Business

เบื้องหลังแก๊กติดเกาะรุ่น 3 “ยุง จีรพงษ์” นักวาดการ์ตูนมากฝีมือแห่งขายหัวเราะ

By: unlockmen August 11, 2015

หากพูดถึงงานอดิเรกที่หลายๆ คนชอบทำ เราคิดว่าการอ่านหนังสือน่าจะถูกจัดอันดับให้อยู่ใน Top 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านหนังสือการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นมังงะแบบของญี่ปุ่น หรือหนังสือนิทานที่ประกอบไปด้วยรูปภาพมากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างจินตนาการให้แก่เรา อีกทั้งยังเป็นการสร้างฝันให้ใครหลายๆ คน อยากประกอบอาชีพเป็นนักวาดการ์ตูน

เราเชื่อว่าหนังสือการ์ตูนที่อยู่ในความทรงจำวัยเด็กของเรา ต้องมีหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ที่เป็นการ์ตูนไทยรายสัปดาห์รวมอยู่ด้วย เราอยู่กับขายหัวเราะมานานจนลืมไปเลยว่า การ์ตูนขายหัวเราะอยู่คู่แวดวงการ์ตูนไทยมานานกว่า 42 ปี แล้ว ( ฉบับแรกปี 2516) และกว่า 42 ปีที่ผ่านมานั้น ขายหัวเราะก็ยังอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บ.ก. วิธิต อุตสาหจิต หรือ บ.ก. วิติ๊ด ที่คนอ่านขายหัวเราะรู้จักกันดี กับแก๊กต่างๆ ที่มีความคลาสสิค ไม่ว่าจะเป็นแก๊กโจรมุมตึก แก๊กติดเกาะ ที่เวลาผ่านมานานหลายสิบปี ก็ยังไม่เคยมีมุกซ้ำกันเลย จนเราคิดไปว่าแก๊กติดเกาะมันเกิดขึ้นจากนักวาดการ์ตูนคนเดิม ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วในปัจจุบันแก๊กติดเกาะของขายหัวเราะเดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว

c1

วันนี้ UNLOCKMEN อยากพาทุกคนไปรู้จักกับนักวาดการ์ตูนจากขายหัวเราะที่เป็นหนึ่งในทีมงานรุ่นที่ 3 ของการวาดแก๊กติดเกาะ “ยุง จีรพงษ์ ศรนคร” นักวาดการ์ตูนมือรางวัล ที่มีผลงานการ์ตูนรายสัปดาห์อยู่ในขายหัวเราะ และมหาสนุก รวมไปถึงผลงานรวมเล่มแก๊กฮา เขาเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานด้วยความสุข กับการพูดคุยในประเด็นการวาดการ์ตูนในแบบฉบับของตัวเขาเองและความเป็นขายหัวเราะ ตลอดการพูดคุยนั้นเราสัมผัสได้เลยว่าเขาเป็นคนที่มีทัศนคติที่น่าสนใจ มองโลกในแง่ดี และสร้างเสียงหัวเราะได้เหมือนกับงานของเขาไม่มีผิด

IMG_2081

คุณเริ่มต้นเข้าสู่แวดวงการ์ตูนได้อย่างไร

เริ่มต้นเลยนะครับ สมัยนั้นเรียนอยู่ ม. ปลาย ก็ชอบวาดการ์ตูนตั้งแต่ตอนนั้นละ เราก็ส่งผลงานที่วาดการ์ตูนไปทางสำนักพิมพ์ ตอนนั้นสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจเขารับสมัครนักวาดการ์ตูนไทย พวกคอมมิคเรื่องสั้น เราก็ส่งไป ปรากฎว่าเขาชอบ เราก็ได้เป็นนักเขียนของเขา ก็เลยมีผลงานตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ และระหว่างเรียนเราก็เขียนการ์ตูนไปด้วยเรื่อยๆ จนเรียนจบ ม. ปลาย เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยงานการ์ตูนมันเริ่มทับซ้อนกันก็ไม่มีเวลาเขียนเท่าไร พอจบมหาวิทยาลัยเราก็เริ่มค้นหาตัวเองว่าเราชอบอะไร เราสนุกกับการทำงานแบบไหน คำตอบก็คือชอบวาดการ์ตูน เราเลยกลับมาวาดการ์ตูนอีกครั้ง

ทราบมาคุณเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ของการวาดการ์ตูนแก๊กติดเกาะของขายหัวเราะ คุณคิดว่าหน้าที่ตรงนี้ที่ได้รับเป็นเรื่องยากง่ายแค่ไหน

