Entertainment

MASTER OF NONE ชีวิตสุขเศร้าคล้ำน้ำตา ของผู้ชายธรรมดาที่วิ่งตามหาความฝัน

By: PERLE April 26, 2019

บทความนี้ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์เรื่อง Master of None

ซีรีส์บางเรื่องก็ลุ้นทุกวินาทีจนหยุดดูไม่ได้ บางเรื่องก็ขำจนกรามค้าง บางเรื่องก็หวานจนมดขึ้น บางเรื่องก็ขมจนน้ำตาซึม แต่สำหรับ Master of None ซีรีส์เจ้าของรางวัล Emmy Award, Golden Globes, และอีกมากมายหลายเวทีเรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เป็นความอบอุ่นปนความเปลี่ยวเหงา ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเปื้อนหยดน้ำตา ซึ่งหาได้ยากจากการดูซีรีส์ยุคนี้

ทั้ง ๆ ที่เป็นซีรีส์น้ำดี แต่กลับไม่ได้รับความนิยมในบ้านเรานัก เราจึงอยากเป็นกระบอกเสียงบอกเล่าให้ทุกคนได้รู้ว่าทำไม Master of None จึงเป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด

ชีวิตธรรมดาของผู้ชายชื่อ Dev

Dev คือชายหนุ่มวัย 30 ปี อาศัยอยู่ในมหานคร New York หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักแสดงตัวประกอบ และกำลังมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อไต่เต้าสู่จุดที่สูงกว่าในสายอาชีพนี้ ในขณะเดียวกันด้านความรัก เขาก็พยายามไขว่คว้ามันอย่างสุดตัวไม่แพ้กัน

เรื่องจะเล่าผ่านมุมมองของ Dev ที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์มากมายไปพร้อม ๆ กับเพื่อนสนิทของเขาอีก 3 คน บางครั้งก็เรียกเสียงหัวเราะ บางคราก็เรียกน้ำตา

เป็นพล็อตเรื่องที่ไม่หวือหวา ออกจะจืดชืดด้วยซ้ำ แต่เสน่ห์ของ Master of None คือการทำให้คนดูรู้สึกว่าตัวละครทุกตัวเป็นคนธรรมดาเหมือนกับเรา โดยเฉพาะตัวละครเอกอย่าง Dev ดังนั้นทุกการกระทำ ทุกคำพูด จึงสัมผัสใจเราเต็ม ๆ ผสมผสานกับวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่หวือหวา แต่กลมกล่อม ผลลัพธ์ที่ได้คือซีรีส์ที่อบอุ่นหัวใจและรู้สึกผูกพันกับมัน

คนชายขอบก็มีหัวใจ

อีกหนึ่งประเด็นน่าสนใจที่ Master of None เลือกนำเสนอก็คือ ‘การเป็นคนชายขอบในสังคม’ เห็นได้ชัดจากการที่ตัวละครเอกแทบทุกตัวล้วนแล้วแต่มีปัญหากับการถูกยอมรับในสังคมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Dev พระเอกของเราที่เติบโตมาในครอบครัวผู้อพยพชาวอินเดีย ซึ่งต้องเผชิญกับการโดน Stereotype ว่าเป็น ‘ไอ้แขก’ มาทั้งชีวิต,  Arnold เพื่อนสนิทของ Dev ถึงแม้เขาจะเป็นคนผิวขาว แต่ภาพลักษณ์เขาก็ดู Loser สุด ๆ ,  Brian ภายนอกอาจจะดูรูปหล่อ พ่อรวย เพอร์เฟกต์แทบทุกอย่าง แต่ยังไงก็หนีความจริงไม่ได้ว่าเขามาจากครอบครัวชาวจีนอพยพ,  Denise ตัวละครที่เป็นตัวแทนของชาว LGBT ในเรื่องนี้

อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ถึงแม้ตัวละครหลักจะเป็นคนชายขอบ แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ขยี้จนฟูมฟาย ไม่มีดราม่าหนักหน่วง ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบมุกตลกร้าย หรือการจิกกัดเล็กน้อยเสียมากกว่า จากนั้นก็จะเปิดพื้นที่ให้ตัวละครหลักเหล่านี้ได้แสดงความคิดเห็น เป็นวิธีเล่าเรื่องที่สวยงามให้คนดูอย่างเราได้รับรู้ว่า

‘คนชายขอบก็มีหัวใจ ถึงแม้พวกเขาจะไม่แสดงออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้สึก’

ความสุข ความเศร้า ความเหงา ของผู้ชายวัย 30

ถึงอายุจะย่างเข้าเลข 3 แล้ว แต่พูดตรง ๆ ว่าชีวิตของ Dev ตอนนี้ยังห่างไกลกับคำว่าประสบความสำเร็จอยู่มาก เขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไขว่คว้าทุกอย่างมาครอบครอง ทั้งความฝันและความรัก แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย จึงมีบ่อยครั้งที่ Master of None ปล่อยหมัดฮุกใส่เราจนจุก ก่อนจะปลอบโยนด้วยรอยยิ้ม

Master of None นำเสนอภาพชีวิตของชายวัย 30 ได้อย่างชัดเจน ชัดเสียจนบางครั้งเราก็นำตัวเองไปอยู่ในเหตุการณ์เดียวกับ Dev โดยไม่รู้ตัว เป็นการเดินทางที่ไม่รู้เลยว่าจะพบเจออะไรบ้าง ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือระหว่างทางว่าเราทำอะไรไปบ้างและมีความสุขแค่ไหน

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้บอกเราว่าชีวิตมันง่ายหรือยาก แต่มันกำลังบอกเราว่า ‘นี่แหละชีวิต’

Aziz Ansari คุณคืออัจฉริยะ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือการแสดงของ Aziz Ansari ที่รับบทเป็น Dev การันตีด้วยรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Golden Globes และ  Emmy Awards เขาคือผู้แบกซีรีส์เรื่องนี้ไว้บนบ่า

นอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว Aziz ยังเป็นหนึ่งในทีมผู้กำกับและเขียนบทของซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย จึงทำให้เขาเข้าใจอย่างกระจ่างว่า Master of None ต้องการบอกอะไรกับคนดู นำไปสู่การถ่ายทอดออกมาที่ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ

เรากล้าพูดเลยว่า Aziz Ansari คือหนึ่งในคนที่มีวาทศิลป์ดีที่สุดที่เราเคยรู้จัก ทุกประโยค ทุกไดอะล็อก เป็นไปอย่างลื่นไหล แพรวพราว เวลาตลกก็ทำเอาขำน้ำตาไหล เวลาเหงาก็รู้สึกสงสารจับใจ

ใน Master of None เราไม่รู้สึกเลยว่า Aziz คือนักแสดงชื่อดัง เขาทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาคือ Dev ชายวัย 30 ธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังวิ่งตามหาความฝันและความรัก

ใครกำลังรู้สึกหมดไฟในการใช้ชีวิต Master of None คือซีรีส์ที่ช่วยคุณได้ อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่กำลังดิ้นรน แต่ยังมีอีกหลายคนที่กำลังพยายามไม่แพ้กัน คนที่ไม่มีพรสวรรค์หรือแต้มต่อในชีวิต เป็น Master of None เหมือนกับคุณ…

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line