Entertainment

ปิดตำนาน Kings of Oscar เมื่อ Daniel Day Lewis ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการมายาถาวร

By: Thada June 23, 2017

เป็นข่าวน่าเศร้าสำหรับวงการมายาต่างประเทศ รวมถึงทั่วโลก เนื่องจากนักแสดงมากความสามารถที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคอย่าง Daniel Day  Lewis เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาดารานำชายถึง 3 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้ ออกมาประกาศลาขาด เตรียมหันหลังให้กับวงการจอเงินเป็นที่เรียบร้อย

ข่าวนี้สร้างความช็อคให้กับวงการฮอลลีวู้ดพอสมควรเนื่องจากอายุอานามของเขาก็ยังไม่ได้มากถึงขนาดต้องออกจากวงการ เพราะ Daniel Day Lewis เพิ่งจะอายุได้เพียง 60 ปีเท่านั้น ยังสามารถเลือกบทนำดี ๆ เพื่อสานต่อความสำเร็จต่อไปได้ไม่ยาก นับว่าเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงสำหรับคอหนังที่หลังจากนี้คงไม่มีโอกาสรับชมผลงานใหม่ ๆ จากฝีมือขั้นเทพของเขาอีกแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการสรรเสริญเชิดชูผลงานของ Daniel Day Lewis ที่ผ่านมา วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำเรื่องราวของเขามาฝากกัน

หากเราพูดถึง Daniel Day Lewis สำหรับคอหนังที่ไม่ใช่สายดูหนังรางวัลอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อสักเท่าไหร่ เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องความติสท์แตก โดยเขาจะใช้ความพิถีพิถันในการเลือกบทบาทสักเรื่องเพื่อมาทำการแสดง ทำให้เราจะไม่ค่อยเห็นหน้าตาของเขาสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับดาราคนอื่น ๆ ที่รุ่นราวคราวเดียวกัน 

ก่อนอื่นเลย เราอยากจะย้อนเรื่องราวความเป็นมาของเขาเสียก่อน ตัวของ Daniel เริ่มต้นในแวดวงการแสดงด้วยการรับบทเล็ก ๆ ทางโทรทัศน์ และละครเวที ก่อนที่จะขยับขยายขึ้นสู่จอเงินเป็นครั้งแรกในปี 1985 กับบทบาทชายรักร่วมเพศในเรื่อง My Beautiful Laundrette และอีกหนึ่งเรื่องในปีเดียวกันอย่าง A Room With a View ซึ่งผลงานในช่วงแรกเป็นเหมือนบทเรียนให้เขาได้ฝึกฝนทักษะการแสดงเพื่อรอวันเฉิดฉาย

ด้วยพรสววรค์บวกการทำงานอย่างหนัก Daniel Day Lewis ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เพราะผ่านมาเพียงแค่ 4 ปี กับภาพยนตร์ 5 เรื่อง เขาก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกมานอนกอดได้สำเร็จ จากการรับบทเป็นชายพิการทางสมองในเรื่อง My Left Foot ที่ปีนั้นมีตัวเก็งอย่าง Tom Cruise จาก Born on the Fourth of july และ Robin Williams จาก Dead Poet Society เป็นคู่แข่ง

การแสดงของเขาเรียกได้ว่าเป็นที่หมายปองของเหล่าผู้กำกับ เพราะ Daniel Day Lewis สามารถพลิกบทบาทคาแรกเตอร์ได้แทบทุกชนิดตามสั่ง พอถึงหนังเรื่องต่อ ๆ ไป เขาก็จะละทิ้งบทบาทเก่าและสวมรอยเป็นตัวละครใหม่ได้ทันที

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ต่อมาจะไม่ได้รับรางวัลอะไรก็ตาม แต่สำหรับแฟนหนัง ผลงานของ Daniel ถูกยกไว้เป็นหนังขึ้นหิ้งแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น In The Name of The Father ก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขาดารานำชายแต่ชวดไป หรือแม้กระทั่งบทนักรบชนเผ่าใน The Last Mohicans  ที่แม้จะไม่ได้รับรางวัลการันตีจากสำนักใด ๆ ก็ตาม แต่ผู้ชมทั้งหลายต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าฝีมือการแสดงของ Daniel ยังคงท็อปฟอร์ม สามารถตีบทแตกกระจุยกระจาย

