Business

เปิดบ้านนักธุรกิจมาดศิลปิน “เบิร์น ชาญฉลาด” ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องเขียน Grey Ray

By: unlockmen October 1, 2015

คุณคิดว่าศักยภาพของตัวเองมีมากน้อยแค่ไหน ทักษะที่คุณได้เรียนรู้ในชีวิตที่ผ่านๆ มา มีมากพอหรือยัง เคยนั่งคิดกันเล่นๆ ไหมว่า ศักยภาพบางอย่างที่เรามีนั้นมันสามารถต่อยอดไปได้อีกไกลสักแค่ไหน แล้วมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่เคยปลดล็อคหรือเปล่า บางครั้งก็คิดไปว่าตนเองนั้นไม่มีความสามารถเพียงพอ ทั้งที่ยังไม่เคยแม้แต่จะได้ลองทำสิ่งเหล่านั้นเลยสักครั้ง หากคุณไม่ได้ลองทำแล้วจะตัดสินได้อย่างไรว่าตนเองไม่มีศักยภาพ UNLOCKMEN มีความเชื่อว่าถ้าคุณได้ลองปลดล็อคมันออกทีละจุด ทีละจุด คุณอาจค้นพบความสามารถที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อ

และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ลองผิดลองถูก ชอบลงมือทำ ปลดล็อคศักยภาพของตัวเองเสมอมา คุณก็คงไม่ต่างกับชายคนนี้ “เบิร์น – ชาญฉลาด กาญจนวงศ์” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศิลปะ artHouse และแบรนด์ Grey Ray เครื่องเขียนสัญชาติไทย 100 % จากคนที่อ้างว่าตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลย ไม่มีความรู้เรื่องการตลาด แต่คิดจะก่อตั้ง และทำธุรกิจเป็นของตนเองด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าอยากทำก็ทำเลย! เขาคือนักธุรกิจในมาดของศิลปิน ที่สามารถบริหารจัดการสิ่งต่างๆ รอบตัวได้เป็นอย่างดี อะไรกันที่ทำให้ชายคนนี้สามารถมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ อะไรที่เป็นปัจจัยให้คนที่ไม่เคยลองทำ ตัดสินใจทำมันได้อย่างแน่วแน่ บทสัมภาษณ์สุดพิเศษของคุณเบิร์น และ UNLOCKMEN ในวันนี้อาจเปลี่ยนความคิดบางอย่างในหัวของคุณ จนทำให้คุณอยากมีก้าวแรกของตนเองในเรื่องที่ไม่เคยลองก็เป็นไปได้

151001-burne-1

ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่บ้าง ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย

เราเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ artHouse มาสิบกว่าปีแล้ว แล้วช่วงประมาณสามสี่ปีที่แล้วก็เริ่มมาทำแบรนด์เครื่องเขียนชื่อว่า Grey Ray (เกเร) หลักๆ ก็จะดูสองอย่างนี้ครับ

ก่อนที่จะมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณทำอะไรมาบ้าง แล้วอะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากมีธุรกิจของตัวเอง

เราจบอินทีเรียมาจากศิลปากร จากนั้นก็ทำงานด้านอินทีเรียอยู่สักพักหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจทำโรงเรียนเลย เพราะอยากทำโรงเรียน โรงเรียนเป็นเหมือนความใฝ่ฝัน เราเปิดโรงเรียนตอนอายุ 25 แต่ระหว่างนั้นก็ทำอินทีเรียไปด้วย จนโรงเรียนของเรามันถึงจุดหนึ่งที่ต้องขยายธุรกิจ ก็มานั่งดูว่ามันมีโมเดลอะไรบ้างที่สามารถทำได้ ส่วนใหญ่แล้วคนเขาก็จะขยายสาขากัน แต่เราคิดว่า know how ของโรงเรียนมันไม่ได้อยู่ที่สาขานะ มันอยู่ที่ครูเปิดหลายสาขาก็เท่านั้นถ้าครูสอนไม่ทั่วถึง เราก็ทำที่เดียวให้ดีขยายจากข้างใน เอาวัตดุดิบที่มีอยู่มาใช้อันนั้นคือจุดเริ่มต้น เริ่มสร้างโปรดักส์ของโรงเรียนซึ่งก็คือเครื่องเขียน เราไม่ได้อยากจะขายในโรงเรียนอย่างเดียว จุดประสงค์ของเราคือขายทั่วโลก เราก็เลยแยกออกมาเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า “Grey Ray”

