CARS

CONVERSATION WITH MACTEC ตำนานรถบ้านพันแรงม้า เกิดมาชีวิตนึงทั้งที ทำอะไรต้องใส่ให้สุด

By: anonymK May 18, 2018

“เห็นเธอทีไรแล้วใจมันสั่น” บางทีคำพูดนี้เราก็ไม่ได้หมายถึงสาว ๆ แต่หมายถึงวัตถุร่อนลม เคลือบสีบอดี้มันปลาบ รับด้วยฐานล้อแม็กซ์เฉียบเงา มียางหุ้มพร้อมบดพื้นกับตัวเครื่องแรง ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างใน ฟังดูอาจจะไม่น่าเชื่อ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่คงรู้ดีว่าตัวเลขที่เราเรียกว่า “แรงม้า” มันโคตรเซ็กซี่ไม่แพ้คัพทรวงอกของสาว ๆ อย่างไรอย่างนั้น

เพื่อไปให้สุดทุกเรื่องกับความสนใจที่บุรุษทุกคนและทีมงาน UNLOCKMEN มี วันนี้เราจัดแมทช์พิเศษตะลุยอู่รถสปอร์ตที่คนส่วนใหญ่อยากไปดูแต่ยังไม่เคยได้เข้าไปเพื่อล้วงลึกชีวิตผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย แม็ก – อดิสรณ์ เจริญศักดิ์ พี่ชายเจ้าของฉายาเจ้าพ่อพันม้าผู้เป็นเจ้าของกิจการ MACTEC GROUP ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาทั้งในสนามแข่งและแชแนลเกี่ยวกับรถสปอร์ต นับจากย่อหน้านี้เป็นต้นไปเรามั่นใจว่าอ่านจบเมื่อไรคุณจะต้องพูดว่า “พี่แม่งแน่จริง ๆ!” สมควรแก่การยกมือขึ้นคารวะให้เอาเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจทั้งเรื่องงานและความคิด

 

“สุดของผมคือชาวบ้านไม่มี ที่เหนือกว่าคนทั่วไปนั่นคือสุดของผมนะ”

นั่นไง…แล้วชีวิตพวกเราล่ะเคยทำอะไรสุดกับเขาบ้างหรือยัง

 

LIFE INSPIRE: “รถ” ไว้ก่อนพ่อสอนไว้

หลังทัวร์รอบอู่ให้น้ำลายหก พวกเราทีมงาน UNLOCKMEN ได้รับคำเชื้อเชิญให้เข้ามาคุยกับพี่แม็กในห้องทำงานด้านบนชั้น 2 ที่เป็นห้องกระจก ห้องที่มีความโอ่โถงฉบับห้องของผู้บริหาร มีเก้าอี้พร้อมโต๊ะไม้กว้างวางอยู่ด้านหนึ่งและกลุ่มโซฟาหนังที่วางอยู่ใกล้ประตูอีกด้านหนึ่ง ด้วยความเป็นผู้บริหารสายลุยเขาบอกกับเราว่าปกติไม่ได้อยู่ในห้องด้านบนนี้เท่าไรแต่มักจะอยู่ด้านล่างทำงานกับลูกน้องมากกว่าพร้อมกับชวนให้นั่งคุยกันที่โซฟาอย่างเป็นกันเอง

ทำไมพี่ถึงมาชอบรถได้?

“เอาจริง ๆ เหมือนโดนปลูกฝังซึมซับตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อเป็นคนชอบแต่งรถ แต่ว่าไม่ได้ลึกแบบนี้นะ คือแต่งของเขาเล่น ๆ ตามประสาผู้ชาย พอวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เขาก็ลากผมไปอู่ทำโน่นทำนี่ด้วย นั่นเลยเหมือนถูกซึมซับตั้งแต่ประถมเลย พอโตขึ้นก็เลยชอบรถ ประมาณช่วงอายุ 15 พ่อสอนให้ขับเป็น แล้วค่อยส่งไปเรียนโรงเรียนสอนขับรถเพื่อ proof จากนั้นถึงไปทำใบขับขี่”

 

รถคันแรกของพี่แม็กคือคันไหน?

