DO & DON’T วิธีดูแลและป้องกัน 3 ปัญหาหลัก สิว ผื่นแพ้ แห้งขุย ที่มักเกิดกับผิวหน้าผู้ชาย

First Impression Error หรือการสร้างความประทับใจแรกพบ ซึ่งตามทฤษฎีบอกไว้ว่าคนรอบข้างจะประเมินตัวเราภายในเวลา 30 วินาทีแรกที่ได้เจอหน้า ถ้า First Impression ดี ทุกอย่างก็จะราบรื่น แต่ถ้า First Impression ไม่ดี ก็อาจจะพลาดโอกาสบางอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นการเดทกับสาว การสัมภาษณ์งาน หรือแม้แต่การประชุมกับลูกค้า

“ความมั่นใจ” คือหัวใจสำคัญในการสร้าง First Impression ที่ดี แต่แม้จะเตรียมตัวมาดีแค่ไหน สิ่งที่สร้างปัญหา ทำลายความมั่นใจ และควบคุมได้ยากมากก็คือ “ปัญหาผิวหน้า” ไม่ว่าจะเป็น สิว ผื่นแดงจากการแพ้ หน้าแห้งลอก หรือหมองคล้ำเพราะพักผ่อนไม่พอ

“ปัญหา” เหล่านี้ไม่ใช่แค่สร้างความรำคาญ งานวิจัยหลายชิ้นต่างชี้ว่าปัญหาผิวหน้าส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ และถ้าปล่อยเอาไว้จนปัญหารุนแรงยิ่งขึ้น จากความไม่มั่นใจก็อาจลุกลามกลายเป็นความเครียดถึงขั้นมีผลต่อการใช้ชีวิตได้

โดยธรรมชาติ ผิวหน้าผู้ชายมีโอกาสเกิดปัญหาได้ง่ายกว่าผู้หญิง ทั้งจากโครงสร้างและการใช้ชีวิต

ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าบอกว่าผู้ชายมี Androgen หรือ ฮอร์โมนเพศชายสูง จึงทำให้ใบหน้ามัน รูขุมขนกว้าง เกิดปัญหาสิวได้ง่ายกว่าผู้หญิง บวกกับการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยดูแลผิวหน้าเท่าผู้หญิง ทำให้ผิวหน้าผู้ชายเกิดผื่นแพ้ระคายเคือง (Irritant Contact Dermatitis) ได้ง่ายจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการบีบเค้น สัมผัส ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มลภาวะ สารเคมี เหงื่อ และมักจะปล่อยปัญหาเอาไว้โดยไม่แก้ไข กลายเป็นต้นตอของปัญหาผิวหน้าอื่น ๆ ที่รุนแรงตามมาอีกมากมาย

หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเวชสำอางที่อ่อนโยน ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง ควรเป็นสูตรสำหรับผิวหน้าผู้ชายโดยเฉพาะ และสำคัญที่สุดคือควรเลือกโฟมล้างหน้าสูตรไม่มีฟอง Non-Ionic Surfactant  (NIS) ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำมัน ซิลิโคน และปราศจากสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) อย่างเช่น Smooth E Deep & Gentle Liquid Cleanser ซึ่งเป็นเวชสำอางที่ได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ช่วยลดปัญหาสิว ปัญหาผิวแห้งลอก และดูแลผิวแพ้ง่ายได้อย่างสะอาด รักษาความชุ่มชื้นได้อย่างอ่อนโยน

ความต่างของโฟมล้างหน้าแบบ NIS กับแบบมีฟอง คืออาการผิวตึงหลังล้างหน้า สังเกตได้ว่าถ้าเราใช้โฟมล้างหน้าที่มีความรุนแรงมากเกินไป สารลดแรงตึงในฟองจะทำลายน้ำและน้ำมันในผิวตามธรรมชาติออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งตึง ซึ่งมันไม่ได้แปลว่าผิวสะอาดอย่างที่หลายคนเข้าใจ ที่จริงแล้วผิวหน้าตึงเพราะสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาสิว ผื่นแพ้แดงคัน ผิวแห้งลอก ยิ่งรุนแรงหนักมากขึ้นไปอีก

