Entertainment

ถึงโลกจะร้าย แต่เราต้องรักตัวเอง ‘5 หนังปลุกพลังเพราะในความผุพังเรายังมีค่าเสมอ’

By: PSYCAT July 2, 2020

โลกไม่เคยใจดีกับเรา คนอื่นก็เช่นกัน หลายครั้งมีคนช่วยเหลือ แต่ก็หลายหนที่หันไปทางไหนจะพึ่งใครก็มืดหม่น หรือในบางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่เป็นดังใจ หน้าที่การงานไม่เป็นอย่างที่หวัง และคนทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในความย่ำแย่พอ ๆ กัน คนเดียวที่เหลืออยู่ให้พึ่งพิงได้ก็คือ “ตัวเราเอง”

การรักและใจดีกับตัวเองมาก ๆ โดยเฉพาะในวันที่หนทางเต็มไปด้วยอุปสรรค แม้จะไม่ง่าย แต่หากโลกทั้งใบใจร้ายกับเรา แล้วเรายังโบยตีตัวเอง โทษตัวเองซ้ำ ๆ แล้วจะเหลือพลังที่ไหนให้ลุกขึ้นสู้ต่อ? ดังนั้นแม้โลกใบนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ตราบใดที่ยังหายใจ มารักและให้กำลังใจตัวเองมาก ๆ เข้าไว้

ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นฝึกรักและปลุกพลังให้ตัวเองอย่างไร ลองเริ่มต้นด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนัง 5 เรื่องนี้

 

Little Miss Sunshine

ถ้าชีวิตคือการแข่งขัน ใคร ๆ ก็อยากครองตำแหน่งผู้ชนะ วิ่ง เหนื่อย สู้ แพ้ หดหู่ วิ่งใหม่ เหนื่อยใหม่ แย่งชิงตำแหน่งผู้ชนะหนึ่งเดียวจนแทบขาดใจ สายตาจับจ้องจนหลงลืมไปว่าการแพ้มันเลวร้ายขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? และการแพ้ในมาตรฐานการแข่งขันที่ไม่เคยสนใจความหลากหลายของมนุษย์ และมุ่งเปลี่ยนให้เราเดินตามทางเดียวกันหมดมันน่าเสียใจมากน้อยแค่ไหน?

Little Miss Sunshine จะพาเราขึ้นรถโฟล์คสีเหลืองบุโรทั่งไปกับครอบครัว (ที่ถ้าตัดสินจากมาตรฐานสังคมก็อาจบอกว่าพวกเขาคือ) คนขี้แพ้ พ่อผู้กระหายความสำเร็จใจจะขาด แต่ก็ได้แค่กระหาย ลุงที่เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยผู้เผชิญโรคซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตาย ปู่ติดเฮโรอีน หลานชายที่ฝันจะเป็นนักบินแต่กลับพังพับไม่เป็นท่า หลานสาวที่หน้าตาทั่วไปแต่หวังจะครองตำแหน่งนางงาม

ถ้าเรารักการชนะมากกว่าก็ไม่ผิด แต่ระหว่างที่เราพยายามไปสู่ชัยชนะ เราสามารถรักตัวเองที่แพ้บ้าง ไม่สมบูรณ์แบบบ้างได้ไหม? ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ แต่อยากให้ร่วมเดินทางไปกับครอบครัวสุดพ่ายแพ้ แล้วอาจจะพอเข้าใจว่าการรักตัวเอง รักคนข้าง ๆ ใจดีต่อตัวเอง ใจดีต่อกัน มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นง่าย ๆ ของการชนะก็ได้ ไม่ชนะก็ได้ แต่สดใสส่องแสงเหมือนสีเหลืองสดของรถโฟล์คบุโรทั่งที่เก่าแต่ก็งดงามในเรื่องนี้

 

Silver Linings Playbook

มันง่ายแสนง่ายที่จะรักใครสักคน มอบทุกสิ่งดี ๆ ให้เขา ปรารถนาให้เขามีความสุข แต่ทำไมกลับยากแสนยากที่จะรักตัวเอง? มอบสิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง พาตัวเองไปเจอสิ่งที่คู่ควรและทำให้เรายิ้มได้ในทุก ๆ วัน? ไม่ใช่เราคนเดียวที่รักตัวเองไม่เป็น แพท อดีตครูใน Silver Linings Playbook ก็เช่นกัน