“รถแต่งของพ่อ TOYOTA KE 35 ครับ เก่า ๆ อายุมากกว่าผมอีก สมัยนั้นก็ไม่แรงเท่าไหร่เพราะเครื่องเป็นคาบิวอยู่ครับ วิ่งเต็มที่ก็ไม่เกิน 200 แต่เรารู้สึกว่ามันเร็วแล้วด้วยความว่าไม่เคยขับ พอช่วงมหาวิทยาลัยพ่อก็ยกรถคันนี้ให้ไว้ใช้ประจำวันเลย นั่นแหละถึงจะเริ่มแต่งรถว่าอันนั้นไม่ดีเอาอันนี้ใส่ตอนอยู่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง”

 

พังได้ ! แต่ไม่แพ้

เก่งเรื่องรถแบบนี้ เคยทำรถพังมาบ้างไหม?

พังบ่อยครับ ทุกวันนี้ก็ยังพังอยู่ คันแรกที่ขับไม่นับเพราะว่ามันพังด้วยอายุการใช้งาน แต่พอเห็นการใช้รถ แม่ก็เป็นห่วง เดี๋ยวสไลด์เดี๋ยวลาก เลยให้ไปถอยรถป้ายแดงให้เป็น LANCER EV CAR ผมจะเอารถกึ่ง ๆ สปอร์ตเขาก็ไม่ให้ ให้ป้ายแดงสี่ประตู แป๊ปเดียว 6 เดือน เล่นเขาเละทั้งคันเลย เอาไปใส่เทอร์บงเทอร์โบ เกียร์พัน เครื่องเละแตกเละเทะหมด ตอนนั้นที่พังเพราะว่าเรายังไม่ค่อยมีความรู้แล้วเราลอง เป็นเรื่องที่ผิด คือแต่งผิดแหละเลยพัง กลัวที่บ้านรู้วางแผนสารพัด ทั้งถ่ายน้ำมันเครื่องออกแล้วบอกว่าตรงนี้มันหลุด แต่ว่าสุดท้ายก็โดนจับได้ อ้างไม่ขึ้น โดนที่บ้านด่ายับ อยู่เฉย ๆ มันจะไปพังได้ยังไง ตอนหลังก็ใส่เครื่องเทอร์โบตรงรุ่น

อะไรคือจุดสูงสุดของคนที่อยากแต่งรถ ?

ส่วนตัวผมคือผมชอบทำอะไรแล้วมันสุดยอด ถ้าจับแล้วมันต้องที่สุด นั่นแหละมันคือแพสชันผม ทำอะไรมันต้องสุด สุดของผมคือชาวบ้านไม่มี ที่เหนือกว่าคนทั่วไปนั่นคือสุดของผมนะ ถ้าแต่งรถมันก็ต้องสุด จะซื้อนาฬิกาก็ต้องสุด จะเล่นปืนก็ต้องสุด รู้แค่นี้ คือต้องทำให้มันสุดเท่านั้นแหละครับ

 

WORK INSPIRE: 23 ปีครึ่งในกฎ ก่อนแหกคอกเลือกชีวิตตามใจ

พี่แม็กเรียนจบด้านอะไรมา ถึงมาทำงานสายนี้ จบเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาหรือเปล่า ?

