Entertainment

4 นักเขียนการ์ตูนชื่อดังผู้ไม่เคยหยุดพยายาม กล้าเริ่มต้นสร้างผลงานใหม่ได้ดีกว่าเก่า

By: Chaipohn December 17, 2017

จะสิ้นปีกันแล้ว การทำงานที่ผ่านมาอย่างยาวนาน สำหรับหลายคนก็อาจจะคิดว่า ‘เนี่ย ปีนี้เป็นปีที่ดีแล้ว ปีหน้าเราเอาแค่ประมาณนี้ก็ OK ละ’ จริง ๆ มันก็ไม่ผิดนะที่จะรักษาฟอร์มเก่าเอาไว้ เพราะแค่นั้นก็เจ๋งแล้ว แต่ที่เจ๋งกว่าชัวร์ก็คือการพยายามทำให้ดีขึ้นมากกว่าครั้งก่อนสิ
จริง ๆ เราเองก็อยู่ฝั่งเดียวกับคนที่อยากรักษาฟอร์มด้วยล่ะ (ฮา) แต่จะขี้เกียจไปเรื่อย ๆ มันคงไม่ไปไหน ถ้าคุณรู้สึกว่ามันไกลตัวมาก ๆ เราขอหยิบยกเอาหนังสือการ์ตูนที่ใครหลายคนก็คุ้นเคย มาบอกเล่าให้ฟังกันงงว่า มีการ์ตูนจำนวนหนึ่งที่เป็นเรื่องที่ดังระดับโค-ตะ-ระ ถึงขั้นที่คนเขียนอาจจะนอนกลิ้งอยู่บ้านรับเงินปันผลไปวัน ๆ ก็พอแล้ว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังพยายามก้าวขึ้นไปอีกขั้นจนได้งานที่มีความเจ๋งกว่าเดิมในมุมต่าง ๆ ที่เราเชื่อว่าหนุ่มสาวทุกคนที่อ่านการ์ตูนเหล่านี้จะมีแรงใจให้ทำให้ปีหน้าให้เจ๋งขึ้นไปอีกระดับ

 

อาจารย์ Toriyama Akira จาก ‘ดร. สลัมป์’ ไปเขียน ‘ดราก้อนบอล’

เรื่องแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ ดร.สลัมป์ หรือ หนูน้อยอาราเล่ ของอาจารย์ Toriyama Akira ซึ่งจริง ๆ ตัว ดร.สลัมป์ ที่เป็นการ์ตูนตลกเอามันส์นี่ก็ฮิตอยู่ไม่เบา แค่ทำยอดขายได้มากถึง 35 ล้านเล่มในญี่ปุ่น แล้วก็โดนทำเป็นการ์ตูนทีวี ทั้ง ๆ ที่เป็นผลงานเรื่องยาวเรื่องแรกของอาจารย์แก

ด้วยความตันจากการที่ต้องนั่งคิดมุกตลกมันทุกสัปดาห์ไป อาจารย์เลยตัดสินใจยอมตัดจบ ดร.สลัมป์ แล้วมาสร้างผลงานเรื่องใหม่ที่ชื่อ ดราก้อนบอล ที่คิดใหม่ทำใหม่หักซ้ายไปขวา จากเดิมที่ ดร.สลัมป์ จะจำลองบรรยากาศแบบหมู่บ้านอเมริกา มาใน ดราก้อนบอล เอาแรงบันดาลใจมาจากไซอิ๋ว ปรับจากมู้ดการ์ตูนตลก มาเป็นการ์ตูนบู๊เต็มสูบ และยังกล้าหาญเดินเรื่องให้ตัวเอกโตขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งในยุคนั้นไม่ค่อยมีใครเขาอยากทำกัน
การแหกกรอบของอาจารย์ Toriyama ทำให้ ดราก้อนบอล กลายเป็นหนังสือการ์ตูนที่ขายดีเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาลของประเทศญี่ปุ่น (เป็นรองแค่ One Piece ที่ยังเขียนอยู่) และกลายเป็นผลงานอมตะที่โลกจดจำไปแล้ว

อาจารย์ Togashi Yoshihiro จาก’คนเก่งทะลุโลก’ ไปเขียน ‘Hunter X Hunter’

จริง ๆ เราแอบขี้โกงแหละเพราะหลังที่อาจารย์ Togashi เขียนเรื่อง คนเก่งทะลุโลก หรือ Yu Yu Hakusho จบแกไปเขียน Level E ก่อนเรื่องนึง แต่เรานับเอาการ์ตูนที่แกเขียนลงนิตยสารรายสัปดาห์เรื่องต่อมาพูดต่อแทน

