SEAMLESS LIFE : ไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นกว่าเดิม

Steve Jobs เคยกล่าวเอาไว้ว่า “My favorite things in life don’t cost any money, It’s really clear that the most precious resource we all have is TIME”  สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อคือ “เวลา” แต่น่าเสียดายที่พวกเราต่างมีเวลาจำกัดแค่ 24 ชั่วโมงใน 1 วันเท่ากัน  ต่างคนก็มีวิธีบริหารเวลาในชีวิตแตกต่างกันไป ซึ่งการใช้ชีวิตที่เรียกได้ว่าพอดีนั้น ต้องสามารถบาลานซ์เวลาทำงาน เวลาสำหรับครอบครัวและคนใกล้ชิด เวลาส่วนตัว และเวลาพักผ่อนให้มีประสิทธิภาพ หรือที่เรียกว่า Work-Life Balance นั่นเอง

ในขณะที่เวลาแต่ละวันมีอย่างจำกัด ชีวิตคนส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการเดินทางบนถนน ทุกวันเราต้องตื่นแต่เช้า เผื่อเวลาสำหรับเตรียมตัวเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน ต้องแข่งกันไปถึงที่หมายให้ทันเวลา มีสถิติที่น่าสนใจอยู่ว่า พวกเราใช้เวลาเดินทางขับรถไปกลับระหว่างบ้านและที่ทำงานโดยเฉลี่ย 3 ชั่วโมงต่อวัน ที่ความเร็วรถยนต์เฉลี่ย 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 36% ของเวลาที่ใช้เดินทางเสียไปกับการหยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อเวลาเหลือน้อย เราก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้ นำมาสู่เป็นสาเหตุหลักของโรคเครียดสะสม ซึ่งคงจะดีกว่าถ้าเราสามารถใช้เวลาที่เสียไปเหล่านั้นในการพักผ่อน กินข้าว ดูหนัง ออกกำลังกาย หรือนั่งชิวพูดคุยกับคนรู้ใจ ในขณะที่ยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวดีคือ ปัญหาสากลของคนเมืองที่เราพูดถึงอยู่นี้ เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ และกำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นั่นคือการใช้ชีวิตแบบ Seamless Life การใช้ชีวิตที่เราสามารถกำหนดเองได้ หัวใจของมันคือการลุกขึ้นมาทำความเข้าใจปัญหา เรียงลำดับความสำคัญของปัญหาที่ต้องแก้ไข จากนั้นจึงลงมือหาทางออกให้กับปัญหานั้นๆ

เริ่มจากการระบุปัญหา เรารู้ว่าการเดินทางแย่งเวลาในแต่ละวันไปหมด ทำให้เราไม่มีเวลาสำหรับพักผ่อน ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสม ดังนั้นวิธีแก้ก็คือ การไปอยู่ในพื้นที่ ที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการจราจรที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ล้อมรอบด้วยไลฟ์สไตล์ที่เราต้องการ เดินทางสะดวก มีของกินมากมายหลายสัญชาติ มีสถานที่ออกกำลังกาย และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่รองรับ

จากที่เราได้ทดลองใช้ชีวิตในพื้นที่หลายๆแห่ง พื้นที่ที่ตอบโจทย์ Seamless Life ที่เราเทคะแนนให้สูงสุดคือ ถนนสุขุมวิท และถ้าให้เจาะจงจุดศูนย์กลางของสุขุมวิทที่มีความพร้อมมากที่สุด คงต้องยกให้ย่านอโศก หรือซอยอโศกมนตรี ซอยที่อัดแน่นไปด้วยไลฟ์สไตล์และความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว ที่เรียกได้ว่าครบที่สุดในทุกด้านบนถนนสุขุมวิท ส่วนซอยที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย มีทั้งความร่มรื่น ความเป็นส่วนตัว และใช้ประโยชน์จากความสมบูรณ์ของถนนสุขุมวิทและซอยอโศกได้เต็มที่ คงต้องยกให้ สุขุมวิท 19

ลองจินตนาการภาพการเดินทางตอนเช้าแบบไม่ใช้รถยนต์ ที่นี่มีรถไฟฟ้าที่เป็น Interchange Station เลือกได้ทั้ง BTS และ MRT ครอบคลุมตั้งแต่ปากซอยสุขุมวิท 19, Terminal 21, สุขุมวิท 21 (ซอยอโศก) และ Exchange Tower ฝั่งถนนรัชดาภิเษก เผื่อเวลาแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถไปถึงที่ทำงานใน CBD Area อย่างเพลินจิต สยาม สาทร หรือสีลมได้ทันที