วันนี้เราจึงได้รวบรวม Do และ Don’t เพื่อป้องกันและดูแลปัญหาผิวหน้าหลัก ๆ ของผู้ชาย เพื่อจะได้ลดโอกาสเกิดปัญหา ควบคุมไม่ให้รุนแรงลุกลาม และทำการรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป ซึ่งความเข้าใจข้อใหญ่ที่พวกเราเชื่อกันผิด ๆ มาตลอดว่า “ปล่อยเอาไว้ เดี๋ยวมันก็หายเอง” เพราะบอกเลยว่าในความเป็นจริง “ยิ่งปล่อยไว้ มันจะยิ่งเป็นหนักมากขึ้น และยิ่งรักษาได้ยาก”

DO AND DON’T – วิธีดูแลและป้องกันปัญหาสิวสำหรับผู้ชาย

หนึ่งในสัจธรรมชีวิตที่หลีกหนีได้ยากก็คือ “ปัญหาสิว” เราเคยคิดว่าสิวจะขึ้นเฉพาะช่วงวัยรุ่น แต่หลายคนอายุเกือบ 40 ก็ยังมีสิวอยู่ เพราะความจริงแล้วสาเหตุของสิวไม่ใช่แค่ฮอร์โมน แต่ยังมาจากความมันส่วนเกิน เหงื่อ เชื้อรา สิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะอากาศร้อนอบอ้าวของประเทศไทย ทำให้คนไทยมีสิวขึ้นได้ง่ายเมื่อเทียบกับประเทศที่มีอากาศเย็นสบาย

เมื่อมีสิว ผู้ชายเรามักจะทำให้ปัญหาแย่ขึ้นด้วยการบีบแกะสุดแรงเกิด ทำให้สิวอุดตันธรรมดาพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ รอยแดง แผลเป็น รวมถึงการใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมรุนแรงจนสิวเห่อกระจาย (acne outbreaks) ดังนั้นเราจึงควรป้องกันเพื่อลดโอกาสเกิดสิวก่อนเป็นอันดับแรก รวมถึงหลีกเลี่ยงการทำให้สิวลุกลามรุนแรงเท่าที่ทำได้ เพื่อจะได้พบแพทย์และทำการรักษาได้ง่ายขึ้นต่อไป

• ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และล้างหน้าทันทีเมื่อเจอสิ่งสกปรกเยอะเป็นพิเศษ เช่น ฝุ่น เหงื่อ เพื่อลดการอุดตันและการสะสมของแบคทีเรียในรูขุมขน ไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพราะอาจจะล้างคราบมัน สิ่งสกปรกที่ฝังลึกออกได้ไม่หมด ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนใกล้เคียงกับน้ำเปล่า และมีความสามารถในการทำความสะอาดสูตรไม่มีฟอง (NIS) ที่อ่อนโยน
• เลือกโฟมล้างหน้าสูตร Oil-free และ Alcohol-free ไม่เติมนำมันส่วนเกินให้ใบหน้า ซึ่งมักจะถูกสร้างในปริมาณมากจากฮอร์โมนชายที่ผันผวนจากหลายสาเหตุ และปราศจากแอลกอฮอล์ ต้นเหตุของความแห้งตึงหลังล้างหน้า สาเหตุหลักที่ทำให้การระคายเคืองผิว โดยเฉพาะ Mineral Oil ตัวการความมันที่กระตุ้นให้เกิดสิว ล้างออกได้ยาก ปัญหาหลักของสิวอุดตัน
• รักษาความชุ่มชื่นให้ผิวด้วย Moisturizer เป็นประจำ เพราะการล้างหน้าจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยส่วนที่เสียไป ซึ่งอาจจะมากเกินไปในบางครั้ง การทาครีมบำรุงจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาเกินความจำเป็น ซึ่งช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เติบโตจากสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ และยังช่วยไม่ให้ผิวแห้งตึงเกินไปจนระคายเคืองได้อีกด้วย
• พยายามไม่จับใบหน้าระหว่างวัน เพราะมือเราอาจจะมีสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น รวมถึงทำความสะอาดสิ่งที่สัมผัสใบหน้าสม่ำเสมอ เช่น หน้าจอ Smartphone ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน
• สำหรับคนที่มีสิวบริเวณไรผมและข้างหูเป็นประจำ ให้ลองใช้ยาสระผมที่อ่อนโยน เช่นสูตรสำหรับเด็ก จะช่วยลดการสะสมของสารเคมีจากยาสระผมได้ พร้อมงดใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมจนกว่าจะดีขึ้น
• ห้ามบีบ แงะ แกะ เกา หรือสัมผัสใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดแผลเป็น หลุมลึก (Pitted Scar) และทิ้งร่องรอยแดงช้ำเอาไว้ยาวนาน
• สิวเกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย จึงควรหลีกเลี่ยงพฤิตกรรมที่กระตุ้นฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น ความเครียด การนอนดึก รวมถึงอาหารเครื่องดื่มที่ผลต่อฮอร์โมน เช่น เวย์โปรตีน รวมถึงอาหารที่ทำจากนม ของหวาน ช็อคโกแลต
• สำหรับคนที่มีสิวเนื่องจากปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เช่น มีหนวดเคราอุดตันในรูขุมขน หรือมาจากกรรมพันธุ์ การดูแลทั้งหมดอาจจะช่วยให้สิวไม่เห่อลุกลามและรักษาได้ง่ายขึ้นเมื่อพบแพยท์ผิวหนัง