หลังจากโลดเล่นสร้างชื่อเสียงในวงการมายามาได้สักระยะ ความติสท์ของ Daniel Day Lewis ก็เริ่มบังเกิด ในขณะที่หลายคนต้องการตัว และมีบทหนังดีเสนอเข้ามาอย่างมากมาย Daniel กลับเลือกที่จะย้ายไปอยู่อิตาลีเพื่อเป็นช่างทำรองเท้าซะอย่างนั้น

ระหว่างที่ติสท์แตกอยู่ที่อิตาลี ผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Martin Scorsese ได้พยายามจะดึงตัวเขากลับมาเล่นหนังอีกหลายรอบ ซึ่งเขาก็ปฎิเสธไป จนในที่สุดเมื่อ Leonardo Dicaprio ของพวกเราไปอ้อนวอนอีกครั้ง Daniel Day Lewis จึงยอมหวนกลับสู่จอเงินในเรื่อง Gang of New York ซึ่งแม้จะร้างจอไปนาน แต่การแสดงของเขาก็ไม่ได้สนิมเกาะเลย เพราะ Gang of New York  ส่งให้มีชื่อเขาเข้าชิงออสการ์อีกครั้ง แต่ต้องชวดให้กับ Adrien Brody จาก The Pianist ไป

แม้จะอกหักไปสำหรับครั้งนี้ ก็ยังคงมีผลงานออกมาอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไป 5 ปีนับจากการหวนเข้าสู่วงการ Daniel Day Lewis ก็สามารถพาตัวเองไปคว้าออสการ์ตัวที่สองจากภาพยนตร์เรื่อง There will be blood มาจนได้

มีการเปิดเผยจากวงในว่าเหตุผลที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นผลงานเขาก็เพราะ Daniel เป็นคนที่ค่อนข้างใช้เวลาในการเลือกบทนาน และเมื่อเจอบทที่ถูกใจแล้ว เขาจะดำดิ่งลงไปศึกษาตัวละคร ซึ่งบางครั้งกินเวลานานร่วมปี อาทิ ครั้งหนึ่งที่เขาต้องรับบทนักโทษผู้บริสุทธิ์ใน In The Name of Father ตัวของ Daniel Day Lewis ลงทุนไปนอนคุกจริง เพื่อจะได้เข้าใจตัวละครนั้นอย่างถ่องแท้ หรือจะเป็นตอนที่ Steven Spielberg เสนอบท Lincoln ให้ Daniel Day Lewis ขอเวลาหนึ่งปีในการค้นคว้าศึกษาตัวละครด้วยตนเอง และจากการทำงานหนักในครั้งนี้ทำให้ไม่น่าแปลกใจ หากเขาได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่สามจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปครอง

หลังจากภาพยนตร์ Lincoln ตัวของ Daniel Day Lewis ใช้เวลาอีก 5 ปีกว่าจะตกลงรับบทนำภาพยนตร์อีกครั้ง นั่นคือเรื่อง Phantom Thread  ซึ่งภายหลังจากการถ่ายทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยตัวของ Daniel ได้ให้ผู้ดูแลออกมาประกาศว่าภาพยนตร์เรื่อง Phantom Thread จะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเขา และหลังจากนั้นจะขอยุติ หันหลังวงการภาพยนตร์ โดยในแถลงการณ์กล่าวว่า

“Daniel Day Lewis จะเลิกทำงานด้านการแสดงแล้ว เขารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเพื่อนร่วมงานและผู้ชมเป็นอย่างยิ่งตลอดเวลาหลายปีมานี้ นี่เป็นการตัดสินใจส่วนตัว เขาหรือตัวแทนของเขาจะไม่แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้”

Daniel Day Lewis ไม่เปิดเผยถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกประกาศอำลาวงการ แต่ข่าวแว่ว ๆ มาว่า เขาจะกลับไปทำกิจการรองเท้าต่อ เรียกว่าอินดี้ตัวพ่อของจริง

โดยสรุปรวมผลงานการแสดงตั้งแต่ปี 1971 – 2017 จำนวน 22 เรื่อง Daniel Day Lewis กวาดรางวัลไปมากมายอันได้แก่ รางวัลนำชายออสการ์ 3 ครั้ง, รางวัลนำชาย Bafta 4 ครั้ง, รางวัลนำชายลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง ถือว่าเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line