FASHION

จัดทรงผมยากเพราะขาดวอลลุ่ม แต่ไม่ต้องกังวลไป เรามีวิธีเพิ่มวอลลุ่มให้ผมจัดทรงง่ายมาแนะนำ

By: Chaipohn August 20, 2019

ทุกครั้งที่เรานั่งดูรูปทรงผมเท่ ๆ จากดารานายแบบ พร้อมความรู้สึกชื่นชมว่าทรงผมแบบนี้สไตล์นี้ก็น่าจะเหมาะสมกับเราดี ว่าแล้วก็ยกหูโทรไปนัดคิวตัดผมกับร้านทำผมชื่อดังเจ้าประจำ

“วันนี้คุณอยากตัดทรงอะไรครับ?” ช่างทำผมสุดเท่ถามพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม เราก็ควักรูป Reference ทรงผมที่เราต้องการเปิดให้ช่างดู

“ไม่มีปัญหาครับ” ช่างกล่าวพร้อมลงมือตัดผมจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็เริ่ม Set ผมด้วยกรรมวิธีมากมายที่เราพยายามตั้งสติจำพร้อมสอบถามกรรมวิธีการเซ็ทผม ซึ่งช่างก็ค่อย ๆ อธิบายอย่างใจเย็น

“เรียบร้อยครับ” ช่างทำผมกล่าวพร้อมกับสีหน้าของเราที่ยิ้มแย้มด้วยความภาคภูมิใจในทรงผมใหม่สุดคูล

แต่เวลาแห่งความสุขภายใต้ทรงผมที่เซ็ทอย่างสวยงามมักจะอยู่ได้เพียงชั่วข้ามคืน เมื่อถึงเวลาเช้าวันสำคัญที่เราอยากพกพาผมทรงใหม่ในความทรงจำล่าสุดไปอวดใครต่อใคร กลับต้องประหลาดใจที่เราทำทุกอย่างเหมือนที่ช่างอธิบายเป๊ะ แต่ผลที่ได้กลับต่างกันราวฟ้ากับเหว มันไม่ได้ดั่งใจ มันไม่เนี้ยบเท่าไหร่ มันไม่ใช่ทรงผมเมื่อวาน ไม่ว่าจะเป็นทรง Slick Back หรือ Side Part ที่ดูว่าทำง่าย กลับกลายเป็นทรงอะไรก็ไม่รู้ไปเมื่อเราลงมือทำเอง

ที่ผ่านมาหลายคนได้แต่สงสัยแล้วก็ลืมมันไป วนลูปความดีใจปนผิดหวังในข้ามคืนแบบนี้ใหม่อย่างไม่รู้จบและไม่เข้าใจว่า “สาเหตุคืออะไร” เรามาตอบให้เลยครับว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่ “วอลลุ่ม”

เราอาจจะเคยสงสัยว่าทำผมตัดผมทรงเดียวกับเพื่อนเป๊ะ แต่เพื่อนเรากลับเซ็ทออกมาได้เท่อย่างง่ายดายเพียงเป่า ๆ เสย ๆ ในขณะที่เรานั่งบรรจงม้วนทีละช่อ ใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมประโคมจนหนักศีรษะก็ยังเละไม่เป็นทรงอยู่วันยังค่ำ นั่นอาจจะเป็นเพราะลักษณะเส้นผมที่แตกต่างกันไปของผู้ชายไทย ส่วนใหญ่ชายไทยจะมีเส้นผมที่เล็ก ตรง และแบน ไม่มีวอลลุ่ม ทำให้จัดทรงผมให้เปลี่ยนทิศทางหรือยกตัวได้ยากมาก (แต่ก็มีข้อดีเรื่องสุขภาพเส้นผมที่มักจะดี เงางาม) ในขณะที่บางคนอาจจะมีเส้นผมที่ใหญ่กว่า หยิกกว่า ซึ่งมีข้อดีคือจัดทรงง่ายกว่า

หรือถ้านึกไม่ออกให้ลองจินตนาการเส้นผมผู้ชายญี่ปุ่น ที่มักจะมี Texture มากกว่าผู้ชายไทย ไม่ว่าจะมาจากธรรมชาติสร้าง หรือผ่านการดัดผมมาก็ตามที หนุ่มแดนอาทิตย์อุทัยจึงสามารถสร้างสรรค์ทรงผมได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

ด้วยเหตุนี้ ผู้ชายไทยจึงเริ่มหันไปดัดผมกันมากขึ้นเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม และ Texture เพื่อจะได้ง่ายในการจัดทรงผมให้ดูมีสไตล์กว่าผมตรงที่พุ่งตรงมาปิดหน้าตามแรงโน้มถ่วงของโลก แม้จะต้องแลกกับข้อเสียใหญ่หลวงที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว นั่นคือการใช้เวลาทำนานราว 4-6 ชั่วโมง สุขภาพผมที่เสียแห้ง ขาดน้ำหนัก และมักจะร่วงง่ายจนน่าใจหาย อาจทำให้เส้นผมหมดไปก่อนวัยอันควร แถมเมื่อเวลาผ่านไป ก็ต้องไปดัดผมใหม่ เจ็บหนังศีรษะใหม่อีกแล้ว (อย่าน้อยใจไป เพราะคนผมหยิกก็มักจะไปยืดผมให้ตรงสวย เข้าทำนองคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า)