151001-burne-12

ความต่างระหว่างการเป็นลูกจ้าง กับเจ้าของธุรกิจ และความยากง่ายของสองสิ่งนี้คืออะไร

เราทำอินทีเรียอยู่สองปีแล้วก็เปิดโรงเรียนเลย เราว่ามันมีเสน่ห์ต่างกันนะ ไม่ได้เป็นเรื่องของความยากง่าย ตอนเป็นลูกจ้างคือเราไม่ต้องมองภาพรวม เราแค่มองโจทย์เป็นโจทย์ไปความท้าทายก็คือจะทำอย่างไรให้บริษัทได้โตไปกับเรา และเราเข้าไปพัฒนาองค์กรเค้าได้อย่างไรบ้างในขณะที่เราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แต่พอออกมาทำเองเสน่ห์มันก็เป็นอีกแบบหนึ่งนะ เหมือนกับว่าเราเป็นหัวเรือแล้วอะ เราจะเดินอย่างไรทุกคนก็เดินตามหมด เดินผิดก็ผิดหมด เราเป็นคนที่ไม่เคยรอให้ตัวเองทำอะไรเป็นแล้วค่อยทำ ทำเลย เป็นไม่เป็นไม่รู้ทำเลย ทำโรงเรียนไม่เป็นก็ทำเลย ทำเครื่องเขียนไม่เป็นก็ทำเลยเรียนรู้ไปกับมัน เพราะฉะนั้นมันข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว มันจะยากหรือเปล่าไม่สน เราไม่มีอะไรจะเสียเราก็ไม่กลัว ทำไปเท่าที่ทำได้แบบไม่ต้องกู้มา ใช้ทุนทรัพย์ของเราที่มีอยู่ มันเหมือนกับว่าถ้าเราไม่รู้ว่ามันมีผีเราก็ไม่กลัวผีเราไม่รู้ว่าความล้มเหลวมันเป็นอย่างไร เราไม่รู้จักแบบนั้น รู้แต่ว่าทุกอย่างคือประสบการณ์หมด ไม่มีสูตรสำเร็จที่ว่าทำธุรกิจแบบนี้สิ success แน่นอน หรือแม้กระทั่งตำรา marketing บางเล่มที่เขียนมา 50 ปีมันก็ใช้ไม่ได้แล้ว “ถ้าไม่มีทฤษฎีเราก็สร้างทฤษฎีขึ้นเองเลยละกัน”

151001-burne-4

151001-burne-3

ซึ่งศิลปะกับธุรกิจมันไปด้วยกันได้จริงๆ ใช่ไหม

เราคิดแบบนี้นะ เราคิดว่าต้นทุนของทุกคนคืออะไร แล้วเริ่มจากต้นทุนอันนั้น ถ้าเราเริ่มจากต้นทุนมันจะเป็นธรรมชาติสมมุติบ้านเราขายข้าวแกง เราก็คงทำเกี่ยวกับอาหาร แต่เป็นอาหารที่แบบโคตรเท่เลยไม่เหมือนใคร เชื่อในเรื่องการต่อยอดจากต้นทุนที่ตัวเองมีเพราะฉะนั้นเราโตมากับศิลปะ เรียนศิลปะมาสิบกว่าปีจบมาก็ทำโรงเรียนสอนศิลปะอีก มันก็เป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องฝืนเลย เวลาออกโปรดักส์มาแต่ละครั้ง เราจะเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งหมดเลย เพราะใช้มันจริงๆ ถ้าทุกคนสร้างธุรกิจจากต้นทุนอะ มันจะหลากหลายมาก แต่ถ้าเราไปสร้างธุรกิจที่แบบอันไหนขายดีอันไหนอยู่ในเทรนด์แบบเนี้ย มันจะมีอายุของโปรดักส์พอถึงยุคหนึ่งก็กลายเป็นว่าต้องเปลี่ยน