ในวันที่ต้องใช้รถยนต์ การเดินทางบนถนนก็สามารถเลือกวางแผนได้ง่าย เพราะสามารถลัดเลาะเข้าออกได้หลายทาง เช่น จากซอยสุขุมวิท 19 สามารถทะลุสุขุมวิท 13, 15, อโศก (21) ตัดเข้าสุขุมวิทเลขคี่ได้ และยังเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอื่นๆ เช่นถนนรัชดาภิเษก และพระราม 4  ทางไหนรถติดก็มีทางหนีทีไล่ให้เลือกได้ สำหรับคนที่บินไปต่างประเทศบ่อยๆ ก็มี Airport Rail Link มักกะสันอยู่ใกล้ๆ กำหนดเวลาไปเช็คอินที่สนามบินได้โดยไม่ต้องเสี่ยงดวงกับการจราจรระหว่างทาง

เรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในบริเวณสุขุมวิท 19 นั้นเอื้อต่อการมี Healthy Lifestyle ทั้งเรื่องสุขภาพ อาหารการกิน ไปจนถึงแรงบันดาลใจอย่างครบถ้วน มีการผสมผสานสัดส่วนระหว่างธรรมชาติและความเป็นเมืองได้อย่างลงตัว

เริ่มจากแรงบันดาลใจ มีผลวิจัยยืนยันจากหลายสถาบันว่ากาเฟอีนในกาแฟเป็นเหมือน Brain Booster ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถ้าการเริ่มวันด้วยกาแฟ หรือการนั่งคิดไอเดีย  นั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟเป็นไลฟ์สไตล์ที่คุณโปรดปราน ในย่านสุขุมวิท 19 นี้มีร้านกาแฟให้เลือกนั่งมากมาย

Chu ร้าน cafe’ บรรยากาศดี โปร่ง โล่ง สบาย สามารถเดินจากซอยสุขุมวิท 19 ทะลุเข้าผ่านทาง BTS ไปที่ตึก Exchange Tower ร้านที่คนทำงานบริเวณนั้นรู้จักกันดี เพราะนอกจากกาแฟและเครื่องดื่มแล้ว เชฟเต้ย จิรยุว์ ณ ระนอง ก็ยังมีเมนูอาหารและขนมอร่อยๆให้เลือกทานได้ตลอดทั้งวัน

Cafe Little Spoon ร้านกาแฟบรรยากาศอุ่นๆ ตกแต่งแบบ Minimal สไตล์ญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 19 เป็นที่รู้จักดีในหมู่สาวๆ มีเมนูขึ้นชื่อหลายอย่างโดยเฉพาะของหวานและเครื่องดื่มที่หลากหลาย และมักจะมีเมนูพิเศษๆเฉพาะเทศกาลออกมาบ่อยๆ

SIP N PLAY ร้านกาแฟที่เหมาะสำหรับการไปกับเพื่อนฝูง นอกจากกาแฟคุณภาพดี ที่นี่ยังมีสารพัดเกมให้เลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมจริงจังอย่าง Play Station 4 หรือ Board Game มากมาย เช่น Monopoly และอีกสารพัด

ร้านอาหารถือเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายคน การเดินหาของกินในย่านสุขุมวิท 19 ถือเป็นจุดเด่นที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของอาหารหลายสัญชาติ เรียกว่ามีให้เลือกครบ ถูกปากทั้งคนไทยและเพื่อนชาวต่างชาติ อิ่มอร่อยแบบ เดินถึงได้สบายๆ

El Gaucho Argentinian Steakhouse ร้านสเต็กชื่อดังที่มีสาขาในหลายประเทศ เดินเข้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 19 อยู่ติดกับ Terminal 21 พอดี จุดเด่นของร้านนี้คือมีเนื้อชั้นดีหลากหลายเมนูให้เลือกรับประทาน รวมถึงบาร์บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ เพราะมีชาวต่างชาตินั่งเยอะเต็มเกือบทุกวัน

Chez Charlie  เดินเข้ามาในซอยสุขุมวิท 19 ไม่นานจะเจอร้านอาหารฝรั่งเศสที่เลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ ดีต่อสุขภาพ ฝีมือเชฟเอ๋ นฤมล จิตมั่นคง ดีกรี Le Cordon Bleu เมนูที่เราแนะนำให้ลองคือ Sandwiches Baguette มากมายหลายชนิด และเครื่องดื่ม Signature หลายเมนูที่ให้ความรู้สึกสดชื่นได้อย่างดีเยี่ยม

