Business

INTERIOR DESIGN เทรนด์การออกแบบร้านอาหารที่สำคัญในโลกหลัง CORONAVIRUS

By: Chaipohn May 15, 2020

โลกมนุษย์คือการเรียนรู้และปรับตัว นอกจากวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal จะทำให้คนเคยชินกับการเว้นระยะห่าง การใส่หน้ากาก การล้างมือ และการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสู่ที่สาธารณะแล้ว เรายังจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในด้านการออกแบบ Interior Design ของร้านค้าหรือร้านอาหาร ที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยลูกค้า และทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยทั้งในแง่ความรู้สึกและการสัมผัส เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าแบบ New Normal ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวจาก Coronavirus

ถ้าวันนี้คุณกำลังทำธุรกิจร้านอาหาร หรือมีแผนว่าจะเปิดร้านอาหารเพื่อรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวในอนาคต จากเดิมที่ร้านสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย จะการันตีความสำเร็จของร้านอาหารได้ แต่อนาคตมันจะไม่เพียงพออีกต่อไป และนี่คือเทรนด์การออกแบบ Interior Design เกี่ยวกับ Layout, Spacing และ Experience ในโลกหลัง Coronavirus ที่คุณต้องรู้เอาไว้

 

การมีระยะห่าง เป็นสิ่งที่จะสร้างความสบายใจในการใช้บริการให้ลูกค้า ปัจจุบันร้านอาหารที่เปิดให้บริการในช่วงใกล้ปลด Lockdown อาจจะทราบดีว่าการใช้ Layout จัดวางโต๊ะแบบเดิม ๆ ที่ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 – 2 เมตร ตามมาตรการควบคุมนั้นเป็นการเสียพื้นที่มากเกินไป นั่นเพราะการออกแบบตั้งแต่แรกมีจุดประสงค์เพื่อเน้นจำนวนคนต่อพื้นที่เพื่อให้เกิดรายได้มากที่สุด ดังนั้นร้านอาหาร (รวมถึงร้านค้า) ควรจะหันมาปรับการจัดวาง Layout ของร้านใหม่ให้เหมาะกับยุคหลัง Coronavirus เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ได้เต็มพื้นที่กว่าที่เป็นอยู่

ร้านอาหารควรจะหันมาลงทุนกับงานตกแต่งดีไซน์ที่โดดเด่นน่าสนใจ เพื่อลดช่องว่างพื้นที่ภายในร้านให้คนไม่รู้สึกเงียบเหงาห่างไกลกันเกินไปจนเสียบรรยากาศ งานดีไซน์ผ่าน panel ที่มีลวดลายสวยงามกั้นระหว่าง patition เช่น วัสดุเช่นกระจกที่มีงานศิลปะอยู่ด้านใน จะช่วยให้คนรู้สึกผ่อนคลาย มีความโปร่งโล่ง พร้อมสร้างจุดเด่นดึงดูดลูกค้าให้รู้สึกประทับใจ

นอกจากนี้ร้านอาหารยังควรจะเริ่มแบ่ง layout โซนต่าง ๆ ให้เป็นสัดส่วนชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการหลาย ๆ operation พร้อมกันภายใต้ความปลอดภัย เช่นพื้นที่นั่งรอสำหรับลูกค้าจากเดิมที่เป็นเพียงเก้าอี้วางเรียงกันบริเวณหน้าทางเข้า จึงอาจต้องหันมาใช้ระบบบริหาร traffic ลูกค้ามากขึ้น (Circulation) เช่น นัดล่วงหน้าในช่วง Peak time หรือแจ้งเตือนก่อนถึงคิวล่วงหน้า 5-10 นาทีผ่านข้อความ หรือ application เพื่อลดความแออัดบริเวณทางเข้า รวมถึงการคำนึงถึงพื้นที่สำหรับรองรับ Delivery ซึ่งได้กลายเป็นพฤติกรรมการทานอาหารที่หลายคนคุ้นเคย และเลือกหลีกหนีความแออัดหลัง Coronavirus อีกด้วย

