Entertainment

ปลดล็อกคำว่าศักดิ์ศรีและวิถีลูกผู้ชาย ผ่านเรื่องราวของตัวเอกมังงะนักเรียนนักเลงสุดมันส์

By: unlockmen February 9, 2022

มังงะญี่ปุ่น เป็นวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ผู้ชายอย่างเราได้เรียนรู้ความเป็นลูกผู้ชายจากการ์ตูนสไตล์ High school delinquent manga หรือนักเรียนนักเลงสายต่อยตี แย่งชิงความเป็นที่หนึ่งในญี่ปุ่นมามากมายนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กยันโต ภายใต้ความรุนแรงนั้น ก็มีเรื่องของศักดิ์ศรี ความเป็นผู้นำ ความรักพวกพ้อง ที่ล้วนแลกมาด้วยกำปั้น บาดแผล และน้ำตา สิ่งที่ปัจจุบันแถบจะหาในชีวิตจริงไม่ได้

วันนี้เราจึงขอหยิบตัวละครบางตัวที่เราชอบมากที่สุด มาตีแผ่ความเป็นลูกผู้ชายที่เราสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง จากมังงะนักเรียนนักเลงโคตรมันส์ระดับคลาสสิคที่หยิบมาเมื่อไหร่ก็อ่านได้ยาว ๆ ทุกครั้ง

 

BOUYA HARUMICHI – CROWS 

“Crows” หรือชื่อภาษาไทยว่า “เรียกข้าว่าอีกา” มังงะแนวโชเน็นที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนถูกต่อยอดไปอีกภาค ไม่ว่าจะเป็น “Worst” เรื่องย่อยที่เจาะตัวละครอย่าง “Linda Man”  รวมไปถึงต่อยอดเป็นภาพยนตร์ Live Action และซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้มังงะเลยแม้แต่น้อย

“โบยะ ฮารุมิจิ” เด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาสู่โรงเรียนซูซูรันกลางคัน โรงเรียนอีกาที่ไม่เน้นเรื่องเรียน แต่พากเพียรเรื่องต่อยตี มันเปรียบเสมือนการเข้าสู่สมรภูมิแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของโบยะ เพราะเขาเริ่มปะทะเบา ๆ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียนจนถูกพักการเรียน หลังจากนั้นสหะบาทาก็พุ่งเข้าหาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน แต่ก็ไม่มีใครหยุดยั้งความเก่งกาจของโบยะลงได้ ทำให้เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แบบไม่เป็นทางการของซูซูรันซึ่งไม่เคยมีใครทำได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งเมืองมีเพียงรินดาแมนเท่านั้นที่โบยะไม่สามารถก้าวผ่านได้

ความเคารพ เป็นสิ่งที่ต้องสร้างให้คนรอบข้างเห็น ไม่ใช่บีบบังคับ

โบยะ ฮารุมิจิ เป็นตัวละครที่มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่ใครได้อยู่ใกล้ก็ต้องหลงรัก ตัวโบยะไม่ได้ต้องการขึ้นเป็นผู้นำของซูซูรัน หรือคุมแก๊งเพื่อสั่งลูกน้องแบบหัวหน้าบ้าอำนาจทั่วไป

ภายใต้การแสดงออกที่ดูไร้สาระ แต่ข้างในเต็มไปด้วยความเอาจริงเอาจังที่ไม่เคยยอมแพ้ของโบยะ คือแข็งแกร่งที่เป็นของจริง ไม่เคยอวดเบ่งวางก้าม พร้อมช่วยเพื่อนหากโดนทำร้าย คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนยอมรับในตัวของเขา ต่างยกให้เป็นหัวหน้าอย่างหมดใจ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน หากรู้ว่ามีโบยะมาช่วย ทุกคนจะรู้สึกมั่นใจว่าภารกิจนั้นต้องสำเร็จได้อย่างแน่นอน