ตอนนั้นเรียนบริหารการจัดการครับ คนละด้านเลย คือเคยขอแม่ไปเรียนช่างยนต์ตั้งแต่ ม. ปลายแล้ว ไม่อยากเรียนสายวิทย์ แต่ท่านไม่ให้ บอกว่าจบไปจะทำอะไร โห…ยาวเป็นชุด เพราะแม่อยากให้เรียนแนวบริหารจบมาจะได้ดำเนินรอยตามท่าน ช่วงมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายผมได้เข้าไปฝึกงานที่บริษัทเดียวกับพ่อแม่เลย ท่านวางไว้แล้วว่าต้องทำงานที่นี่ ผมก็ทำได้ประมาณ 4 ปีครึ่งก็เลิก เพราะว่าอะไรรู้ไหม? ไอ้ครั้งแรกเราก็ดีใจ จำได้เลยว่าตอนเงินเดือนเข้าเราก็ดีใจมากเพราะว่าเราจะได้เอาตังค์มาทำรถนะ

แล้วทำงานที่แรกเนี่ย ฝึกงานได้เดือนละหมื่น บรรจุได้หมื่นสอง ผมทำงานฝ่ายขายต่างประเทศได้ยอดเยอะเจ้านายเห็นก็ให้เงินเพิ่มเป็นสองหมื่น แต่หลังจากปีที่สองที่เปลี่ยนเจ้านายไปจำนวนเงินเดือนที่ขึ้นมันลดลง เหลือแค่ 2,000 ผมก็เริ่มไม่โอเคแล้ว เข้าปีที่ 3 เหลือ 1,000 เดียว ทั้งที่ยอดที่เราทำก็ไม่ได้ตก ทำให้หมดไฟ หมดแรงทำงาน จากตอนแรกที่ขยันฉิบหาย เลยไปปรึกษาแม่เพื่อขอทำรถ ท่านก็ปฏิเสธบอกว่าทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ให้ทนต่อไปจะได้เป็นผู้บริหารเงินเดือนหลักแสนเหมือนท่าน ผมก็ทน แต่ปีที่ 4 ก็เหมือนเดิม เพิ่มอีก 1,000 นึง รับซองปุ๊ป ผมกลับมาเลย พิมพ์ใบลาออก ผมไม่ถามด้วย เพราะถ้าถามผมก็โดนเบรกอีกว่าให้ทนไปเถอะ เดี๋ยวก็ให้ขึ้นเลื่อนขั้นเป็นรองผู้จัดการ เป็นโน่นเป็นนี่ สรุป กูไม่เอาละ!

เหตุผลอำลาเงินเดือนเรือนแสนในอนาคต

เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะช่วงที่ทำงานเนี่ย เข้างานแปดโมงเช้า เที่ยงพัก ทำงานอีกทีบ่ายโมง เลิกงานห้าโมงเย็น ผมไม่กินข้าวเที่ยงนะ เลิกงานผมเอาช่วงนั้นไปหาของแต่งรถมาขายบ้าง รับของส่งของบ้าง ตอนเย็นก็ออกไปทำรถ แล้วผมรับจูนรถด้วย เริ่มแรกมันยังไม่มีกล่อง ecu เหมือนสมัยนี้ มันก็ต้องจูนจากกล่องเดิม ก็ต้องถอดเอามาจูน จูนรอมน่ะ จูนทีนึงก็หลักพัน ถึงไม่ได้มีทุกวันแต่เบ็ดเสร็จเฉพาะอาชีพรองรวมกันเดือน ๆ หนึ่งผมสี่หมื่นนะ แค่ใช้เวลาที่ว่างจากการทำงานประจำ

ผมก็เลยมาคิดว่า เอ…ถ้าผมออกไปทำเอง แล้วผมมีเวลากับมันเต็มที่หกวันต่ออาทิตย์ ตั้งแต่แปดโมงถึงทุ่มสองทุ่มเลย มันก็น่าจะได้มากกว่านี้ดิวะ แล้วมาทนอะไร ส่วนเงินเดือนตั้งเป็นแสน ๆ ของแม่ แม่ทำงานกี่ปี ถูกไหม เขาทำงานตั้งแต่สิบกว่า จนวันที่เขาพูดเนี่ยมัน 40 เกือบ 50 ปี ในความคิดของผมคือมันก็นานแล้ว

