังเป็นการบูสต์จิตวิญญาณเพื่อต่อกรกับวันที่แสนวุ่นวายได้อีกด้วย

เพิ่มความฟิต

ถ้าคุณรู้สึกว่าร่างกายของคุณมันช่างอ่อนแรง ต้องการสร้างความฟิต แต่ดูเหมือนว่าเวลาไม่เป็นใจ ไม่ก็รู้สึกไร้แรงจูงใจในการเข้ายิมหลังจากลุยงานมาทั้งวัน แบบนี้การตื่นเช้าขึ้นสักหนึ่งชั่วโมงน่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ซึ่งข้อดีของการออกกำลังกายยามเช้าก็คือทำให้คุณสดชื่น กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ให้คุณพร้อมรบตลอดวัน ถ้าทำได้ก็จะรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นด้วย สำหรับโปรแกรมการออกกำลังกายในตอนเช้าสามารถคลิกดูตัวอย่างได้ที่คอนเทนต์นี้

 

วิธีเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนุ่มที่ตื่นเช้า

นอนให้เร็วขึ้น

ฟังดูกำปั้นทุบดิน แต่มันเป็นสิ่งแรกที่เราต้องปรับอยู่แล้วหากต้องการตื่นให้เช้าขึ้น อย่างที่ทราบกันดีว่าการนอนหลับที่เพียงพอในแต่ละวันนั้นอยู่ที่ราว ๆ 6-8 ชั่วโมง หรือ 4 ไซเคิล (ไซเคิลละ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เพราะฉะนั้น หากต้องการตื่นเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง ก็ควรนอนเร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง (เผื่อเวลาข่มตาหลับสัก 15 นาที) ถ้ารู้สึกชินกับการนอนดึกดื่น ลองปรับด้วยการเตรียมเข้านอนตามเวลาใหม่ แล้วหยิบหนังสือสักเล่มมาอ่านจนรู้สึกง่วง แล้วปิดไฟนอนเลย การปรับเวลานอนนั้นไม่ง่าย เพราะต้องปรับทั้งร่างกายและจิตใจ ค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวมันก็จะได้อย่างใจเอง

ค่อยเป็นค่อยไป

สมมติว่าปกติคุณตื่นนอนตอน 7:45 น. มาตลอด อย่าไปหักดิบเริ่มวันใหม่ด้วยการตื่นตีสี่ครึ่ง เพราะมันจะทำให้ร่างกายเรารวนไปหมด ค่อยเป็นค่อยไปเวิร์กกว่าเยอะ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะตื่นตอนตีห้าให้ได้ ก็ลองลดเวลาลงวันละ 15 นาที จนกว่าจะถึงวันที่เวลาตื่นมันมาบรรจบกับเป้าหมายพอดี ถ้าใจเย็นพอ ค่อย ๆ ลดวันละ 5 นาทีก็ได้ น่าจะชิลล์กว่า

เอานาฬิกาปลุกไปไว้ห่าง ๆ

ถ้านาฬิกาปลุกมันใกล้มือ สะดวกเหลือเกินที่ควบคุมมัน โอกาสที่เราจะไปกดปุ่ม snooze แล้วนอนต่อ วน loop แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ย่อมมีสูง เพราะฉะนั้น เอานาฬิกาปลุกไปไว้ไกล ๆ เตียงเลย วางไว้ตรงที่คุณต้องลุกแล้วเดินไปปิดเท่านั้น ให้มันเป็นการต้องตื่นแบบไฟต์บังคับสุด ๆ

หากิจกรรมที่น่าสนใจทำในตอนเช้า

ถ้ารู้สึกว่าการตื่นเช้าขึ้นแล้วไม่มีอะไรทำมันช่างสูญเปล่า ก็ให้หากิจกรรมที่รู้สึกว่าพลาดไม่ได้มาช่วยสร้างแรงจูงใจ ที่มันนอกเหนือจากการเคลียร์งานค้าง เช็กเมล วางแผนประจำวัน หรือทำสมาธิก็ได้ เช่นการออกกำลังกายอย่างที่เราแนะนำไป ไม่ก็ดื่มด่ำกับกาแฟในความรู้สึกแบบ slow life จัดและทำความสะอาดห้องก็ได้ อะไรก็ตามที่ทำแล้วรู้สึกดีก็จัดเป็นกิจวัตรไปเลยในช่วงเวลาแบบนี้ จะได้มีแรงจูงใจตื่นเช้าทุกวัน

