GADGETs

IoT Internet of Things จากไลฟ์สไตล์อัจริยะ สู่เทรนด์บ้าน Smart Home สุดล้ำสำหรับคนยุคนี้

By: Chaipohn November 14, 2016

ปัจจุบันนี้เราน่าจะพูดได้เต็มปากว่าเกือบทุกคนล้วน connected กับเทคโนโลยีชนิดแยกจากกันไม่ได้ จากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่เคย say no ไม่อยากข้องเกี่ยวกับเทคโนโลยี ทุกวันนี้ก็ใช้ Chat Application บน Smartphone ส่งรูปทักทายรายวัน หรือใช้ Online Audio / Video Call โทรพูดคุยกันผ่าน application ได้อย่างคล่องแคล่ว และดูเหมือนจะสนุกไปกับการใช้เทคโนโลยีมากกว่าที่เราเคยจินตนาการเอาไว้ซะอีก ส่วนรุ่นรองลงมาอย่างคนทำงาน วัยรุ่น วัยเรียน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ถ้าสังเกตเทรนด์รอบตัว จะเห็นว่าทุกสิ่งในโลกล้วนมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดกว่ายุคก่อนๆ ค่อนข้างมาก ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีที่มีของใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หรือเรียกอย่างเท่ว่า Technology Distuptive โลกกำลังมีเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกให้มนุษย์ในชีวิตประจำวัน จากที่เคยต้องยืนโบก Taxi ก็แค่นั่งกดปุ่มแล้วรอ จากที่เคยต้องจ้าง Messenger ไปรับของ ก็แค่นั่งกดปุ่มแล้วรอ ทุกคนเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีและอินเตอร์เนทอยู่ตลอดเวลา มนุษย์สามารถสื่อสารกับสิ่งของต่างๆ ได้ทันที ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า Internet of Things (IoT) จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มาสู่สิ่งใหญ่ๆ อย่าง Tesla รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่สามารถขับเองได้ และเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอนก็คือ Intelligent Home Automation บ้านอัจฉริยะครบวงจร หรือบางคนอาจจะคุ้นกับคำว่า Smart Home

 

161012-smarthome-1

Brief History of Home Automation

คอนเซ็ปต์ Internet of Things (IoT) เป็นสิ่งที่ถูกวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 32 ปีที่แล้ว ในปี 1982, Carnegie Mellon University พยายามคิดค้นตู้กดน้ำโค้กที่สามารถรายงานข้อมูลให้มนุษย์รู้ได้ว่าน้ำโค้กด้านในเย็นตามที่ต้องการหรือยังผ่านการเชื่อมต่อ Internet ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ก่อนจะมีการนำแนวคิดนี้ไปใช้ในด้านอื่นๆ เพื่อปรับปรุงให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น

161012-smarthome-2

จนกระทั่งปี 1999 คอนเซ็ปต์ Internet of Things ก็ใกล้ความเป็นจริงที่สุด เมื่อ Kevin Ashton นักคิดค้นชาวอังกฤษวัย 48 ปี ที่ได้แนะนำให้โลกได้รู้จักกับระบบ RFID (Radio-frequency identification) ผ่าน Auto-ID Center project ในมหาวิทยาลัย MIT ด้วยแนวคิดว่า ถ้าเทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่อกันได้ และแยกแยะได้โดยอัตโนมัติว่าใครเป็นใคร คอมพิวเตอร์น่าจะสามารถตอบสนองสิ่งที่คนนั้นๆ ต้องการได้ โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลอะไรให้วุ่นวาย และเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปต่อยอดสู่ธุรกิจ การเกษตร การบริหารสิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล ไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์ต่างๆ จนทำให้ปัจจุบันพวกเรามีสารพัด Smart Products ที่เชื่อมต่อและสั่งงานได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Smartphone apps หรือแม้แต่ Voice Command ซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในยุคปัจจุบัน

 

161114-apsmarthome-1

Internet of Thing is the next big Thing

เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ Smart Home ผ่านหูผ่านตามาบ้าง ตัวอย่างนึงที่เราชอบเป็นพิเศษก็คือ J.A.R.V.I.S สมองกลประจำบ้าน Iron Man หรือแม้แต่ Mark Zuckerberg, Facebook CEO, ที่กำลังสร้างบ้านอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยสมองกล พร้อมระบบ Voice and Face Recognition นอกจากจะจำเสียงได้ ยังสามารถจำหน้า Mark ได้อีกด้วย ซึ่ง Mark ดูจะภูมิใจมากกับบ้านที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับโดยไม่ต้องแม้แต่ออกคำสั่ง และภรรยาของ Mark เองก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้เลยแม้แต่อย่างเดียว ช่างเป็นบ้านในฝันของชาวพ่อบ้านใจกล้าอย่างแท้จริง ซึ่งทั้ง 2 ตัวอย่างน่าจะสามารถอธิบายคอนเซ็ปต์ของ Smart Home ได้เห็นภาพอย่างง่ายที่สุด