อันดับแรกเลยจากการเริ่มทำงานการ์ตูนสไตล์คอมมิคที่มันเป็นเรื่องสั้น และเรื่องยาวที่เขียนเป็นหน้าๆ มันคนละสไตล์กับขายหัวเราะเลยนะ เราคิดว่าไอ้พวกที่เราทำตอนแรกอะสกิลความยากอะ มันยากกว่าเยอะเลย เพราะต้องมีการวางสตอรี่บอร์ด มีการวางเนื้อเรื่อง ตัวละคร คาแรคเตอร์อะไรต่างๆ เพราะคนอ่านต้องอ่านไปเรื่อยๆ เขาก็ต้องสนุกกับมัน แต่พอเราเริ่มมาทำงานที่ขายหัวเราะ สไตล์ก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง มันกลายเป็นเรื่องสั้นๆ จบหน้าเดียว เป็นแก๊กมีช่อง สองช่อง สามช่องจบ การทำงานก็เปลี่ยนไปละ เริ่มง่ายขึ้น แต่มันจะเริ่มกระบวนการใหม่ อย่างการคิดไอเดีย เราจะเริ่มคิดเยอะขึ้น เราก็ต้องเรียนรู้จากงานของรุ่นพี่ แก๊กพื้นฐานของขายหัวเราะอะ มันจะมีพวกแก๊กติดเกาะ แก๊กโจรมุมตึก อะไรแบบนี้ แรกๆ นี่เราจำมาเลยลอกมาเขียนตามแบบ แต่มันยากจริงๆ เรื่องการค้นหาคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนที่จะใช้แทนตัวเราในลายเส้นขายหัวเราะ เพราะพี่ๆ แต่ละคนเขาจะมีลายเส้นที่ไม่ซ้ำกันเลย ความยากคือเราจะทำอย่างไรให้คนอ่านจำได้ว่านี่คือลายเส้นของเรา

เคยคิดมุกซ้ำคนอื่น หรือคิดมุกไม่ออกบ้างไหม

มีๆๆ เชื่อว่านักเขียนเกือบทุกคนเลยนะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ บางทีเราคิดไม่ออกจริงๆ เพราะมันต้องใช้การคิดบ่อย และคิดเยอะมาก บางวันเราอาจจะตื้อคิดไม่ออกเลย เราก็ออกไปผ่อนคลาย ไปหาสถานที่ หรือไปหาแรงบันดาลใจ เวลาหมดไอเดีย คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องออกไปข้างนอก การออกไปข้างนอกก็เริ่มจากการนั่งรถเมล์เลย ไปนั่งตามร้านอาหาร ไปนั่งตามร้านกาแฟ แล้วก็จะไปเห็นคน เห็นเหตุการณ์ต่างๆ สามารถสร้างเรื่องราวให้เราเกิดความคิดได้หมดเลย

IMG_2076

เคยเป็นไหมแบบคิดแก๊กไปแล้ว แล้วตัวคุณเองคิดว่ามันฮามากเลย แต่คนอื่นเขาไม่ฮาด้วย 

มีบ่อยฮะ เอาแค่เริ่มต้นเลย บ.ก. วิธิตเนี่ยยังเป็นคนตรวจแก๊กอยู่ แก๊กไหนที่เราคิดมา เราก็ต้องนำไปส่งให้บก. ตรวจก่อนนำมาลง เขาก็เป็นคนแรกเลยที่จะบอกว่าแก๊กเราฮาไม่ฮา เราเคยคิดแบบแก๊กที่เราส่งไปเนี่ยสี่ห้าแก๊กเนี่ย ต้องผ่านแน่นอน บางอันก็เออให้ครบจำนวนก่อนละกัน ปรากฎว่าไอ้แก๊กที่เรามั่นใจมากเนี่ย ไม่ผ่าน! อันนี้ก็รู้ละว่าแกไม่ฮาด้วย (หัวเราะ) ส่วนบางทีแก๊กที่เราคิดว่ามันเฉยๆ สนุกๆ นะ ลองเขียนขำๆ ดู ส่งไปแกก็ชอบ เราว่า บ.ก. วิธิตเนี่ยแกถือเป็นมาตรฐานเริ่มต้นเลยที่อาจจะยังไม่ต้องไปถึงคนอ่านก็ได้ว่าฮาไม่ฮา

คือ บ.ก. ก็จะมีมาตรฐานของเขา เพื่อให้แก๊กมันออกมาเป็นแบบฉบับของขายหัวเราะจริงๆ ใช่ไหม