 

ข้าววันละ 2 มื้อ นอนวันละ 6 ชั่วโมง

จากเรื่องรถที่สุดไปแล้ว การทำงานพี่เขาเราเองก็ต้องยอมรับ เรื่องหนึ่งที่เราไม่ขอแนะนำให้เลียนแบบเพราะมันอาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จของคุณ แต่เป็นความเคยชินที่ใช้เวลาทำงานต่อเนื่องยาวนานที่แสดงให้เห็นความทุ่มเทของพี่เขา คือตั้งแต่ปีแรกของการที่ทำงานที่พี่เขาใช้เวลาช่วงพักไปซื้อของมาเทรดขายต่อตามเว็บทำให้ไม่ได้กินข้าวกลางวัน และใช้เวลาช่วงเย็นทำงานเพิ่มก่อนจะลาออกจนมาเปิด MACTEC และทุ่มเทให้กับมัน

นับแต่วันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 10 กว่าปี พี่แม็กยังคงกินข้าว 2 มื้อ และทำงาน 6 วันจันทร์ – เสาร์เหมือนที่ตั้งใจไว้ แต่ใช้เวลาทำงานมากกว่าเก่า โดยเริ่มสตาร์ทงานตั้งแต่สิบโมง เลิกจากอู่ราวทุ่มถึงสองทุ่ม แล้วกลับไปต่องานที่บ้านถึงตีสามตีสี่ตามลูปนี้ทุกวัน เนื่องจากต้องสั่งของจากบริษัทที่อเมริกาซึ่งมีเวลาห่างจากไทยถึง 12 ชั่วโมง ใครว่าเป็นเจ้าของธุรกิจมันง่าย มันสบาย พิสูจน์ตรงนี้เลยว่าไม่จริง เนื่องจากทุกขั้นตอนพี่แม็กยังคงดูแลและลงรายละเอียดทุกขั้นตอนทั้งสต๊อก อีเมลสั่งซื้อ ฯลฯ

ต้นกำเนิด MACTEC

เริ่มจากทำอะไหล่เก่าญี่ปุ่นก่อน ขายอะไหล่เก่าญี่ปุ่น เชียงกง ทำร้านหุ้นกับเพื่อนขาย แต่มันไม่ค่อยดีเท่าไร แล้วประกอบกับที่ว่าผมไปเจอของอเมริกามาซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วระหว่างสินค้า 2 ชนิดนี้ของอเมริกาถูกกว่าเยอะมากประมาณ 30-40% แถมแข็งแรงกว่าด้วย คุณภาพดีกว่า ผมก็เลยเปิดตลาดตรงนั้นไปก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ MACTEC ก็เริ่มนำของอเมริกาเข้ามาขาย แต่ตอนนั้นคนเขาก็ยังไม่รู้จักเลย มีอะไรก็ญี่ปุ่นหมด เป็นแบรนด์ก็ญี่ปุ่นหมด ผมก็เลย alternative ออกไป

ด้วยความว่าทำรถเอง แข่งรถด้วยก็เลยรู้ว่าอะไรไม่ดี จำได้ว่าล็อตแรกที่ลงทุนผมลงทุนหลักหมื่นนะซื้อพวกหัวข้อต่อ เอามาเทกับโต๊ะเนี่ยยังไม่ถึงครึ่งโต๊ะเลย (วาดมือให้ดู) แล้วของที่เอามาก็ส่งโง่ ๆ เลย ส่ง EMS ก็ไปเอาที่ไปรษณีย์หลักสี่ เรื่องชื่อตอนนั้นผมก็คิดว่าจะเอาอะไรดีวะ ตั้งว่า MACTEC แล้วกัน MAC ก็มาจากแม็ก กับ TEC คือเทคโนโลยี ก่อตั้งปี 2006 เดือนมิถุนา นั่นคือจุดเริ่มต้น MACTEC เลย หมื่นกว่าบาท จนทุกวันนี้ร้อยกว่าล้านแล้ว ก่อนจะเป็นอู่อย่างที่เห็นตอนแรกก็อยู่ 200 ตารางวา เล็ก ๆ ชั้นเดียว ตอนนี้ก็ไล่มาสามชั้นเลย