161012-smarthome-3

ข้อดีของบ้านแบบ Home Automation หรือ Smart Home นั้นมีอยู่มากมาย ลองนึกภาพยุคก่อนมี Smartphone เราคงต้องแบกอุปกรณ์หลายอย่างติดตัวไปด้วย เช่นเครื่องคิดเลข ไฟฉาย เข็มทิศ เครื่องอัดเสียง เครื่องดูหนัง ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่เลขาส่วนตัว แต่ปัจจุบันเราสามารถสั่งงาน Siri ให้ทำหน้าที่แทนได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง ทีนี้ลองนึกภาพ Smart Home บ้านที่อุปกรณ์ทุกชิ้นเชื่อมต่อ สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา รู้ว่าเรากำลังทำอะไร และมันควรจะทำอะไรให้เรา เช่นเมื่อเรากลับถึงบ้าน ไฟในบ้านจะติดรอต้อนรับและให้แสงสว่างเพื่อความปลอดภัย แอร์ในบ้านก็จะทำงานเพื่อให้ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมก่อนที่เราจะเดินเข้าไปถึง เมื่อมีอะไรแปลกปลอม ระบบความปลอดภัยก็จะส่ง notification แจ้งให้เรารู้ พร้อมบันทึกภาพหรือแม้แต่แจ้งตำรวจให้ทันทีแม้ตัวเราจะไม่ได้อยู่ในบ้านก็ตาม

161012-smarthome-4

Smart Home ไม่ใช่สิ่งที่ใหม่แปลกตาในต่างประเทศ แต่สำหรับในบ้านเราต้องยอมรับว่ายังเป็นของใหม่ ซึ่งแม้จะมีบริษัทรับติดตั้งระบบ Smart Home เพิ่มเติมในบ้านให้เห็นมากขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องที่เจ้าของบ้านต้องกังวลใจอยู่ไม่น้อย เช่นการรื้อเจาะบ้านเพื่อไล่ติดตั้งระบบไฟ หรือความเสถียรของระบบ ซึ่งแตกต่างจากโครงการหมู่บ้านที่สร้างขึ้นมาพร้อมระบบ IoT ให้เป็น Smart Home ตั้งแต่แรก ด้วยข้อได้เปรียบในด้านความอุ่นใจว่ามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมตั้งแต่ต้น และล่าสุดจากการหาข้อมูลก็พบว่ามีโครงการ “บ้านกลางเมือง CLASSE” ของ AP ที่เป็น Digital Community โครงการบ้านอัจฉริยะแบบครบวงจรครั้งแรกในประเทศไทย

161114-apsmarthome-5

บ้านกลางเมือง CLASSE เป็นบ้านสุดหรูระดับ Super Luxury Villa 3 ชั้น ที่นำแนวคิดและนวัตกรรม Internet of Things ขั้น Advance มาใช้ในงานออกแบบที่อยู่อาศัย โดยมีการใช้ระบบสมองกลอัจฉริยะควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้น ความพิเศษคือการทำงานของเทคโนโลยีที่ไม่ได้รองรับแค่ภายในบ้านเท่านั้น บ้านกลางเมือง CLASSE ออกแบบภายใต้แนวคิด Digital Community ที่นำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวกสบายได้ทั้งภายในบ้านและส่วนกลาง

161114-apsmarthome-6

นอกจากความฉลาดของ Smart Home บ้านกลางเมือง CLASSE ยังมีดีไซน์การออกแบบที่น่าสนใจ ด้วยนวัตกรรม Multiverse Layouts ที่เน้นพื้นที่การใช้งานในบ้านแบบเต็มที่ แต่ก็ยังมีการเล่นมิติของบ้านให้โปล่งโล่งสบายได้ รวมถึง Facilities แบบ Wellness Pavilion ที่กว้างใหญ่กว่า 400 ตารางวา นับว่าเป็นอีกจุดเด่นที่น่าสนใจ

161114-apsmarthome-7

บ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัย – รามอินทรา Super Luxury Villa 3 ชั้น ราคาเริ่มต้นหลังละ 25 ล้านบาท ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง โดยโครงการจะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายนนี้ สำหรับชาว UNLOCKMEN ที่มองหาบ้านสุดหรูแถมยังฉลาด แนะนำให้เข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลและสิทธิพิเศษได้ที่ https://goo.gl/dlx7sU หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.Facebook.com/APthai งานนี้ใครได้ครอบครอง ต้องบอกว่าความเท่พุ่งขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

161114-apsmarthome-8

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line