Grey Ray คือแบรนด์เครื่องเขียนที่มีคอนเซปต์ชัดมาก คุณหวังไหมว่าเครื่องเขียนของ Grey Ray นั้น จะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในสังคม

อันนั้นคือจุดประสงค์แรกเลยนะ ที่ทำให้เราอยากทำเครื่องเขียน พอศึกษาไปลึกๆ เพื่อจะดูต้นแบบว่ามันคืออะไร ปรากฎว่าไม่เจอเลย ไม่เจอต้นแบบที่เป็นเครื่องเขียนของคนไทยจริงๆ ที่บอกว่าฉันออกแบบเครื่องเขียนเพื่อคนไทยนะ เจอแต่แบบที่นำเข้ามา มีบ้างที่ทำแต่ก็ไม่ชัดเจน อย่างญี่ปุ่นเนี่ยความใฝ่ฝันอันดับหนึ่งของวัยรุ่นของเค้าคือ คืออยากทำเครื่องเขียน แต่เราไม่มีวัฒนธรรมแบบนั้น เราไม่มีวัฒนธรรมการรักเครื่องเขียนแบบเขา คนญี่ปุ่นนี่เวลาปีใหม่เขาจะให้อุปกรณ์เครื่องเขียนกับเด็กๆ ทุกคนก็จะรู้สึกว่าปีใหม่ฉันจะได้เครื่องเขียนใหม่แต่ของบ้านเราจะให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ดังนั้นเครื่องเขียนมันจึงไปอยู่ในหมวดภาษีฟุ่มเฟือย มันแพง พอมันแพงก็ยิ่งห่างไกลคน ตัวนี้เป็นประเด็นที่แรกที่ทำให้เราอยากทำเครื่องเขียนจริงจัง เพราะเราอยากสร้างวัฒนธรรมการรักเครื่องเขียนให้คนไทย เราเคยคุยกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นถึงคำว่า Made in Japan สำหรับพวกเขามันทำให้รู้สึกปลอดภัย เราฟังเราก็อึ้งนะ ทำไมพวกเราถึงยี้กับคำว่า Made in Thailand ทั้งๆ ที่รากเหง้าของเราวิจิตรบรรจงมากๆ เลย ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เราชุ่ยกับงานที่ทำ ตั้งแต่เมื่อไรที่คนมีภาพจำว่าของจาก Thailand ไม่ดี ไหนๆ เราก็จะทำแบรนด์เครื่องเขียนแล้ว ทำให้ดีที่สุดดีไหม และก็ทำให้เป็นราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ อยากทำของสามัญที่ใครก็ซื้อได้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน ไม่ต้องสนใจว่าใครออกแบบ ง่ายๆ เลยก็คือ อยากให้คนเชื่อมั่นในของ Made in Thailand

151001-burne-7

ดูจากภายนอก เรารู้สึกได้เลยว่าไลฟ์สไตล์ของผู้บริหารแบบคุณมีความโดดเด่น แล้วก็ดูผ่อนคลายกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ในฐานะเดียวกัน