เขารักภรรยาหัวปักหัวปำ ประกอบกับโรคประจำตัวที่ทำให้เขาเผยพฤติกรรมสุดโต่งจนต้องเข้าสถานบำบัด ตลอด 8 เดือนในสถานบำบัดนั้น ทุกลมหายใจเข้าออกเขารอเพียงแต่การได้ออกมาเจอภรรยาสุดที่รัก หลังออกมาเผชิญโลกภายนอกเขาถูกศาลสั่งห้ามเข้าใกล้ ทุกอย่างจึงดูเลวร้าย งานก็แย่ คนรักก็ไม่ได้เข้าใกล้ แถมความป่วยไข้ก็ยังตามราวี

Silver Linings Playbook พาเราไหลไปกับตัวละคร พร้อม ๆ กับชวนตั้งคำถามว่า นี่เราทำอะไรอยู่? หลายครั้งที่เรามอบความรักให้ใคร ๆ นั้น อีกฝั่งเขาอยากได้หรือเราแค่ดันทุรังจะยัดเยียดให้? แถมตอนที่เราพยายามสุดชีวิตเพื่อรักคนอื่น เรามีความสุขจริง ๆ หรือกำลังฝืนอยู่กันแน่?

UNLOCKMEN ไม่ได้มีคำตอบตายตัวให้ แต่หลังดูจบ เราเชื่อว่าเราจะหันมามองชีวิตหม่น ๆ ของเราอีกครั้ง แล้วถามว่าวันนี้เรารักตัวเองมากพอหรือยัง? เราพาตัวเองไปสู่ความท้าทายใหม่ ๆ สนุก ๆ เหมือนตอนเป็นเด็กบ้างดีไหม? ครั้งสุดท้ายที่เราใจดีกับตัวเองนั่นมันดีมากเลยนะ ว่าไหม? หรือท้ายที่สุดความสมบูรณ์แบบอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป แต่มันอยู่ที่ว่าเรายอมรับทุกบาดแผลของเราและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่างไรมากกว่า

 

Begin Again

ในหนึ่งชีวิตของมนุษย์มีคุณค่าหลาย ๆ แบบ ชื่อเสียง เงินทอง ความสำเร็จ ความสุข สิ่งที่เรารัก คนที่เรารัก คุณค่าบางอย่าง สังคมกำหนดให้ คนรอบตัวกำหนดให้ และคุณค่าบางอย่างเราเลือกเอง เรากำหนดให้ตัวเอง เราบอกตัวเองได้ทุกเมื่อเชื่อวันว่าเรามีคุณค่าในแบบของเรา

Begin Again พาเราไปสำรวจชีวิต ความสัมพันธ์ของนักแต่งเพลง นักร้อง โปรดิวเซอร์ที่ยึดถือคุณค่าคนละแบบ บางคนการมีคนชื่นชมมากมายคือคุณค่าสูงสุด บางคนการประสบความสำเร็จมีรางวัลและยอดเงินการันตีคือคุณค่าที่ไม่อาจหาสิ่งใดเทียบ และบางคนการได้สนุกกับสิ่งที่ทำโดยไม่สนว่าคนอื่นจะมองอย่างไรคือคุณค่าสูงสุด

ไม่มีใครตอบแทนใครได้ว่าคุณค่าแบบไหนเหมาะกับใคร แต่หลังดู Begin Again จบ เราเชื่อว่าเราจะมีคำถามให้ตัวเองว่าคุณที่ค่าที่เราเชื่อนั้น เรามีความสุขกับมันไหม? และเราได้เลือกว่าเราเป็นคนบอกตัวเองว่าเรามีคุณค่า หรือเรากำลังรอให้คนอื่นมาบอกว่าเรามีคุณค่าอยู่กันแน่?