ทุกครั้งที่ช่างทำผมเซ็ทให้เราที่ร้าน ไม่ว่าเส้นผมจะตรงหรือแบนแค่ไหน มืออาชีพเหล่านั้นก็สามารถปลุกเสกให้เส้นผมกลายเป็นทรงอย่างที่เราต้องการได้ แต่สาเหตุที่พวกเรามักทำเองที่บ้านไม่ได้ นั่นเพราะความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสระ ไดร์ และการใช้อุปกรณ์แต่งผมต่าง ๆ ที่เป็นหัวใจสำคัญของการเซ็ทผม ซึ่งว่ากันตามตรงก็คงไม่มีใครจะซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดนั้นไว้ที่บ้านได้อยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งหลัก ๆ ที่เราอยากแนะนำให้ลงทุนกับมันแบบไม่ต้องเสียดาย เป็นของที่จำเป็นต้องมี เพราะมันสามารถสร้างวอลลุ่ม อันเป็นหัวใจสำคัญในการเซ็ททรงผมให้ง่ายได้ดั่งใจที่เราทำได้เองที่บ้านก็คือ

สำหรับคนที่ผมเส้นเล็ก ตรง และแบน ใครเคยลองปล่อยให้ผมแห้งเองแล้วเซ็ทผม จะรู้ดีกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยไม่ว่าเราจะโปะ Wax, Gel หรือฉีดสเปรย์อัดเข้าไปแค่ไหน นั่นเพราะโคนผมไม่ได้ถูกบังคับทิศทางในขณะที่ยังเปียกหมาดอยู่

ไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ชิ้นนี้แนะนำว่าควรลงทุนกับมัน เพราะมืออาชีพมักจะใช้ไดร์ไฟแรงสูงระดับ 4,000 Watt ขึ้นไปที่มีพร้อมทั้งลมร้อนลมเย็นหลายระดับ ซึ่งช่วยบังคับทิศทางเส้นผมให้ไปตามที่ใจเราต้องการได้ง่ายขึ้นตามแต่ทรงผมที่เราต้องการ

การสลับลมร้อนและลมเย็น มีผลมากในการสร้างวอลลุ่มและล็อคทรงผมให้อยู่ทรงได้ดีกว่า ซึ่งการจะยกโคนผมให้มีวอลลุ่มได้นั้น แทบจะไม่มีทางที่ไดร์พลังงานหลัก 100 Watt จะทำได้ เพราะอันนั้นจะเน้นเป่าให้ผมแห้งมากกว่า

มีไดร์ แต่ไร้แปรง เหมือนนักสู้ที่มีแขนแต่ไร้อาวุธ เพราะการไดร์ผมเพื่อยกโคนและบังคับทิศทางนั้นต้องอาศัยลมร้อนที่เข้าขั้นร้อนมาก การใช้มือแสกเพียงอย่างเดียวไม่พอเพราะทนความร้อนไม่ไหว แปรงกลมที่เราเห็นทั่วไปจะสามารถช่วยไดร์ยกโคนผมได้ดี สร้าง Texture จากการม้วนช้อนเพื่อไดร์ไล่ไปตั้งแต่โคนผมไปสู่ปลาย เพื่อจะได้ทั้งผมที่พองมีวอลลุ่ม และช่วยให้ปลายผมงุ้มทิ้งตัวไปในทิศทางที่ต้องการได้

สำหรับคนที่คิดว่าแปรงมันดูสาวเกินไป จะให้หวีเท่ ๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นหมายคือการสร้างวอลลุ่มและ Texture ที่ได้อาจจะเป็นรองแปรงอยู่พอสมควร

อย่างไรก็ตาม การใช้ไดร์และแปรงในการสร้างวอลลุ่มและ Texture นั้นเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความคล่องแคล่วพอสมควร ซึ่งแต่ละทรงผม แต่ละความยาว ก็ต้องใช้วิธีการที่แตกต่างกันออกไป ขอให้ทำความเข้าใจพื้นฐานของมันก็จะรู้เองว่ายกจุดไหน งุ้มตรงไหน เป่าตรงไหน ผลที่ได้คืออะไร ก็จะสามารถปรับใช้ได้ทุกสถานการณ์

 