ใช่ๆ เราก็จะเห็นได้ว่าคนที่เคยอ่านขายหัวเราะรุ่นเก่าๆ มาอ่านขายหัวเราะเล่มปัจจุบันเขาก็จะยังได้กลิ่นอายของความเป็นขายหัวเราะอารมณ์เดิมๆ อยู่ เราคิดว่ามาตรฐานที่มาจาก บ.ก. คนเดียวกันเนี่ย มันยังคงรักษารูปแบบสไตล์การเขียนกลิ่นอายของความเป็นขายหัวเราะในแบบเดิมๆ อยู่ ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยน บ.ก. เราว่ารูปแบบสไตล์ของขายหัวเราะก็ยังคงคลาสสิคแบบนี้แหละ

IMG_2079

พอพูดถึงขายหัวเราะ เราก็มักจะนึกถึงภาพแก๊กติดเกาะทันที คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ภาพเหล่านี้อยู่คู่กับคนไทยและวงการการ์ตูนไทยมานานถึง 40 ปี

เราว่าคนไทยชอบอะไรที่มันง่ายๆ รวดเร็ว แล้วก็เรื่องของอารมณ์ของความบันเทิง การล้อเลียนอะไรเนี้ยคนไทยจะรับง่าย ลองคิดถึงพวกการ์ตูนผีที่มันหนักๆ เลยนะ หรือการ์ตูนดราม่าที่มีเนื้อเรื่องจริงจัง เขาก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่อ่าน แต่จะเป็นกลุ่มที่ไม่ใหญ่มาก ส่วนขายหัวเราะมันเป็นอะไรที่แบบ เปิดหน้าหนึ่งจบ เปิดหน้าหนึ่งจบ คนไทยจะชอบเสพ ชอบรับอะไรประเภทที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เข้าได้กับคนทุกกลุ่ม ทุกประเภท ขำไม่ขำก็สามารถด่าได้เลย เรียกว่าเสพง่าย ย่อยง่ายประมาณนั้น

IMG_2039

ยุง จีรพงษ์ กำลังวาดภาพเหมือนในสไตล์ของเขาให้กับหนึ่งในทีมนักเขียน UNLOCKMEN 

แล้วไลฟ์สไตล์ของนักวาดการ์ตูนอย่างคุณเนี่ย วันๆ นึงทำอะไรบ้าง เล่าให้เราฟังหน่อย

ชีวิตทำอะไรบ้างก็หลับๆ นอนๆ (หัวเราะ) ถ้าไลฟ์สไตล์จริงๆ เอาเฉพาะในตอนนี้นะ ตัวเราเองไม่ค่อยได้ออกไปไหน อยู่หน้าคอมพิวเตอร์เล่นอินเตอร์เน็ตซะส่วนใหญ่ เสพเรื่องราวต่างๆ ที่เขาเอามาโพส เอามาเล่ากัน ตรงนี้เราคิดว่ามันเป็นการรับข้อมูลมาใช้ในการทำงานด้วย แต่อย่างบางคนเขาก็จะออกไปนั่งทำงานกันข้างนอกในคาเฟ่อะไรแบบนี้ เอางานไปนั่งเขียนแก๊ก ไปตัดเส้น อันนี้เขาก็จะดูดีกว่าเราหน่อย อย่างเวลาเห็นคนไปนั่งทำงานในที่ๆ คนเยอะๆ ผมก็รู้สึกว่ามันก็ดูดีนะ

ถ้าพูดถึงการหาแรงบันดาลใจในการทำงาน มันก็จะย้อนกลับไปที่การนั่งรถเมล์หาแรงบันดาลใจ อันนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคุณด้วยใช่ไหม 

ใช่ๆ อันนี้ก็ด้วย มันเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการหาแรงบันดาลใจ เราต้องหาแรงบันดาลใจ เติมเต็มเข้ามาเรื่อยๆ ตราบใดที่เรายังไม่ตันนะ ยังไม่แบบนั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วรู้สึกว่าแบบไม่มีอะไรให้มองให้เสพเลย เราก็คงต้องออกไปหาเรื่องราวของเราเหมือนกัน ออกไปเจอคน ไปเจอเรื่องราวต่างๆ บางทีเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเนี่ย เรากำลังมาทำงานอยู่ เราออกไปหาไปเดินเปื่อยๆ ของเรา บางคนก็มองแบบดูมันว่างจังเลยนะ ไม่มีงานมีการทำหรือไง (หัวเราะ) เวลาเราเดินไปเรื่อยๆ เจออะไรก็ อืม เก็บมาคิดมาเขียนงานได้หมด

IMG_2069

คุณคิดว่าแฟนๆ ของขายหัวเราะในปัจจุบันนั้นเป็นแฟนๆ หน้าเก่า หรือว่าหน้าใหม่ ส่วนไหนเยอะกว่ากัน