PLAY INSPIRE: จัดครบทุกดอก ทั้งแข่งรถ ยิงปืน สวมนาฬิกา หวดกอล์ฟ

ไม่เพียงเรื่อง work ที่ขึ้นหิ้งเป็นไอดอล เรื่องเล่นเขาก็ไม่วรรคหรือเฉื่อยชา งานอดิเรกไหนที่พวกเราเหล่าผู้ชายชอบ พี่เขาพูดมาแบบตรง ๆ ไม่หล่อ แต่เข้าเป้าผู้ชายเราทุกนัด

“ผู้ชายไม่มีอะไรมาก รถ เหล้า เที่ยว ปืน ตีกอล์ฟ เท่านั้นหมดจบแล้ว แต่ถ้าหลายอย่างก็เจ๊งเยอะหน่อย นาฬิกาอีกอย่างนึง คือทำงานมามีเงินเก็บมันก็ต้องหาทางระบายอะไรสักอย่างใช่ป่ะ ไม่ก็บวช ถูกไหม”

แข่งรถครั้งแรก

แข่งครั้งแรกของผมก็คือถนนเลย มันก็ไม่ดีหรอก สมัยวัยรุ่นก็แข่งแถววิภาวดี ตอนกลางคืนที่ตำรวจจับนั่นแหละ เคยโดนปิดไฟแดงจับด้วย ก็ใช้รถพ่อนั่นแหละไปแข่ง ลักษณะการแข่งจะเป็นความยาวหนึ่งยูเทิร์นจากหน้าเซนต์จอห์นไปสุทธิสารแล้วก็วนกลับมาอีก แค่หนึ่งรอบหรือบางทีไม่เคลียร์ก็นานหน่อย ยาวไปอยู่หอการค้าเลยก็มี สมัยผมนะวัยรุ่นนิยมวิ่งเส้นนั้น ย้ายจากวิภาวดี ไปบางใหญ่ ไป 345 ก็ย้ายไปตามยุคน่ะ ที่เขาเรียก the parade สมัยก่อนนั่นผมก็ไปอย่างนั้น แต่พอรู้ว่ามีสนามก็ไปแข่งในสนาม ครั้งแรกนี่คือ พีระ (พัทยา) แล้วก็มาเป็นสนาม MMC (รังสิต) แล้วก็ไปกาญจนบุรี สนามมันก็เปลี่ยนไปเรื่อย

ชนะแล้วได้อะไร?

แข่งชนะก็ไม่ได้อะไรนอกจากความมันส์เลยครับ เอาจริง ๆ ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้อะไรนอกจากความมันส์นะ เรื่องวางเดิมพันก็เคย แต่มันเป็นเรื่องที่เอาไปยังชีพไม่ได้ไง หลัก ๆ คือเอาความมันส์มากกว่า วางเดิมพันนั่นคือหมั่นไส้ อย่างหมั่นไส้ว่ามึงแรงหรอ วางตังค์ไหมล่ะ คือมันไม่ได้เป็นอาชีพ ไม่ได้เป็นอะไร คือหลัก ๆ เนี่ยคือมันส์อย่างเดียวเลย ทุกวันนี้ที่แข่งรถที่วางเป็นล้านสองล้านสามล้านตูม ๆ เนี่ยคือไม่ได้อะไรนะ เพราะหนึ่งสปอนเซอร์เราไม่เคยขอ สองรางวัลก็ไม่มี สามค่าใช้จ่ายเราก็ต้องดูแลเอง คือไม่ได้อะไรนอกจากความมันส์เลย