DO AND DON’T – วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผื่นแดง ผื่นคันผิวหนังอักเสบนใบหน้า

ผื่นแดง หรือผื่นคันผิวหนังอักเสบ (Eczema or Dermatitis) เป็นอาการที่เรียกรวมผื่นแดงที่เกิดจากการอักเสบใต้ผิวหนัง ซึ่งใครสังเกตเห็นการบวมแดงบนใบหน้าเป็นกระจุก มีตุ่มน้ำใส และคัน แสดงว่าคุณกำลังพบกับผื่นคันผิวหนังอักเสบ ถ้าปล่อยไว้จะลอกเป็นขุย ทำให้เกิดสิวอักเสบตามมา ยิ่งทิ้งไว้จะมีผลต่อบุคลิกภาพอย่างรุนแรงเพราะมันมีแต่ลุกลามและเรื้อรัง

ความยากในการรับมือผื่นคันผิวหนังอักเสบ คือการคาดเดาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดปัญหา เช่น ผื่นจากภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ผื่นจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนังอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) หรือโรคผิวหนังอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) เพราะเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายนอก เชเ่น สารระคายเคืองที่ก่อภูมิแพ้ และภายในร่างกาย เช่น โรคประจำตัว และหลายคนมักจะปล่อยละเลยไม่รักษาจนอาการหนักขึ้นจากระยะเฉียบพลัน ไปสู่ระยะกลาง และระยะเรื้อรัง ซึ่งควรต้องพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวิเคราะห์และรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งเราสามารถลดความเสี่ยงไม่ให้อาการรุนแรงได้เพื่อให้การรักษาที่ง่ายขึ้น

