Entertainment

JAPANESE RAINY MOVIES: 5 หนังรักเปียกปอนชุ่มฉ่ำที่เหมาะกับวันฝนพรำ

By: unlockmen May 15, 2019

เมื่อพลิกปฏิทินอำลาแสงแดดแห่งฤดูร้อน ก็เตรียมรับมือกับละอองน้ำและความเปียกปอนของฤดูฝนกันได้เลย ความพยายามที่จะสาดแสงลงกระทบพื้นโลกของพระอาทิตย์ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะกลุ่มเมฆฝนดำครึ้มกำลังเข้ามาแทนที่

เราเชื่อว่าฤดูฝนคงมาพร้อมกับความรู้สึกนับไม่ถ้วนที่ซัดกระหน่ำเข้ากลางอกซ้ายของผู้ชายหลาย ๆ คน แม้ฝนจะเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์จากธรรมชาติ แต่มันก็เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับความรู้สึกของคนเราอย่างบอกไม่ถูก จึงไม่แปลกถ้าสายฝนจะทำให้บางคนสดชื่นและสบายใจทุกครั้งที่เห็น และก็ไม่แปลกที่ฝนจะทำให้คนซึมซาบความเปลี่ยวเหงาและเศร้ายิ่งกว่าเดิม

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำ 5 ภาพยนตร์รักฤดูฝนจากญี่ปุ่น ที่เมื่อวนกลับมายังฤดูนี้ทีไร ก็ต้องหยิบหนังพวกนี้มาดูใหม่ทุกที

MY RAINY DAYS (Tenshi no Koi), 2009

ภาพยนตร์รักโรแมนติกที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายในมือถืออันโด่งดังของญี่ปุ่น MY RAINY DAYS บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเด็กสาวสุดป๊อปวัย 17 ในโรงเรียนที่หน้าตาสวนทางกับการกระทำ เธอใช้ชีวิตไปอย่างไร้จุดหมาย ขายตัว เป็นแม่เล้า และหลอกใช้เพื่อนเพื่อผลประโยชน์ของตน

แต่แล้วสายฝนและโชคชะตาก็พาเธอมาพบกับอาจารย์หนุ่มวัย 35 ความรักทำให้เด็กสาวเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอเลิกทำตัวไร้ค่าและเห็นเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น พวกเขาทั้งคู่ได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันและแน่นอนว่าตกหลุมรักกันไปโดยปริยาย

ไม่นานนักอาจารย์หนุ่มก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนเด็กสาวมารู้ทีหลังว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งสมอง และต้องลาจากโลกนี้ไปหากไม่ได้รับการผ่าตัด เด็กสาวพยายามโน้มน้าวให้เขาเข้ารับการรักษา แม้หนทางรอดจะมีเพียงน้อยนิด และแม้ต้องแลกมากับการที่เขาจะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตัวเธอไป ความหวัง ความรัก และปาฏิหาริย์ จะทำให้อาจารย์หนุ่มรอดจากการผ่าตัดได้หรือไม่

 

BE WITH YOU (Ima, Ai Ni Yukimasu), 2004

“ถ้าฉันตายไป ปีหน้าในวันที่ฝนตก เราจะได้พบกันอีก” จากคำมั่นสัญญาของมิโอะที่มีต่อสามีและลูกชาย สู่ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจริงในฤดูฝน BE WITH YOU ภาพยนตร์อบอุ่นอีกหนึ่งเรื่องที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมทั่วโลกไปได้อย่างถล่มทลาย และทำรายได้สูงถึง 48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวที่ฟื้นคืนจากความตาย เธอกลับมาหาสามีและลูกในฤดูฝนตามคำสัญญา ทว่าไร้ซึ่งความทรงจำใด ๆ