อีกจุดเด่นคือโบยะไม่เคยเจ้าคิดเจ้าแค้นใคร ศัตรูในอดีตล้วนกลับมาเป็นมิตรได้หมด จนสามารถสร้างมิตรภาพให้แก๊งต่าง ๆ ทั้ง Hosen, Busho Sensen, Kurotaki Alliance อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

หากใครมีลักษณะนิสัยอย่าง โบยะ ฮารุมิจิ รับรองว่าจะเป็นที่รักของคนรอบข้าง และสามารถก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าคนที่ดีได้อย่างแน่นอน


TAISON MAEDA – ROKUDENASHI BLUES

ต้นแบบนักเรียนนักเลง ต้องยกให้ผู้ชายคนนี้ “มาเอดะ ไทซน” จาก จอมเก Blues จุดสูงสุดของมังงะแนวแยงกี้แห่งยุค 90’s ที่แท้จริง ผลงานของอาจารย์ Masanori Morita มีลายเส้นที่สวยงามดูสมจริง มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นไล่ตั้งแต่การบู๊, ตลก และดราม่า เชื่อว่าเด็กยุคนั้นน่าจะคุ้นชินกับการต้องตามซื้อ C-Kids นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์อ่านกัน เพราะบางคนก็ขี้เกียจรอการรวมเล่ม

ชื่อของตัวละครเอก “มาเอดะ ไทซน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการผสมระหว่างนักมวยปล้ำ Akira Maeda และนักมวย Mike Tyson ไทซนเป็นเด็กนักเรียนชั้นม.ปลาย ของโรงเรียนเทเคน มีความฝันว่าซักวันหนึ่งเขาจะได้ขึ้นเป็นแชมป์โลกของวงการมวยอาชีพ ทำให้ชีวิตของเขารักการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจ ได้ฝึกความสามารถจากการซ้อมมวยตามปกติ รวมไปถึงการปะทะฝีมือกับนักเรียนนักเลงทั้งบ้านตัวเองและขยายไปสู่เขตอื่น ๆ ของโตเกียว เพื่อแย่งชิงความเป็นที่ 1 ของ the 4 Heavenly Kings หรือ 4 จตุรเทพ

ยอมรับจุดอ่อน พ่ายแพ้แต่ไม่ยอมแพ้ ไม่หยุดพัฒนาฝีมือตัวเอง

มาเอดะ ไทซน มีคาแรคเตอร์ที่มีความเป็นลูกผู้ชายอย่างเต็มเปี่ยม รักพวกพ้อง รักความถูกต้อง มีน้ำใจนักกีฬา แข็งแกร่งแต่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสมอ มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาพัฒนาตัวเองจนขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของนักเรียนแยงกี้ คือการยอมรับความพ่ายแพ้ ไทซนไม่ใช่พระเอกประเภทรบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง เขาต้องพบกับความพ่ายแพ้นับครั้งไม่ถ้วน แพ้ Onizuka, แพ้ Yakushiji และแพ้ Kasai อย่างหมดรูป

แต่ทุกครั้ง ไทซน ก็กลับไปฝึกฝนฝีมือ หาไม้ตายใหม่ ๆ เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอ จนคนรอบข้างให้ความเคารพอย่างสุดหัวใจ นี่คือคุณสมบัติที่ลูกผู้ชายต้องมีในยุคที่การแข่งขันดุเดือด ในชีวิตจริงไม่มีทางที่เราจะทำสำเร็จเสมอไป เราพ่ายแพ้ได้ แต่เราต้องไม่ยอมแพ้


MIKEY – TOKYO REVENGERS

Manjiro Sano หรือ Mikey จาก Tokyo Revengers จากมังงะและอนิเมะยุคใหม่ที่ได้การตอบรับอย่างท่วมท้น เนื้อเรื่องที่แหวกแนวแตกต่างออกไปอย่างคาดไม่ถึง การเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดมาเป็นกิมมิคของเรื่องนี้ รวมไปถึงตัวละครต่าง ๆ ยังมีคาแรคเตอร์ที่โคตรเท่อย่างกับบอยแบนด์เลยทีเดียว