และสุดท้าย คือการปรับ Layout ให้มี direction ชัดเจน เพื่อลดความสับสนในการเดินเข้าออก เพื่อจำกัดพื้นที่ระยะห่างที่ปลอดภัยกับลูกค้าและพนักงานในร้าน ก็เป็นอีกปัจจัยที่หลายร้านในฝั่งยุโรปเริ่มปรับใช้กันด้วย

 

จากผลวิจัยมากมายที่บอกว่าไวรัส SARS-CoV-2 ต้นเหตุของโรค COVID-19 สามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวบางชนิดได้นานแตกต่างกันไป บางพื้นผิวสามารถอยู่ได้นานถึง 3 วันบนพื้นผิวอย่างพลาสติกหรือเหล็ก ทำให้ร้านอาหารที่มีการสัมผัสอาจต้องคำนึงถึงวัสดุพื้นผิวที่สามารถทำลายหรือยับยั้งจุลชีพเช่น ไวรัส แบคทีเรีย อย่างเช่น ทองแดง ซึ่งผ่านการพิสูจน์ว่าเป็นวัสดุที่ไวรัสมีอายุอยู่สั้นที่สุดเพียง 4 ชั่วโมง ซึ่งในต่างประเทศมีการพูดถึงวัตถุดิบทองแดงเพื่อจะนำมาใช้ในจุดที่มีการสัมผัสมากตาม Public area ต่าง ๆ มากขึ้น ในขณที่ส่วนตกแต่งที่ไม่เสี่ยงต่อการสัมผัส สามารถใช้วัตถุดิบแบบไหนก็ได้เหมือนเดิม

© Christophe Gernigon Studio

ตัวอย่างล่าสุดที่กำลังได้รับความสนใจคือผลงานการออกแบบ Plex’Eat ของ Christophe Gernigon นักออกแบบด้านการตกแต่งภายในชาวฝรั่งเศส ที่มองว่าการใช้แผ่นพลาสติกคั่นระหว่างลูกค้าในร้านดูไม่ดี และยังเป็นพื้นผิวที่สะสมไวรัสอย่างมาก จึงดีไซน์แผ่นกระจกใสทำจากโพลิเมอร์ มีขนาดใหญ่ออกแบบเป็นที่ครอบศีรษะห้อยลงมาจากเพดาน ซึ่งช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส สามารถออกท่าทางได้สะดวกกว่า แม้จะยังเป็นเพียงคอนเซปต์อยู่ในขณะนี้ แต่ก็ทำให้เราเห็นภาพที่อาจจะเกิดขึ้นในการปรับใช้วัสดุและดีไซน์ในยุคหลัง Coronavirus ได้ชัดเจนขึ้น

 

การออกแบบที่เน้นความโปร่งใส เป็นปัจจัยที่สร้างความรู้สึกมั่นใจที่สำคัญให้กับลูกค้าในร้าน เพราะโลกหลังไวรัสที่ติดต่อกันได้ง่าย พวกเราย่อมอยากรู้ว่าอาหารที่ถูกปรุงก่อนจะมาถึงเรานั้นผ่านขั้นตอนที่สะอาด พ่อครัวที่มีอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน ดังนั้นครัวจะถูกปรับให้เป็น Open Kitchen รวมถึงตู้เก็บเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบให้โปร่งใส อุปกรณ์ทุกอย่างที่ผ่านการสัมผัสจากลูกค้าคนอื่น ตั้งแต่เมนูไปจนถึงช้อนส้อม ขวดเครื่องปรุง จะต้องมีขั้นตอนการทำความสะอาดที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ในทุกกระบวนการ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาที่ท้าทายมากกว่าสำหรับร้านอาหารกลุ่ม Buffet ที่มีการสัมผัสจากคนจำนวนมาก

 

ในอนาคต Interior Design จะไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันหมายถึงการ Maximize ฟังก์ชันพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ ซึ่งทุกรายละเอียดล้วนเป็นหัวใจสำคัญ ไม่ใช่แค่สำหรับร้านอาหารเท่านั้น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ออฟฟิศ ล้วนต้องเตรียมตัวสำหรับการออกแบบตกแต่งภายในใหม่ เพราะผู้คนจะยังคงใช้ชีวิตแบบระมัดระวังแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line