 

The Secret Life of Walter Mitty

มนุษย์มีข้ออ้างที่สมเหตุสมผลมากมายหลายสิบหลายร้อยที่จะทำเพื่อทุกอย่างก่อน แต่รักและใจดีกับตัวเองไว้ทีหลัง หรือบางครั้งเราก็เชื่อว่าสิ่งที่เราทำอยู่จะนำไปสู่ความสุขในท้ายที่สุด แต่ก็ลืมไปว่าการรัก ใจดี และพาตัวเองไปเจอความสุขระหว่างทางบ้างก็มีความหมายต่อชีวิตที่บางครั้งก็ชวนห่อเหี่ยวอยู่ไม่น้อย

Walter Mitty ก็เป็นอีกคนที่ตรากตรำและเชื่อมั่นในการงานอันปลอดภัย แม้ลึก ๆ จะมีความฝันว่าอยากออกผจญภัยไปในโลกกว้าง แต่เพราะเชื่อว่าการยึดงานไว้อาจเป็นการรักตัวเองในรูปแบบที่ดีที่สุด มันจึงไม่ง่ายที่เขาจะพาตัวเองตะลุยไปตามสิ่งที่ฝัน

อย่างไรก็ตามการพาตัวเองกระโจนไปสู่เขตแดนใหม่ ๆ แม้ไม่มั่นคงปลอดภัยเท่าการอยู่ในคอมฟอร์ตโซน แต่ใครจะรู้ว่าประสบการณ์อันล้ำค่า การได้เห็นมุมอื่นของชีวิต ก็อาจเป็นรางวัลที่ดีที่สุดเท่าที่คนรักตัวเองคนหนึ่งจะมอบให้ตัวเองได้

 

Eat Pray Love

เราซื้อของขวัญให้คนที่เรารักเมื่อถึงวันสำคัญ เราพาคนที่มีความหมายต่อเราไปกินอาหารอร่อย ๆ ให้เขาอิ่มกายอิ่มใจ เราอยากพาครอบครัวไปสถานที่สวยงามให้เขาดื่มด่ำบรรยากาศนั้นมากเท่ามาก เราทำสิ่งดี ๆ ให้คนอื่น แต่ครั้งสุดท้ายที่เราถามตัวเองว่าความสุขของเราคืออะไร? และมอบความสุขนั้นให้ตัวเองคือตอนไหน?

Eat Pray Love เล่าเรื่องชีวิตของมนุษย์ที่ดูเผิน ๆ ก็มีความสุขดี มีงานทำ มีคนรักอยู่เคียงข้าง อาศัยในบ้านแบบที่ต้องการ แต่ภายในกลับเคว้งคว้าง ราวกับมีอะไรบางอย่างที่ทุกสิ่งรอบกายไม่อาจเติมเต็ม เราเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตัวละครในเรื่องนี้เท่านั้นที่แม้หลายครั้งทุกอย่างก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร แต่เพราะความสุขไม่ใช่สิ่งที่จะให้ใครมาตัดสินได้ มีแค่เราเท่านั้นที่รู้ว่าข้างในเราว่างเปล่า หรืออิ่มเอมดี

เพราะแบบนี้การเดินทางเพื่อตามหาว่าความสุขที่เราตามหามันคืออะไร ถึงเป็นการรักและใจดีกับตัวเองอย่างหนึ่ง Eat Pray Love จะพาเราออกเดินทางไปพร้อม ๆ กับสำรวจตัวเองว่าอะไรที่เราเลือกแล้วจะดีกับเราที่สุด หรืออย่างน้อยต่อให้ไม่ได้ดีที่สุด แต่เราก็ควรได้เลือกด้วยตัวเอง

การมีคนรักและพร้อมสนับสนุนเราเป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางหนที่โลกทั้งใบไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น หยุดโทษตัวเอง หยุดเชื่อว่าเพราะเราห่วย เราถึงสมควรโดนลงโทษ แต่หันมารัก มาเชื่อ มาใจดีกับตัวเราให้มาก เพราะคุณค่าที่เรามอบให้ตัวเองมากพอ จะค่อย ๆ เป็นแรงผลักดันให้เราลุกขึ้นก้าวต่อไปแม้วันที่โลกแสนมืดหม่น

 

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line