คือตอน Yu Yu Hakusho แกก็เขียนเป็นการ์ตูนแนวลึกลับที่ผันตัวไปเป็นแนวต่อสู้ที่ฮิตจนแซงหน้าการ์ตูนรุ่นพี่หลายเรื่องในยุคเดียวกัน แต่ในช่วงท้ายของเรื่องแกก็ตัดโช๊ะ แล้วจบเรื่องในลักษณะผู้ใหญ่ ๆ กว่าตอนต้นเรื่องด้วย ซึ่งนั่นก็ใจกล้าเกินเพื่อนร่วมรุ่นแล้ว พอมา Hunter X Hunter ที่แรก ๆ ก็เหมือนจะเป็นแนวแอคชั่นผจญภัยธรรมดา ๆ แต่แกเล่นเรื่องเปลี่ยนแนวไปมาทุกองก์เนื้อเรื่อง ช่วงหนึ่งเป็นผจญภัยสุด ๆ อีกช่วงเป็นติดอยู่ในเกม พอมาอีกช่วงก็กลายเป็นแนวการเมืองหักเหลี่ยมกัน เล่นเอาคนอ่านไม่เบื่อหน่ายเลยแม้แต่ช่วงเดียว

ถึงแกจะกล้าและออกจะเป็นความบ้าบิ่นในการสร้างสรรค์งาน แต่ก็ผลข้างเคียงที่แกปวดหลังยาวจนทำให้เขียน ๆ หยุด ๆ ก็เป็นข้อเตือนใจทุกคนว่า ทำงานจริงจังได้แต่ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วย

 

อาจารย์ Obata Takeshi กับ อาจารย์ Ohba Tsugumi จาก ‘Death Note’ ไปเขียน ‘Bakuman’

คู่หู Obata Takeshi กับ Oba Tsugumi มาจับคู่กันครั้งแรกด้วยการเขียนการ์ตูน Death Note ที่ว่าด้วยความวุ่นวายของโลกนี้ถ้าเกิดมีสมุดที่แค่เขียนชื่อก็ฆ่าคนได้ และสมุดเจ้ากรรมก็ดันไปอยู่ในมือคนที่ฉลาดจัด ๆ จนทำให้เกิดการไล่ล่าหาคนครอบครองมัน

คือแค่ Death Note นี่ก็ถือว่าใช้นักเขียนสองท่านนี้ก็ปรับเปลี่ยนงานของตัวเองมาอย่างมหาศาลแล้วนะ ด้วยผลงานก่อนหน้าของ อาจารย์ Obata คนเขียนภาพคือเรื่อง ฮิคารุเซียนโกะ ซึ่งแกวาดรูปเก่งแต่แต่งเรื่องไม่เก่ง (ฮิคารุนั่นก็คนอื่นแต่งเรื่องให้) ส่วน อาจารย์ Oba คนแต่งที่ไม่เผยตัวว่าเป็นใคร แต่เชื่อว่าจะเป็นคนเขียนเรื่อง Lucky Man การ์ตูนตลกเส้นไม่สวย เหมือนทั้งสองคนยอมรับในจุดอ่อนของตนเองแล้วออกจากเซฟโซนด้วยการเขียนเรื่อง Death Note ที่เครียดอย่างที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อน

พอมาถึง Bakuman ที่เป็นการจับคู่กันเรื่องที่สองของพวกเขา คราวนี้การ์ตูนมาเล่าเรื่องของ สองคู่หูที่คนหนึ่งเขียนการ์ตูนกับอีกคนที่แต่งเรื่องการ์ตูน พูดง่าย ๆ ว่าเอาเรื่องเบื้องหลังกับเรื่องของตัวเองมาเซาะแซะแกะเกาวงการการ์ตูน จนเป็นการ์ตูนที่คนอ่านต้องติดตามถึงตอนจบ

 

อาจารย์ Arakawa Hiromu จาก ‘Full Metal Alchemist แขนกลคนแปรธาตุ’ ไปเขียน Silver Spoon

ตอนที่อาจารย์ Arakawa Hiromu เขียน แขนกลคนแปรธาตุ ก็สนุกมันส์ตั้งแต่ต้นจนจบ และหลายคนก็คงคิดว่า ‘จารย์แกน่าจะวาดเรื่องใหม่แนวประมาณเดิม แต่เปล่าเลยอาจารย์แก โยกไปเขียนการ์ตูนเรื่อง Silver Spoon ที่กลายเป็นเรื่องนักเรียนโรงเรียนเกษตรกรรมซะงั้น แล้วถ้านั่นยังดูกล้าหาญไม่พอ อาจารย์แกยังย้ายจากนิตยสารฉบับเดิมที่เคยเขียนไปยังนิตยสารเล่มใหม่อีกด้วย เป็นสถานการณ์ที่ไม่รุ่งก็คงจะร่วงไปเลยแน่นอน
พอถึงเวลาจริง ๆ Silver Spoon เป็นการ์ตูนที่สนุกเลยล่ะ ด้วยความที่มันกลายเป็นการ์ตูนที่เล่าการใช้ชีวิต แถมยังกลับมาดูตัวเองอีกว่าเราเคยได้ไล่ตามความฝันตามศักยภาพหรือยัง ซึ่งงานมันก็ดีพอจนถึงสร้างเป็นการ์ตูนทีวีแล้วก็หนังคนแสดงด้วย

อ้อ นอกจากนี้อาจารย์ Arakawa แกยังเขียนการ์ตูนเรื่องอื่นควบอีก 2 เรื่องเลยนะ นี่คือไม่ใช่แค่กล้าอย่างบ้าบิ่น แต่เป็นการทุ่มสุดตัวเพื่อทำงานที่สร้างความสำเร็จต่างหาก

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line