อย่าเก็บทุกปัญหาไว้กับตัว คิดถึงตัวเองบ้าง ขอความช่วยเหลือคนอื่นเมื่อจำเป็น

“มันจิโร่ ซาโนะ” หรือ “ไมค์กี้” หัวหน้า Tokyo Manji Gang นักเลงสุดแข็งแกร่ง ที่แคร์เพื่อนรอบข้างมากกว่าตัวเองแต่ไม่เคยแสดงอารมณ์หรือความอ่อนแอออกมา มีอะไรก็จะเก็บไว้ข้างใน พร้อมรับภาระหรือความเจ็บปวดเอาไว้คนเดียว จนคนรอบข้างลืมไปว่าตัวไมค์กี้นั้นก็ยังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นคนนึง ที่ไม่ว่าพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่อาจช่วยเพื่อนทุกคนได้ จึงถูกชักจูงได้ง่ายจากคนรอบข้างจนกระทั่งก้าวเข้าไปอยู่ในโลกแห่งอาชญากรรม แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะต้องการล้างแค้นให้เพื่อนที่ถูกทำร้าย จะมีก็เพียง Takemichi ที่หวังจะช่วยไมค์กี้ให้กลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง

การเป็นลูกผู้ชาย ไม่ได้แปลว่าต้องห้ามร้องไห้หรือแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น หากเรามีปัญหาหนักใจที่ต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ก็อย่ากลัวที่จะถามหาคำปรึกษา เพราะการเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง อาจจะทำให้เราเครียดเกินไป หรืออาจตัดสินใจอะไรผิดพลาดได้


NANBA TSUYOSHI – NANBA MG5

เป็นแยงกี้ที่มีโลกสองใบชวนให้ปวดหัว Nanba Tsuyoshi ลูกชายคนกลางของบ้านครอบครัวแยงกี้ระดับตำนาน พ่อแม่เป็นสุดยอดแยงกี้แห่งยุค พี่ชายเป็นแยงกี้สุดแกร่งที่คุมโรงเรียนมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ตัว Nanba เองกลับเลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป เมื่อมีอาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำจนกระทั่งเห็นคุณค่าของตัวเอง ตัดสินใจทำตามใจตัวเองพร้อม ๆ กับรักษาความคาดหวังของครอบครัว กลายเป็นแยงกี้ที่เข้าโรงเรียนใช้ชีวิตธรรมดา พร้อม ๆ พกชุดประจัญบานลุยปราบแยงกี้ในหลายจังหวัดกับเพื่อน ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะต้องแบกความหนักใจจากการโกหกทุกคนรอบตัว ทั้งครอบครัว เพื่อนนักเรียน รวมถึงอาจารย์ในโรงเรียนก็ตามที

จงซื่อสัตย์กับความต้องการของตัวเอง

แม้ซึโยชิ นันมะ จะสามารถรักษาโลกสองใบไว้ได้ยาวนานกว่าที่คิด แต่ก็ต้องแบกความหนักใจเอาไว้ตลอดเวลา และสุดท้ายเมื่อความแตก คนที่เสียใจไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่เป็นทุกคนรอบข้าง ดังนั้นหากเราจะเรียนรู้อะไรจากพระเอกแยงกี้คนนี้ ก็คือการซื่อสัตย์กับความต้องการของตัวเอง

โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องแบกหามความคาดหวังจากพ่อแม่ จากครอบครัว จากหัวหน้า การโดนสั่งให้เป็นหรือทำอะไรที่ตัวเราไม่อยากเป็น แทนที่จะเก็บกดและโกหกว่าตัวเราโอเค การพูดออกไปตรง ๆ แล้วหาทางแก้ปัญหา น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าในระยะยาวแน่นอนครับ

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line