เข้ามาอีกนิด เดินเลี้ยวขวาไปทะลุซอยอโศกก็เจอ Big Mama Pizzeria อาหารอิตาเลี่ยนดั้งเดิมบรรยากาศสนุกสนาน รสชาติอร่อย ร้านนี้มีเมนูเด็ดหลายอย่างตั้งแต่สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า, สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดกระเทียม, สลัดไก่ย่าง และ Ravioli Spinach

ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังกระจุกตัวอยู่ในบริเวณนี้มีเยอะมาก ที่เราชอบมากก็มี Shakariki 432 ร้านชื่อดังบรรยากาศสนุกสนานเหมือนอยู่ญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้ก็ยังมี Kenshin Izakaya, Izakaya Hanako เป็นต้น

ร้านอาหารไทยบรรยากาศดีก็มี The Local Thai Cuisine อยู่ในซอยสุขุมวิท 23 เป็นร้านอาหารไทยสงบๆที่เน้นการนำเสนออาหารพื้นบ้านแบบต้นตำรับจากทุกภาคทั่วประเทศ เหมาะจะมากับผู้ใหญ่หรือเพื่อนชาวต่างชาติ รับรองว่าต้องชอบแน่นอน

หรือจะเดินลัดเลาะขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงสุขุมวิท 11 ก็จะเจอ Korean Town มีร้านอาหารเกาหลีชื่อดังเรียงรายให้เลือก เช่น Arirang Korean Restaurant, Doorae Korean Restaurant, Jobang Nak Ji

เรื่องสถานที่แฮงเอาท์ในบริเวณนี้ ย่านอโศกมนตรีขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่มีสีสันไม่เคยหลับไหล จากสุขุมวิท 19 เดินไปทางไหนก็มีที่ให้นั่งชิวหลากหลายบรรยากาศ ถ้ามองหา Rooftop เดินไปซอย 15 จะมี Ambar ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม Four Points ด้านล่างของโรงแรมเดียวกันก็มี BeerVault สารพัดเบียร์ให้เลือกดื่ม หรือถ้าอยากนั่งดื่มในบรรยากาศชิวๆ เราแนะนำให้เดินทะลุอโศกเข้าซอย 23  ในนั้นมีร้านนั่งให้เลือกเยอะพอสมควร และที่เราอยากแนะนำอีกร้าน คือ Whisgars บรรยากาศดีๆ บนสวนสนามหญ้า Outdoor มีเครื่องดื่มและอาหารให้เลือกมากมาย

ด้านสุขภาพ บริเวณนี้มีฟิตเนสทั้งแบบคาร์ดิโอเช่น Fitness First ใน Terminal 21 หรือ GMM Fitness บนถนนอโศกมนตรี และแบบ CrossFit เช่น Aspire Club, CrossFit BK ที่อยู่บริเวณปากซอยอโศกเช่นกัน หรืออยากจะแค่วิ่งเบาๆหลังเลิกงานก็มีสวนสาธารณะร่มรื่นหลายแห่งเช่นสวนชูวิทย์ และสวนเบญจกิติ สำหรับคนชอบแนวผ่อนคลายก็มี Health Land อยู่ในซอยสุขุมวิท 19 อีกด้วย

ส่วนวันไหนอยากไปแบบที่เดียวจบ ก็เดินเข้า Terminal 21 ได้เลย ที่เดียวครบทุกสิ่งที่ทั้งกิน ดื่ม เที่ยว ดูหนัง ช้อปปิ้ง แฟชั่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และที่เจ๋งคือ Food Court ที่ราคาไม่แพงแต่รสชาติดีเยี่ยม

สถานที่และร้านทั้งหมดที่เราพูดถึงนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากซอยสุขุมวิท 19 สามารถเดินเท้าถึงได้สบาย เรียกว่าเป็นวงจร Ecosystem ที่สามารถอยู่ได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงอาทิตย์ ทั้งเวลาทำงานและพักผ่อนได้แบบไม่มีเบื่อ สามารถกำหนดชีวิตประจำวัน ทั้งการเดินทาง และการพักผ่อนสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ที่ต่อเนื่องได้ง่ายขึ้นเยอะ เป็นการใช้ชีวิตแบบ Seamless Life อย่างแท้จริง ถ้าไลฟ์สไตล์แบบนี้คือสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่ โครงการ Noble BE19 คอนโดใจกลางซอยสุขุมวิท 19 น่าจะเป็นคำตอบให้การใช้ชีวิตไร้รอยต่อของคุณได้อย่างแน่นอน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Noblehome.com