เคยวิ่งรถด้วยสปีดสูงสุดเท่าไร? ความเร็วระดับนั้นรู้สึกยังไง
330 วิ่งถนนหลวงธรรมดาด้วยเฟอรารี่ ตอนนั้นคือแบบขอหน่อยวะ โห กลัว ๆ มันร่อนแล้ว ได้แปปเดียว ไม่กล้าแล้ว คือถ้าเอามือยกมาถ่ายรูปคงคว่ำเลย มันไวมาก มันเร็วแบบต้องเผื่อระยะหลายอย่าง เบรกไม่อยู่ด้วย เผื่อระยะเบรกไกลโคตร ต่อให้ซุปเปอร์เบรกยังไงก็เบรกไม่อยู่ ต้องเผื่อกันตั้งแต่ไกล ๆ

พี่ว่าแข่งรถป่วนเมืองจริงไหม?

จริง ๆ แต่งรถมันไม่ใช่ป่วนเมืองหรอก เพราะว่าขับรถเดิมถ้าคนมันจะป่วนมันก็ป่วน บางคนขับรถเดิม ๆ นิสัยแย่ก็มีตั้งเยอะแยะ ซิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว มันไม่เกี่ยวกันมันคนละเรื่อง คนแต่งบางคนแต่งแล้วไม่ขับก็มี ส่วนใหญ่แล้วมันเหมือนการชอบอะไรที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขา ถึงแต่งรถขึ้นมา คนขับรถเดิมแล้วป่วนผมว่าเยอะกว่า ไม่ไม่เกี่ยวว่าแต่งไปป่วนหรอก แต่งก็คือเพื่อให้มันไม่ซ้ำซาก ไม่เหมือนอะไรเดิม ๆ อันนี้คือความรู้สึกส่วนตัวของผมนะ

ไลฟ์สไตล์ส่วนอื่นเวลาที่ไม่อยู่กับรถ

ก็อยู่กับนาฬิกาครับ เป็น collector หานาฬิกา ซื้อใส่บ้าง เบื่อก็ขาย แต่จะหารุ่นที่หายาก ชาวบ้านไม่ค่อยมีพวก limited แล้วก็ยิงปืนทุกชนิด สะสมด้วย ยิงตั้งแต่กระบอกลูกกระสุนเล็ก ๆ ส่วนเรื่องหนังสือจริง ๆ เป็นคนโคตรเกลียดการอ่านหนังสือเลย ที่อ่านมีอยู่สองอย่างหนังสือการ์ตูนพวกดราก้อนบอล เซนต์เซย่า แนวสู้ ๆ ไฟต์ ๆ กับหนังสือรถ แล้วก็เรื่องแนวเพลงผมโคตรมั่วเลย edm, rap, pop ไม่มีสไตล์เป็นของตัวเอง อันไหนเพราะก็ฟังหมด แต่ชอบฟังทุกวันนี้นั่งทำงานก็เปิดเพลงนะ ผมทำงานเงียบ ๆ ไม่ได้ หรือเวลาขับรถก็เปิดเพลงรอ บางทีก็เปิด youtube ปล่อยไหลไป

THE BEST OF MAC
  • แต่งรถได้สุดคันแรก : LANCER E-CAR แรงม้า 400 ปลาย ๆ สมัยหลายปีแล้ว ปี 19XX กว่า ๆ
  • เสี่ยงชีวิตที่สุด : เคยจะตายเพราะบิ๊กไบค์ เลยไม่ได้ขี่

รถบ้านที่เร็วที่สุดในประเทศไทยของ MACTEC

  • รถที่แต่งแล้วภูมิใจที่สุด (2018) : 200 SX เครื่อง V8 turbo เป็นรถบ้าน รถบ้าน 1,260 แรงม้าที่ล้อ แต่ที่เครื่อง 1400
  • พร้อมเกษียณที่สุด : อายุ 50 ปี จะวางมือให้น้องสาวมาบริหารแทน
  • ยี่ห้อรถที่ชอบที่สุด : MAC MACLAREN