เราเป็นคนมีสองซีกนะ ซีกหนึ่งเราเป็น business เป็นเหตุเป็นผลเวลามันจะเอียงไปทาง business มากๆ ก็พยายามจะดึงมันกลับมา ที่เขียนรูปนี่ไม่ได้ไปทำอะไรเลยนะ เขียนเพื่อเขียน เขียนเพราะอยากเขียน เขียนเพื่อรักษาเซ้นท์ของความงามไว้ตลอดเวลา ในขณะที่อีกด้านหนึ่งหัวไปทาง business marketing คือเราอ่านตำราเยอะมาก อ่านแล้วทิ้ง อ่านเพื่อรู้ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้นะ เพราะมันทำให้ทุกอย่างเป็นงานอดิเรกหมดเลย business ก็อดิเรก งานศิลปะก็อดิเรก พอทุกอย่างเป็นงานอดิเรกนะ มันทำได้ทุกวันเลย ทำด้วยความสนุกด้วย ทำงานตลอดเวลาแต่มันแฮปปี้อย่างโรงเรียน artHouse และ Grey Ray เราเซตให้ทุกคนสามารถทำงานเองได้หมดเลย เราไม่อยากให้ทุกคนขาดเราไปแล้วง่อย วางโครงสร้างไม่ให้ตัวเองมีอำนาจมากเกินไป

151001-burne-8

151001-burne-6

บ้านของคุณเต็มไปด้วยแผ่นเสียง และแผ่นซีดีเพลง สิ่งนี้มันหล่อหลอมความเป็นคุณมากน้อยแค่ไหน 

จริงๆ โตมากับเพลงนะ เป็นเด็กที่มีเสียงเพลงในหัวตลอด เคยตั้งคำถามว่าทำไมเป็นเด็กแบบนั้น เราเกิดมาในยุคเทป ซื้อหนังสือพวกบันเทิงคดีสีสัน ซื้อมาตลอด ก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมถึงชอบ ไม่ได้อยากเป็นนักดนตรีด้วย ไม่ได้อยากเป็นดีเจ ไม่อยากเป็นอะไรเลย อยากแค่ฟัง จนมาสักพักเริ่มเข้าใจเพราะเรานับถือศาสนาพุทธ เริ่มเห็นว่าทุกอย่างมันลิ้งค์กัน ในขณะที่เราฟังเพลงอย่างตั้งใจไม่เล่นมือถือ ฟังดนตรีทีละชิ้นเลยในเพลงนั้น เบสก็ฟังเบส เปียโนก็เปียโน ฟังทีละโฟกัส มันก็ไปเชื่อมกับเรื่องสมาธิโดยบังเอิญ เพราะทุกขณะที่เราจดจ้องมันคือปัจจุบัน ตอนแรกเราไม่เข้าใจหรอกปัจจุบันคืออะไร แต่เพลงมันทำให้เราเข้าใจตรงนี้ฟังเพลงไปลมหายใจตรงตามบีทของเสียงเพลง ร่างกายก็จะเริ่มผ่อนคลาย มันก็คือการนั่งสมาธิในรูปแบบหนึ่ง ตอนเด็กๆ เคยคิดนะว่าพอแก่ลงเราจะโง่ลงหรือเปล่า ปรากฎว่าไม่ รู้สึกว่าฉลาดขึ้นเยอะ มันฉลาดทางอารมณ์เกิดอะไรขึ้นเราจับทันหมดเลยอะ เพราะเรานิ่งมองทุกอย่างเห็นทางออกอย่างทะลุปรุโปร่งด้วยสมาธิ

151001-burne-9

151001-burne-16

สำหรับเราคุณถือบุคคลหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ คุณมองว่าตัวเองถึงจุดนั้นแล้วหรือยัง