ส่วนหน้าเก่ายังอยู่ ขายหัวเราะมันดีอย่างหนึ่งตรงที่ว่าคนอ่านรุ่นเก่าๆ โตมาก็ยังจำได้ ก็ยังอ่านอยู่ ยังสามารถรักษาแฟนเก่าๆ ได้ ทีนี้มันได้แฟนกลุ่มใหม่ด้วย ลองสังเกตนะ ไม่ต้องเอาตัวใคร เอาตัวเราเองอะ ว่าตอนเด็กๆ เคยอ่านขายหัวเราะมั้ย ถ้าลองไปถามน้องๆ เด็กๆ คนอื่นด้วยเขาก็จะบอกว่าเคยอ่าน โตมาอีกหน่อยมหาวิทยาลัยก็ลองไปถามอีก เขาก็จะบอกว่าเด็กๆ อะ เคยอ่าน แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้อ่านแล้ว ดังนั้นเราก็จะได้แฟนๆ เด็กกลุ่มใหม่ๆ ด้วย เพราะเขาก็จะเริ่มอ่านการ์ตูนด้วยการอ่านขายหัวเราะ ถ้าถามถึงแฟนกลุ่มเก่ากลุ่มใหม่ เราว่ามันมีการเติมเต็มกันมาเรื่อยๆ บางคนที่เลิกอ่านไปก็มี แต่กลุ่มใหม่ๆ ก็ยังมีมาเรื่อยๆ

คุณมองทิศทางของการ์ตูนไทยในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง คิดว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งในคนที่ขับเคลื่อนวงการนี้ไหม

ถ้าตัวเองอาจจะเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ แต่ถ้าเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ เราคิดว่ามันมีผลเหมือนกัน เพราะว่าการ์ตูนไทยเดี๋ยวนี้ก็ออกมาในหลายรูปแบบ มีทั้งเว็บไซต์ สื่อออนไลน์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับคนที่อยากเขียน เด็กใหม่ๆ ที่อยากวาดการ์ตูน ก็ไม่ต้องมาผ่านขั้นตอนการตรวจงานของ บก. ที่ต้องคัดว่าตัวนี้ผ่านไม่ผ่าน ซึ่งขั้นตอนนี้ผมว่าเป็นขั้นตอนที่ยากมากๆ ที่จะก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนได้ เพราะการโดนปฏิเสธงานอาจทำให้พวกเขาเสียกำลังใจ แต่ถ้าเขามีช่องทางในการนำเสนอ เขาไม่ต้องมาผ่านการคัดกรองแบบนี้ ก็จะมีความมั่นใจในตัวเองแล้วนำไปโพสเลย ฟีดแบ้กที่เข้ามาคอมเม้นในงานเขานี่แหละ ที่จะเป็นตัวบอกว่างานเขาดีไม่ดี ข้อดีก็คือได้ลองทำจริงๆ ซึ่งก็นำไปคิดต่อได้ว่าเขาชอบการวาดการ์ตูนจริงๆ ไหม กลไกพวกเนี่ยจะช่วยขับเคลื่อนวงการการ์ตูนไทยให้ไปได้เรื่อยๆ

ถ้าไม่ทำงานด้านวาดการ์ตูน ชีวิตของคุณในตอนนี้จะทำอะไรอยู่

น่าจะเป็นนายแบบ (หัวเราะ) คือก่อนจะมาวาดการ์ตูนอะ เคยไปทำงานพวกเบื้องหลังกองถ่ายมาก่อน สมัยช่วงค้นหาตัวเองอยู่ จริงๆ อาจจะไปอยู่ในสายงานแบบนั้น ไปเขียนสตอรี่บอร์ดอะไรพวกนั้นไป ก็ยังคงให้มีกลิ่นอายการทำงานแบบวาดการ์ตูนอยู่นะ ใจจริงมามองตัวเองในตอนนี้คิดว่าตัวเองชอบวาดการ์ตูนนะ ฉะนั้นถ้าเกิดเราไม่ได้วาดการ์ตูนที่เป็นอาชีพจริงๆ อะ งานในรูปแบบไหนที่มันคล้ายกับการวาดการ์ตูนอะ คิดว่าเราก็คงไปอยู่ตรงนั้นแทน

11781853_10153570312644248_7692939665228336303_n

ผลงานการวาดภาพเหมือนให้กับนักเขียนทีม UNLOCKMEN ในแบบฉบับของยุง จีรพงษ์

cover_tidkor-side

ผลงานหนังสือรวมเล่มแก๊กฮา “ซุปเปอร์ฮิต แก๊กติดเกาะ” และ “เซเว่น ฮานะจ๊วบ จ๊วบ”

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line