สุดทุกอย่างขนาดนี้พี่มีเรื่องท้อใจบ้างไหม

ไม่มี พูดตรง ๆ ไม่เคยท้อเลย ตั้งแต่ทำงานออฟฟิศแล้ว ที่ผมบอก ไม่ใช่ก็ไม่เอา ผมก็มีธุรกิจอื่นอยู่นะ ถึงไม่ดีก็หาใหม่ ผมยังไม่เคยเจอเหตุการณ์หนัก ๆ ที่ทำให้ท้อ แต่ถ้าเป็นผม ผมคิดว่าเราก็มาไกลแล้วอ่ะ ต่อให้เราเฟลไปบ้างก็ถือว่าไอ้ที่ผมทำมันกำไรแล้ว กำไรชีวิตแล้ว อย่าไปซีเรียสอะไรมาก สุดท้ายก็ยังมีลมหายใจอยู่ ทำอย่างอื่นดีกว่า อย่าไปเสียเวลาไปจมปลักกับสิ่งที่เสียไป ทำยังไงให้มันไปให้ได้ดีกว่า

ในสายตาพี่วงการรถไทยตอนนี้อยู่ในระดับไหน?

มันมีการพัฒนามาเรื่อย ๆ นะครับ ทุกวงการเลย ไม่ว่าจะเร็วจะช้านะ แรลลี่ก็อาจจะช้าหน่อย ดริฟต์ก็พัฒนาไวมาก แดร็กนี่ไว แต่ก่อนเนี่ยสมัยผมจำไม่ได้ว่ากี่ปีที่แล้ว คนไทย ตอนนั้น HK THAILAND ยังอยู่ใช่ไหมซึ่งเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น ต้องเชิญรถ HK ญี่ปุ่นมาวิ่งโชว์ในไทยนะ เขาถือว่าสุดยอด โหเร็วมาก ตอนนี้มาเดะ สู้กระบะได้เปล่า มาก็หงายอ่ะ คนไทยแซงแล้วนะครับ ผมว่าถ้าในเอเชียไทยเร็วสุด ณ วันนี้

ยังมีสิ่งที่อยากจะทำมากขึ้นไหม? เป้าหมายอื่นที่อยากทำ ที่เกี่ยวกับรถและไม่เกี่ยวกับร

เอาเรื่องรถก่อน ผมก็จะมีโปรเจ็กต์บ้า ๆ บอ ๆ อยู่ ผมเห็นเมืองนอกเขาทำ แต่เมืองไทยยังไม่มีใครทำ ผมอยากทำเหมือนกัน เขาเรียกคาร์ท มันคือรถแล้วทำเป็นโครงแต่เอาวิ่งถนนเล่น (ให้รูปดู) อยากทำคันแรก เครื่องก็ปกติครับ แต่ว่าตัดเสียรถเลย ตัดทิ้ง ตัดยับ ตัดเน่าเลย คือคนทำต้องใจถึง คือทิ้งเลยรถทั้งคัน มันคือรถเฟรมวิ่งถนนเลยครับ มีแต่กระดองไม่มีกระจก มีแต่โครง ยังไม่มีใครมีไง มันต้องวิ่งตามสนาม แต่เราอยากให้มันเอาวิ่งตามถนนได้

ที่เหลือคืออยากทำลายสถิติ อยากทำอะไรขึ้นมาที่เป็นสถิติโลกขึ้นมาบ้าง ที่สามารถพูดได้ว่าเครื่องตัวนี้แรงที่สุดในโลก เครื่องตัวนี้วิ่งเร็วที่สุดในโลก แค่นั้นเอง แค่นี้ที่อันล็อกผมนะ

เมื่อคนรักรถตัวท็อปอยู่ตรงนี้แล้ว สิ่งที่เราอยากรู้คือการสัมผัสมุมมองให้ถึงแก่นแบบสุด ๆ เลยยิงคำถามสำคัญจากจินตนาการ (ที่เราแอบอยากให้เป็นจริง) เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยเมื่อมันต้องมาสัมพันธ์กับเรื่องรถแข่ง พอเดากันออกไหมว่าพี่เขาจะตอบว่ายังไง

ถ้ามีโอกาสได้เป็นนายกคนต่อไป พี่จะทำอย่างไรกับวงการรถแต่ง street race?