ไม่หรอก ต้องตีความเลยนะ ประสบความสำเร็จคืออะไร เพราะว่าเป้าเรามันใหญ่มากอยากเป็นแบรนด์เครื่องเขียนระดับโลก แต่ก็ไม่ซีเรียสเลย เปรียบเทียบคือเราจะไปแข่งกับใครอะ เราเป็นแบรนด์ที่เล็กมาก มีโปรดักส์ไม่กี่ตัวเอง แต่เราหวังแบบนั้น ถ้าเป็นฝุ่น เข้าตาก็แสบได้นะอารมณ์แบบนั้น เล็กก็ไม่กลัว แต่ไม่ได้ทำด้วยแรงทะเยอทะยาน ทำด้วยความสนุก ตอนเราทำแบรนด์เราถามทีมงานทุกคนเลยสูงสุดในงานนี้คืออะไร แน่นอนไม่ใช่เงินอยู่แล้ว เรื่องเงินน่ะถ้าทำดีมันได้อยู่แล้ว ปรัชญาเราคือทำอย่างไรให้ตัวเราภูมิใจ และคนไทยภูมิใจ เราอยากเป็นแบรนด์คนไทยที่พอไปเมืองนอกแล้วคนเห็นว่าเนี่ยแบรนด์บ้าน ฉันภูมิใจอยากเป็นแบบนั้น  ไม่รู้หรอกว่าไกลไหม แต่เราอยากไปให้ถึง

Grey Ray เป็นแบรนด์ที่ได้รางวัลการันตีมาก็เยอะ คุณคิดว่ารางวัลมันคือสิ่งสำคัญ และถือเป็นตัวบ่งบอกความสำเร็จของแบรนด์ไหม

เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลย มันจะไป success ด้วยยอดขายก็ได้นะ มีประกวดก็ประกวดไป ได้ก็ดี ไม่ได้พูดเอาหล่อนะ ก็ดีใจบ้างนิดหน่อย แต่มันสั้นมากอะ เพราะตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ฝึกมา เราฝึกไม่ให้เสียใจมากไม่ดีใจมากพยายามรักษาสมดุล ตอนที่ดีใจที่สุดคือรู้ว่าโปรดักส์ชิ้นนี้มันทำได้แล้ว จำได้ว่าโมแรกที่ทำปลอกดินสอ เราแย่งกันดูอยู่นั่นอะ พอได้รางวัลมันอีกเรื่องเลยเพราะเราได้ตอนโปรดักส์มันเสร็จมานานแล้ว รางวัลไม่มีผลมากเท่าไร อาจมีในเรื่องของค่ามาตรฐานบางอย่างของบริษัทเอง เหมือนมีคนเริ่มดูเราแล้ว เราก็ต้องรักษามาตรฐานไว้

151001-burne-10

151001-burne-11

สังเกตเห็นว่าเด็กสมัยนี้เรียนจบออกมาแล้ว ก็อยากเป็นนายตัวเองทันทีหรือไม่ก็ทำงานได้เดือนสองเดือนก็ลาออก มีความคิดริเริ่มมากขึ้น ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่อยากแนะนำอะไรพวกเขาไหม

เราว่าดีนะ (หัวเราะ) เพราะว่าคนเรามันโตด้วยประสบการณ์ประสบการณ์จะหาจากไหนอะ ถ้าจุดหมายปลายทางเขาคือการมีธุรกิจของตัวเอง เขาต้องมีวันแรก เขาต้องเจ็บเป็นก่อน สำหรับเราไม่เคยมีอะไรไม่ดีเลยนะในชีวิตอะ ทำเลย! เจ็บอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเจ็บมากเจ็บน้อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันจะตกผลึก ทำให้มีภูมิคุ้มกันทำให้รู้ว่าแล้วจะทำอย่างไรต่อไป คือถ้าอยากทำแล้วไม่ให้เขาทำนี่อั้นนะ คือเคมีคนมีหลากหลาย บางคนเกิดมาเพื่อเป็นลูกน้องคนเท่านั้นแล้วทำดีด้วยนะ บางคนเป็นลูกน้องคนไม่ได้ อย่างเรานี่เข้าบริษัทไหนหัวหน้าตายหมด เพราะชอบเถียงคือต้องทำให้เราเชื่อให้ได้ก่อนว่าสิ่งที่คุณสั่งมันดีจริง เราถึงยอมทำตาม เราต้องรู้ก่อนว่าตัวเองเหมาะกับอะไร จริงๆ แล้วความคิดของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นเองนะ แต่เป็นเพราะสังคม เมื่อก่อนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรามองว่ารับราชการดีต่อมาเป็นแอร์โฮสเตสสิดี ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเป็นเจ้าของธุรกิจดีกว่า หลังๆ มานี่เริ่มมีบทความว่าเป็นลูกจ้างก็ดีเหมือนกันนะ หลักๆ เราว่ามันเกิดจากกระแสสังคมเลย