• ถ้าพบว่าผิวหน้ามีความเสี่ยงที่จะเป็นผื่นคันผิวหนังอักเเสบ วิธีที่ดีที่สุดคือการพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดผื่นแดง สังเกตและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมหรือผลิตภัณฑ์ผิวหน้าที่ใช้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นปัญหาที่ไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นได้เมื่อถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยเดิม
• การมีผื่นแดงบนใบหน้า เป็นสัญญาณว่าผิวหน้ากำลังอ่อนแอ หรือมีสภาพผิวหน้าแพ้ง่าย จึงควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนที่สุด เช่นโพมล้างหน้าเวชสำอางสูตรไม่มีฟอง (NIS) Oil-free และ Alcohol-free เพื่อรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ เพราะผิวที่แห้งตึงเกินไปจะกระตุ้นให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้
• ไม่ควรใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยล์โดยปราศจากการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะเสตียรอยล์มีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ทำให้ร่างกายหยุดสร้างภูมิคุ้นกันตามธรรมชาติ จึงติดเชื้อได้ง่าย นอกจากทำให้ผิวขาวเป็นด่าง ยังทำให้เกิดสิวเตียรอยด์และสารพัดสิวตามมา รวมถึงปัญหาผิวหน้าผิดปกติอีกมากมายไม่รู้จบในระยะยาว
• หลีกเลี่ยงผลิตภัฑณ์ที่มีส่วนผสมสารเคมีตกค้างอันตรายอื่น เช่น พาราเบน (Paraben) สารกันเสีย,  สีสังเคราะห์ (Artificial Coloring) สารหนักก่อมะเร็ง   และสารกลุ่มซัลเฟต (Sodium Laureth Sulfate) สารลดแรงตึงผิว สารทั้งหมดนี้ทำให้เกิดอาการแพ้และมีการตกค้าง ที่สำคัญคือควรหลีกเลี่ยงครีมทาหน้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ในกรณีที่ใช้ผลิตภัฑณ์ใดแล้วแพ้ ให้หยุดใช้ทันที
• ห้ามเกาเด็ดขาด ในขณะที่มีปัญหาผื่นผิวหนังอักเสบจะคันมาก การเกาแรง ๆ บริเวณผื่นแดงนั้นจะยิ่งทำร้ายผิวหน้าจนสิวใต้ผิวหนังรุนแรงอักเสบ ทำให้อาการลุกลามอย่างรวดเร็ว
• การนอนน้อยนอกจากทำให้ภูมิคุ้นกันร่างกายอ่อนแอ ยังส่งผลกระตุ้นอาการผื่นแพ้บนผิวหน้าด้วย การนอนพักผ่อนให้เพียงพอจึงเป็นวิธีที่ควรทำควบคู่กับการพบแพทย์เพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลาม

DO AND DON’T – วิธีดูแลและป้องกันปัญหาผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย

ผิวมันเกินไปทำให้เกิดสิว แต่ถ้าผิวแห้งเกินไป ก็ทำให้เกิดปัญหากับผิวหน้าได้เหมือนกัน ภาวะผิวหน้าแห้ง (Xerosis) เกิดจากผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นเพราะสูญเสียน้ำใต้ชั้นผิวอย่างหนักจนแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ผลคือสภาพผิวที่ดูหยาบกร้าน ไม่น่าสัมผัส และถ้ารุนแรงจะมีความคัน รวมถึงลอกเป็นขุย ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพและความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงสภาพความอ่อนแอของผิวหน้า ทำให้ระคายเคืองได้ง่าย และปัจจุบันที่เราต้องใส่หน้ากากเสียดสีใบหน้าเป็นประจำ ยิ่งทำให้ผิวหน้าบอบบางและนำพาไปสู่ปัญหาอื่นได้

สาเหตุหลักเกิดได้ทั้งจากการใช้โฟมล้างหน้ามีฟองที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารลดแรงตึงผิว กลุ่มซัลเฟต (Sodium Laureth Sulfate) ที่ทำลายความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ตกค้างสะสมทำให้เกิดการแพ้ นำไปสู่ผื่นคันอักเสบและปัญหาสิวอักเสบได้ นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับสภาพอากาศที่หนาวหรือแห้งเกินไป รวมถึงการขาดน้ำ ดื่มเหล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออาบน้ำร้อน ก็ทำให้ผิวหน้าแห้งจนลอกคันได้เช่นกัน

ผิวแห้ง นอกจากจะทำลายบุคลิกภาพจากการลอกเป็นขุยบนใบหน้า ในกรณีที่ปล่อยเอาไว้ก็ยังทำให้ใบหน้ามีริ้วรอยแก่ก่อนวัย และยังเป็นต้นตอนำไปสู่ทั้งปัญหาผื่นแดง ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และปัญหาสิวอักเสบตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นวิธีดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันภาวะผิวแห้งที่เราอยากแนะนำคือ