นอกจากหัวใจหลักสองอุปกรณ์นี้ ยังมีผลิตภัณฑ์กลุ่ม Pre-Styling ใส่ผมที่ช่วยสร้างวอลลุ่มให้เส้นผมได้เหมือนกัน เช่นกลุ่ม Powder, Foam, Mousse ซึ่งมักจะมีราคาค่อนข้างสูงและใช้ยาก เพราะต้องกะปริมาณให้พอดี น้อยไปก็ไม่เห็นผล มากไปจะกลายเป็นผมมัน และอาจจะมีผลทำให้หนังศีรษะต้องรับศึกหนักเกินไป และถ้าขาดการไดร์ที่ดี ต่อให้ใส่ไปก็อาจจะไม่เห็นผล แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะในตลาดก็เพิ่งจะมีสินค้าที่ใช้ง่าย และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของพวกเราออกมา นั่นคือ 3D Volume Shampoo ที่แค่สระผมก็สร้างวอลลุ่มได้ทันที

เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมร้านตัดผมต้องสระผมเรา 2-3 รอบกว่าจะลงมือตัดหรือเซ็ทให้เรา นั่นเพราะผู้ชายอย่างพวกเรามักจะไม่ได้สระดูแลดีเท่าผู้หญิง ทำให้มีทั้งความมัน หรือมีผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหลงเหลืออยู่บนโคนผมบ้าง ยิ่งผมมันยิ่งหนัก รีบแบน และเกาะตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ยากต่อการเซ็ทผมกว่าเส้นผมที่สระล้างอย่างสะอาด ซึ่งในปัจจุบันนอกจากแชมพูทั่วไป ยังมี MARO 3D Volume Up Shampoo ที่สามารถสร้างวอลลุ่มให้จัดทรงผมได้ง่าย และยังมีคุณสมบัติดูแลสุขภาพผมได้พร้อมกันอีกด้วย

MARO 3D Volume Up Shampoo คือแชมพูที่มีจุดเด่นคือ Japanese Innovation ผสมผสานนวัตกรรมใหม่สุดฮิตนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยเพิ่มวอลลุ่มของผม ทำให้ผมดูหนาขึ้นถึง 1.5 เท่า ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ปกป้องและฟื้นบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีถึงแกนผม โดยรวมเอา Shampoo + Conditioner + Styling Base เข้าไว้ด้วยกันในขวดเดียว เพียงแค่สระ เป่า เซ็ท ก็ได้ทรงผมมีมิติที่เซ็ทง่ายกว่า พร้อมเริ่มวันใหม่ในทุกโอกาสด้วยความมั่นใจด้วย 3 คุณสมบัติ

1. 3D Fiber Ex เทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของ Maro 3D Volume up Shampoo ที่ใช้เส้นใยธรรมชาติ ในการช่วยยกโคนผมให้มีวอลลุ่มขึ้นถึง 1.5 เท่า

2. World’s 1st Defenscalp Formulation สูตรปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมสูตรแรกของโลกที่ช่วย ลดฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) พบมากบริเวณหนังศีรษะและราก ผม ยับยั้งกระบวนการสร้างเส้นผ มที่งอกขึ้นแบบผิดปกติ ทำให้ผมร่วงเยอะ จนทำให้เกิดภาวะผมบางและหัวล้านในที่สุด

3. 3D Core Hair Protein ผสาน 3 คุณค่าของโปรตีนจากธรรมชาติ  ได้แก่ โปรตีนถั่วเหลือง โปรตีนน้ำนม และกรดกูลตามิค ที่จะช่วยฟื้นบำรุง และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม ล้ำลึกถึงแกนผม

หลังสระผมด้วย MARO 3D Volume Up Shampoo เสร็จ จะรู้สึกได้เลยว่าเส้นผมมี Texture มากขึ้น และหลังจากนั้นก็จัดทรงผมที่ต้องการได้ง่ายดายขึ้นในไม่กี่ขั้นตอน ใช้ไดร์เป่าผมเป่าจากโคนด้านล่างขึ้นบนไปในทิศทางที่ต้องการ ใช้แปรงหรือนิ้วช่วยจัดทิศทางที่ต้องการ ซึ่งจะรู้สึกได้เลยว่าจัดทรงได้ง่ายขึ้นเยอะ ถ้าอยากให้ผมอยู่ทรงนานทั้งวัน ก็แค่ใช้ Wax หรือ Gel ช่วยล็อคทรงผม แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย จากการเซ็ทผมที่สุดจะยุ่งยาก ก็กลายเป็นทรงผมที่มีวอลลุ่มเซ็ทง่าย ดูมี Texture มากกว่าภายในไม่กี่นาที

MARO 3D Volume Up Shampoo แชมพูนำเข้าจากญี่ปุ่นที่มียอดขาย 6.3 ล้านขวดภายใน 2 ปี เพียงแค่สระครั้งแรกก็สามารถเห็นผลได้ทันที ราคาขวดละ 495 บาท หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Watsons, Tops, Lazada, ร้านขายยาและห้างสรรพสินค้า ชั้นนำทั่วไป

Visit Website : https://www.facebook.com/MARO.THAILAND/

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line