151001-burne-13

151001-burne-14

มีศักยภาพอะไรอีกไหม ที่คุณคิดว่าสามารถปลดล็อคมันได้อีกเรื่อยๆ

เยอะ! มีอีกเยอะ ทำปาร์ตี้ยังเคยเลย เคยทำปาร์ตี้ให้ tiger translate แรกๆ เคยจัดปาร์ตี้เองในร้านเล็กๆ ที่ข้าวสาร ร้านไม่มีคนเลย ปาร์ตี้นั้นซัดไป 800 คน ร้านแทบพัง แต่เตรียมงานกันเป็นเดือนเลยนะ เพื่อปาร์ตี้วันเดียว คนจัดไม่สนุกเลยเครียดมาก โน้นมายัง นี่มายัง เราว่าเราเป็นคนที่ทำอะไรได้หลายประเภท ตัดผมก็ได้ไม่ได้เป็นคนเก่งนะ แต่ไม่กลัว อยากทำไรทำเลย ไม่ต้องรอให้เป็นหรอก มันจะเป็นในทางของเรา ดีรึเปล่าไม่รู้แต่มันคงดีในทางของเราแต่ไม่กลัว แรกๆ แบรนด์เรา nobody มากนะ แต่จิตใจเรามุ่งมั่น หัวใจเราแข็งแรงมากจริงๆ เราก็ทำมันไปอย่างจริงจัง

151001-burne-5

151001-burne-17

ทั้งหมดที่ทำมานี้มันตอบโจทย์สิ่งที่คุณฝันแล้วหรือยัง

ความฝันเหรอ ลึกซึ้งมากเลยนะเรื่องเนี้ย ยิ่งพูดกับคนอายุเท่าเรานี้ เอาความสุขดีกว่า อย่าเอาความฝันเลย ความสุขทุกวันนี้ก็คือ ขอมีชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด ตื่นมาขอไม่ให้มีเรื่องปวดหัวตื่นมาแล้วขี้เกียจได้ คิดงานแฮปปี้ให้ตอบว่าความฝันคืออะไรก็มีความสุขในความเรียบง่ายทุกวัน รู้สึกเฟรช คิดงานได้เพราะเมื่อก่อนเราเป็นคนปาร์ตี้หนักมาก ปาร์ตี้พังเลย ใช้ร่างกายหนักมาก ไม่รู้เลยว่าความเฟรชเป็นอย่างไร เมา พัง เละ จนมีแฟนคนหนึ่งบังคับให้เรานอนก่อนสี่ทุ่ม อะ ลองตามใจดูปรากฎว่ารู้เลยความเฟรชเป็นอย่างไร นัวร์มาตลอดเลยเข้าใจละ ทุกวันนี้ไม่ดูดบุหรี่นะ ไม่เที่ยว ไม่อะไรทั้งนั้น มีชีวิตเรียบง่ายมาก พยายามหาเรื่องไม่ไปมากกว่าหาเรื่องไป แต่ก็ไปบ้างตามวาระ ลุคเราดู bad นะ ก็ bad จริงอะ (หัวเราะ) ถึงจุดหนึ่งเราก็เข้าใจชีวิตละว่าก็แค่นี้เอง แค่มีความสุขในทุกๆ วันก็พอ

151001-burne-19

151001-burne-18

151001-burne-20

151001-burne-21

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line