• โฟมล้างหน้าที่มีสารเคมีรุนแรงเป็นส่วนผสม หรือโฟมล้างหน้าที่มีฟอง อาจทำลายความชุ่มชื้นมากจนผิวแห้งจากสารลดแรงตึงผิว คนผิวแห้งควรเลือกโฟมล้างหน้าเวชสำอางสูตร Non-ionic (NIS) ที่ไม่มีฟอง ไร้สารตกค้าง และมีค่า pH-balanced รักษาสมดุลผิวตามธรรมชาติ อ่อนโยนและไม่ทำให้หน้าแห้งตึง
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ผลการศึกษาของ Journal of Hospital Infection  พบว่าแอลกอฮอล์จะทำลายชั้นผิวที่คอยปกป้องตามธรรมชาติ ทำให้ไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้น และยังเปิดโอกาสให้สิ่งสกปรกฝังตัวในรูขุมขนได้ง่าย ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตกลายเป็นสิวอักเสบนั่นเอง ดังนั้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Alcohol-free เพื่อผิวหน้าที่ดีกว่า
• ใช้ครีมบำรุงผิวหรือ Mask  ที่เน้น Moisturizer ให้ผิวเป็นประจำ รวมถึงดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายและผิวอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนทำงานที่ต้องอยู่ในห้องแอร์ที่อากาศแห้งเป็นระยะเวลานาน
• ทาครีมกันแดดถ้าต้องตากแดดแรง ๆ เช่น แดดเที่ยง เพราะความร้อนและรังสี UV จากแสงแดดก็สามารถทำให้ผิวแห้ง เสียความชุ่มชื้นเช่นกัน
• ไม่อาบน้ำอุ่นหรือร้อนจัด เพราะจะทำลายน้ำมันที่ทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื้นในชั้นผิว

จะเห็นได้ว่า “โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน” คือหัวใจสำคัญในการป้องกันการเกิดปัญหาผิวหน้าหลัก ๆ สำหรับผู้ชาย ซึ่งเราขอแนะนำ Smooth E Deep & Gentle Liquid Cleanser โฟมล้างหน้าเวชสำอางสูตรไม่มีฟอง NIS (Non-ionic Surfactant) ปราศจากแอลกอฮอล์และสารเคมีรุนแรง สามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย ช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีสารตกค้าง ผ่านการทดสอบความปลอดภัยทางผิวหนังด้วยวิธี Patch Test ว่าอ่อนโยนในระดับน้ำเปล่า

ใน Smooth E Deep & Gentle Liquid Cleanser มีส่วนผสมที่สำคัญคือ

• Arbutin : ช่วยยับยั้ง Tyrosinase Enzyme เอนไซม์ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ
• Olea Europaea (Olive) leaf extract : สารสกัดจากใบมะกอก อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียสาเหตุของสิว
• Sodium PCA : Moisturizer จากธรรมชาติในชั้นผิว ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า
• Tocopherol : Vitamin E จากธรรมชาติ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัย

แม้แต่น้ำหอมที่ใช้ ก็ยังเป็นน้ำหอม Pharma Grade ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง สามารถใช้ได้แม้กับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย เพียงเท่านี้ก็ลดโอกาสเกิดปัญหาผิวหน้าที่จะมาทำลายความมั่นใจ พร้อมให้เราเอาชนะได้ในทุกสถานการณ์

สุดท้ายนี้ขอย้ำอีกครั้งว่า ผู้ชายควรใช้โฟมล้างหน้าสูตรสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ด้วยความแตกต่างของสภาพผิวหน้า การใช้ชีวิตที่หนักต่างกับผู้หญิง รูขุมขน ฮอร์โมน และอีกสารพัดปัจจัย ซึ่งโฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชายจะมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์เพราะถูกออกแบบพัฒนาให้เหมาะกับการทำความสะอาดหน้าผู้ชายที่ล้ำลึกกว่าผู้หญิงนั่นเอง

Smooth E Deep & Gentle Liquid Cleanser โฟมล้างหน้าเวชสำอางสูตรอ่อนโยนไม่มีฟองสำหรับผู้ชาย หาซื้อได้ง่ายใน P&F, Boots, Tops และ Gourmet Market ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือดูผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายชนิดอื่น ๆ และสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ https://smooth-e.com/shop/category/men/