ความรักยาวนานของหนุ่มสาวที่บ่มเพาะตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัยและสายสัมพันธ์ครอบครัวที่ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด มีเวลาเหลือเพียง 6 สัปดาห์ที่ครอบครัวนี้จะได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า ชายหนุ่มกาปฏิทินนั่งนับวันที่แฟนสาวจะจากไปอีกครั้ง ส่วนลูกชายก็ห้อยตุ๊กตาไล่ฝนกลับหัว เพื่อหวังให้ฤดูที่เฉอะแฉะนี้ดำเนินต่อไป

พวกเขาทั้งสามได้ใช้เวลาร่วมกันก่อนมิโอจะจากไปในวันที่ฝนหยดสุดท้ายกระทบลงพื้นดิน แล้วปาฏิหาริย์รักครั้งที่สองจะเกิดขึ้นหรือเปล่า พวกเขาจะยังได้อยู่ด้วยกันต่อไปหรือความตายจะพรากพวกเขาให้จากกันตลอดกาล

 

RAINBOW SONG (Niji No Megami), 2006

เชื่อว่าหนุ่ม ๆ คงเคยตกหลุมรักเพื่อนสนิทกันมาบ้าง และความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอึดอัดคงถาโถมเข้ามาเต็ม ๆ อยากจะสารภาพรักแต่ก็กลัวว่าความสัมพันธ์ฉันเพื่อนจะแปรเปลี่ยน เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เล่าเรื่องราวของสองนักศึกษาเพื่อนซี้โทโมยะและอาโออิ

พวกเขาบังเอิญเจอกันและพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นเพื่อนสนิทได้อย่างรวดเร็ว แม้โทโมยะจะแอบชอบอาโออิ แต่ก็พยายามรักษาระยะห่างไม่ให้ใกล้เกินคำว่าเพื่อน ถึงเพื่อนคนอื่นจะรู้ดีว่าพวกเขาทั้งคู่รู้สึกยังไงต่อกัน

เมื่อเรียนจบโทโมยะทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ ในขณะที่อาโออิย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย แต่ความรักที่สดใสแบบ poppy love ของโทโมยะเริ่มหม่นหมอง เพราะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับอิโออิ เธอได้รับอุบัติเหตุจากเครื่องบินตกจนถึงแก่ชีวิต

ความเศร้าที่ต้องเดินทางไปงานศพของเพื่อนที่แอบรัก คงหนักอึ้งพอ ๆ กับพายุฝนที่พัดกระหน่ำกลางงานของเธอ โทโมยะจะทำใจกับการจากลาครั้งนี้ได้หรือไม่ แล้วความรู้สึกที่เปี่ยมล้นจะส่งไปถึงอาโออิผู้ล่วงลับได้หรือเปล่า

 

AFTER THE RAIN (Koi Wa Ameagari No You Ni), 2018

จากแอนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่นสู่โรแมนติกคอมเมดี้จอเงินที่ใช้คนแสดงจริง ด้วยฝีมือการกำกับของอากิระ นากาอิ (Akira Nagai) ผู้กำกับหนุ่มมือฉมังที่เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์ขวัญใจทาสแมวอย่าง ‘IF CATS DISAPPEARED FROM THE WORLD’ แต่คราวนี้เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องแมว หากแต่เป็นเรื่องราวความรักต่างวัยที่ผูกโยงกับความฝันของคนสองคน

AFTER THE RAIN ถ่ายทอดชีวิตนักกีฬาสาวมัธยมปลาย ที่เป็นนักวิ่งดาวรุ่งเจ้าของสถิติที่ดีที่สุดในระดับชั้น เธอได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและต้องล้มเลิกความฝันในการเป็นนักกรีฑาไป ท่ามกลางจังหวะชีวิตที่ดูเหมือนจะเล่นตลกและสิ้นหวัง เธอได้พบกับผู้จัดการร้านอาหารพ่อม่ายลูกติดวัย 45 ปี แล้วอะไรไม่รู้ที่ดลใจให้เธอสมัครเข้าเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ของที่นี่