อันดับแรกผมจะลดภาษีนำเข้าก่อนเลย เพราะภาษีที่แพงมันทำให้คนสู้ราคาไม่ได้ เอื้อมไม่ถึงรถรุ่นใหม่ จำเป็นต้องทนใช้รถเดิม ๆ ที่นวัตกรรมยังไม่ดีไปนานเป็น 10 – 20 ปี  ซึ่งมันไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องแรงไม่แรงแต่หมายถึงการเผาไหม้เครื่องที่สร้างมลพิษด้วย มีผลกระทบกับเรื่องอื่น ๆ ต่อเนื่องกันไป

หลังลดภาษีนำเข้าเราอาจจะหันมาเก็บภาษีป้ายวงกลมแทน เพราะตอนนี้มาตรฐานการเก็บภาษีนำเข้ารถยังไม่ชัดเจน ถ้าเก็บภาษีที่มองเห็นกันชัด ๆ บิดพลิ้วกันไม่ได้ไปเลยอย่างพวกภาษีป้ายวงกลมจากเดิมที่ต่อปีละหมื่นเพิ่มเป็นปีละแสนมาทดแทน จะแก้ปัญหาเรื่องจำนวนรถได้ คนไทยเองก็จะได้ใช้รถใหม่ขึ้นด้วย

ที่สำคัญทุกการปรับระบบควรเลือกให้เหมาะกับสภาพสังคมของเราด้วย ถึงในเอเชียจะมีประเทศที่เก็บภาษีรถแพงอย่างสิงคโปร์ แต่ในความเป็นจริงเป็นเพราะขนาดพื้นที่ของประเทศเขามีขนาดเล็ก ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุม แต่ทางรัฐบาลเขาก็ทดแทนด้วยการซื้อกลับหลังใช้งานผ่านไป 5 ปีด้วยราคาสมน้ำสมเนื้อ

สุดท้ายที่อยากทำคือสนับสนุนเรื่องงานแข่งระดับใหญ่ ๆ เหมือนเมืองนอกบ้าง เรื่องการเอารถแข่งเข้า รถแข่งออก ให้อิสระเยอะขึ้นกว่าตอนนี้ครับ ถ้าแก้ทั้ง 2-3 เรื่องที่แนะนำผมคิดว่าวงการรถมันจะพัฒนาได้เยอะกว่านี้

จบทุกคำถามของวันนี้ พี่แม็กส่งพวกเราออกมาก่อนไปมีทติ้งมื้อเย็นกับลูกน้องต่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถือเป็นหนึ่งวันยาวนานที่แสนสั้น เพราะถึงอาทิตย์เตรียมลับแสงเราก็ยังเต็มอิ่มแช่สายตากับรถทุกคันในอู่ แต่พวกเราก็ต้องยอมตัดใจสตาร์ทรถ ผลักเกียร์เดินหน้าสุดเพื่อแยกย้ายกลับตามที่หมายของตัวเอง พวกเราชาว UNLOCKMEN ก็เหมือนกัน ชาร์จแบต เติมน้ำมันจากเรื่องราวของคนมีไฟอย่างพี่แม็กแล้วก็อย่าลืมจับพวงมาลัยไปต่อนะ ขอให้โชคดี!

สำหรับชาว UNLOCKMEN คนไหนที่ยังไม่จุใจ อยากโดนของแรง ๆ สักครั้ง ลองเข้าไปดูต่อกันได้ในนี้ MACTEC

 

PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line