อาบน้ำเย็น

ถ้าตื่นมาแล้วยังรู้สึกหาวค้างอยู่ แนะนำให้ล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวด อาบน้ำ ด้วยน้ำเย็นให้สะใจ จะได้กระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นตาตื่นกันไปเลย แต่ไม่ต้องถึงขนาดเอาน้ำเย็นในตู้เย็น หรือเทน้ำแข็งลงอ่างอาบน้ำแล้วลงไปแช่ขนาดนั้นนะ เดี๋ยวไข้จะมาปลุกให้ตื่นตอนดึก ๆ  ใช้น้ำอุณหภูมิปกติโดยไม่ผ่านเครื่องทำน้ำอุ่นก็ถือว่าโอเคแล้ว ช่วงหน้าหนาวก็อาจจะสดชื่นมากหน่อย

ให้อาหารเช้าปลุก

การรู้ว่าตื่นมาแล้วจะเจอกับอาหารเช้าที่โคตรอร่อย ก็เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดเราให้ลุกจากเตียง ไม่ว่าจะเตรียมเอง ช่วยกันเตรียมกับคนรัก หรือมีแม่ศรีเรือนมาโชว์เสน่ห์ปลายจวักก็ได้ทั้งนั้น เรียกได้ว่าได้ทั้งการตื่นเช้า ได้ทั้งความอร่อย และคุณค่าของอาหารมื้อที่สำคัญสุดของวัน

ระเบียบวินัยต้องเข้ม

การนอนให้เร็วตื่นให้เช้าเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ต้องการระเบียบวินัยสูง การปรับเปลี่ยนจากคนขี้ให้กลายเป็นคนตื่นเช้าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย พยายามเอาชนะตัวเองให้ได้ มันก็เหมือนกับทุกสิ่งดี ๆ ในโลกนี่แหละ มันไม่ได้ได้มาง่าย ๆ แต่หากทำได้แล้วมันจะโคตรดี อย่าแค่ลอง ให้ลุยเลยทันที พรุ่งนี้ไม่สาย ถ้าเราตื่นทัน (ทาทา ยัง ไม่ได้ร้องไว้)

 

แล้วถ้าปกติเป็นคนนอนกลางคืนล่ะ ?

สำหรับบางคนที่ชีวิตประจำวันไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  การนอนดึกตื่นสายก็หมายได้หมายความว่าคุณเป็นคนขี้เกียจ บางคนชอบที่จะใช้เวลาส่วนตัวถึงตีสี่ค่อยนอน แล้วตื่นมาตอนเที่ยง ๆ โดยไม่เสียการเสียงานก็ไม่ผิด เพียงแต่ว่าต้องนอนหลับให้เพียงพอ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป หลายคนก็ไม่ได้เข้างานตอนเก้าโมงเช้า เลิกห้าโมงเย็นแบบชาวออฟฟิศปกติ แต่ก็อยากให้ลองปรับเวลามาตื่นเช้าดู เผื่อจะได้คำตอบว่าเวลานอนแบบไหนที่จะทำให้เราได้พัฒนาตัวเองได้ดีกว่า ถือเป็นการทดลองที่ไม่ได้เสียหายอะไร

แดดอ่อน ๆ กับลมเย็น ๆ ในตอนเช้านั้นไม่เคยกดดันใคร ลองค่อย ๆ ปรับนาฬิกาชีวิตของตัวเองดู หาจุดที่เหมาะสมที่สุดกับตัวเรา ใครที่ตื่นสายเป็นประจำลองตื่นแต่เช้าสักวันดูให้ได้ แล้วจะรู้ว่าเสน่ห์ของยามเช้านั้นมีมากมาย เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มใหม่ เสมือนความหวังที่กลับมาสู่เราอีกครั้ง และบรรยากาศของมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตยังมีโอกาสเสมอ…

…พรุ่งนี้เช้าเจอกัน

SOURCE

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line