จุดเริ่มต้นความรักของสาววัย 17 ที่ทิ้งความฝันและชายวัย 45 ที่ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วนจึงได้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางฤดูฝน พวกเขาทั้งคู่ช่วยกันพัฒนาความสัมพันธ์และพัฒนากันและกัน แม้ต้องละทิ้งความฝันด้วยอุปสรรคและความจำเป็นบางอย่าง แต่สุดท้ายความฝันก็จะดึงเรากลับมาหามันอยู่ดี เรื่องราวความรักต่างวัยจะจบลงอย่างไรและปมปัญหาในชีวิตของพวกเขาจะคลี่คลายได้หรือไม่

 

THE GARDEN OF WORDS (Kotonoha No Niwa), 2013

ภาพยนตร์แอนิเมชันความยาว 46 นาที ที่พูดถึงทาคาโอะเด็กหนุ่มมัธยมปลายผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นช่างทำรองเท้าสตรี เขาโดดเรียนไปนั่งสเก็ตแบบรองเท้าที่ศาลาเล็ก ๆ ในสวนสาธารณะ ซึ่งที่นั่นก็มียูการิ หญิงวัยกลางคนที่หนีจากงานมานั่งจิบเบียร์แกล้มช็อกโกแลตอยู่เหมือนกัน ด้วยบรรยากาศของสายฝนที่เปียกปอนและบทสนทนาที่ยังไม่มีใครเริ่ม ไม่นานนักทั้งคู่ก็เริ่มทำความรู้จักกัน

ยูการิเล่าให้ทาคาโอะฟังแทบทุกเรื่องที่เขาอยากรู้ เว้นก็แต่เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเธอ สำหรับทาคาโอะยูการิเป็นเหมือนกุญแจที่ไขความลับทั้งหมดบนโลกใบนี้ แล้วก่อนที่เธอจะไปเธอก็ทิ้งท้ายประโยคชวนสงสัยไว้ว่า “ถ้าฝนตก…ฉันอยากรู้ว่าเธอจะอยู่เคียงข้างฉันที่นี่ไหม”

หลังจากปิดเทอมฤดูร้อนจบลงทาคาโอะก็เจอกับยูการิอีกครั้ง แต่ที่ที่พวกเขาเจอกันกลับไม่ใช่ศาลาเล็กหลังเดิม หากแต่เป็นที่โรงเรียนของทาคาโอะ เขามารู้ทีหลังจากปากของเพื่อนสนิทว่าจริง ๆ แล้วยูการิเป็นครูสอนวรรณกรรมที่โรงเรียน เธอมีปัญหากับนักเรียนหญิง และมักจะถูกนินทาว่าร้ายและถูกรังแกอยู่เสมอ วินาทีที่ทาคาโอะมาเจอกับยูการิอีกครั้ง ก็เป็นตอนที่เธอตัดสินใจจะลาออกจากการเป็นครูและบอกลาโรงเรียนนี้ไป เมื่อฤดูฝนผ่านไป พวกเขาทั้งคู่จะได้เจอกันอีกครั้งหรือไม่ แล้วบททดสอบความสัมพันธ์ของพวกเขาจะจบลงอย่างไร

ฝน เข้ามาเป็นสัญญะสำคัญของภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง บางทีก็เป็นอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟัน บ้างก็เป็นจุดเริ่มของปาฏิหาริย์รัก หรือไม่ก็เป็นเพียงส่วนประกอบของฉากรักโรแมนติกบางฉากเท่านั้น แม้พายุฝนจะโหมกระหน่ำมากแค่ไหน แต่อีกไม่นานมันก็จะผ่านไป เราคงต้องขอบคุณฝนซะด้วยซ้ำ เพราะหลังจากที่ฝนตกอาจมีสายรุ้งสวย ๆ ให้เรายืนดูอย่างสบายใจก็ได้

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line