Entertainment

งานวิจัยชี้! ดนตรีเมทัลไม่ได้มีดีแค่ความโหด แต่ยังช่วยระงับความโกรธและแฝงแนวคิดรักษ์โลกเอาไว้ด้วย

By: JEDDY July 20, 2022

คุณรู้จักดนตรีแนวเมทัลดีขนาดไหน? บางคนอาจจะมาก บางคนอาจจะน้อย หรือบางคนก็อาจจะไม่รู้เลย ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันเป็นดนตรีเฉพาะกลุ่มที่ต้องเสริมใยเหล็กในหูมาแล้วจึงได้เสพมันได้้อย่างเข้าถึงอารมณ์ แถมภาพจำของใครหลาย ๆ คนต่อชาวเมทัลมันคือความโหดร้ายไปซะอีก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอก เพราะมีการพิสูจน์ได้ทางวิทยศาสตร์มาแล้วว่าดนตรีเมทัลมีอะไรดี ๆ มากกว่าที่คิดไว้มาก ดังเช่นเรื่องราวต่อไปนี้


ภาพลักษณ์ชาวเมทัลไม่จำเป็นต้องโหดเสมอไป

Johan Hegg นักร้องนำ Amon Amarth วงดนตรีแนวเมโลดิก เดธ เมทัล จากสวีเดน ที่มักนำเสนอเรื่องราวของนวนิยายไวกิ้ง

หลาย ๆ คนยังติดตากับชาวเมทัลว่าต้องมีภาพลักษณ์ที่ดูดุดัน, ลึกลับ, น่ากลัว หรือมีทรงผมและหนวดเคราราวกับหลุดออกมาจากยุคไวกิ้ง โอเคถ้าคุณจะคิดแบบนั้นก็ไม่ผิด เพราะภาพลักษณ์ของวงดนตรีเมทัล โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้าสู่ยุค 2000’s ก็มีลักษณะแบบนั้นจริง ๆ แต่สำหรับในปัจจุบันมันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มีความหลากหลายเกิดขึ้นมากมาย การแต่งตัวก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องคุมธีมด้วยสีดำเท่านั้น และไม่ได้เป็นคนที่มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

ทาง Laina Dawes นักชาติพันธุ์วิทยาชาวแคนาดา เจ้าของหนังสือ “What Are You Doing Here? A Black Woman’s Life and Liberation in Heavy Metal” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสำรวจชาวอเมริกันผิวสีที่มีแนวโน้มหันมาฟังเพลงเมทัลมากกว่าเดิม เธอได้สัมภาษณ์ทั้งศิลปินและแฟนเพลงเมทัลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ข้อมูลว่าดนตรีแนวพังก์, เพาเวอร์ไวโอเลนซ์ และไกรคอร์ หรือแนวอื่น ๆ ที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง มันดันไปตรงกับความรู้สึกของบรรดาเยาวชนที่ต้องการระบายความอัดอั้นคับแค้นใจจากการถูกกดขี่ข่มเหงทั้งในแบบบุคคลรวมไปถึงระบบการปกครองด้วย

Lajon Witherspoon นักร้องนำผิวสีจาก Sevendust วงดนตรีแนวนูเมทัล

เอาจริง ๆ แล้วเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองมันอยู่คู่กับสายดนตรีฮาร์ดคอร์/พังก์ มาอย่างช้านานแล้ว แต่กลับไม่ได้ถูกพูดถึงเท่าที่ควร เพราะเรื่องราวการเรียกร้องความเป็นธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคมกลายเป็นดนตรีแร็ปที่ถูกพูดถึงมากกว่าในอดีต อย่างเช่นคณะ N.W.A. เป็นต้น แต่ปัจจุบันทาง Laina Dawes ได้ให้ความเห็นว่าเพลงแร็ปมีความสุดโต่งของเนื้อหาน้อยลงไปมาก จึงทำให้เยาวชนรุ่นใหม่หันไปให้ความสนใจกับดนตรีสายหนักหน่วงมากกว่าเดิม


ฟังเพลงเมทัลไม่ได้กระตุ้นความรุนแรง

 George “Corpsegrinder” Fisher นักร้องนำ Cannibal Corpse วงดนตรีแนวเดธเมทัล ที่มีเนื้อหาสุดโหด แต่ชีวิตปกติเขาคือคุณพ่อที่ชอบคีบตุ๊กตามาให้ลูก ๆ

ด้วยเหตุที่มีจำนวนเยาวชนสถาปนาตัวเองเป็นชาวเมทัลเฮดมากขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่ตามมาคือบรรดาผู้ปกครองต่างไม่สบายใจเพราะรู้สึกเป็นห่วงความรุนแรงทั้งการทำร้ายตัวเองและการทำร้ายคนอื่นที่อาจจะเกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเอง เพียงเพราะเข้าใจว่าเพลงที่รุนแรงคนฟังต้องรุนแรงตามแน่นอน แต่นั่นเป็นสิ่งที่คุณทึกทักกันเอาเอง เพราะความเป็นจริงแล้วมีผลวิจัยหลายแห่งยืนยันว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด

ปี 2010 นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเฮเรียต-วัตต์ ของประเทศสกอตแลนด์พบว่าแฟนเพลงคลาสสิคและแฟนเพลงเมทัลมีความชื่นชอบการแสดงละครเหมือน แตกต่างกันตรงที่วัยหนุ่มจะชอบเพลงของ Metallica มากกว่า Mozart ซึ่งเอนเอียงไปทางคนสูงอายุ

ปี 2013 มหาวิยาลัยเวสต์มินสเตอร์ และเฮลป์ ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการวิจัยและพบว่าชาวเมทัลเฮดให้ความสนใจกับการถูกมองว่าตนเองเป็นคนที่ “ไม่เหมือนใคร” มากกว่าคนฟังเพลงแนวอื่น ๆ, เป็นคนที่ไม่ค่อยมีศาสนา และเป็นคนที่ให้ความนับถือตัวเองค่อนข้างต่ำ

การแต่งหน้าแบบ “Corpse Paint” เป็นเอกลักษณ์ของดนตรีแนวแบล็ก เมทัล

ปี 2015 นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์รายงานว่าชาวเมทัลเฮดมีการจัดการระบบและวิเคราะห์การฟังเพลงด้วยการวิ่งเข้าหาดนตรีที่มีรายละเอียดซับซ้อนและเข้มข้น มากกว่าจะเลือกไปฟังเพลงที่ป๊อปฟังง่าย เช่นชาวเมทัลเฮดอาจจะเลือกฟังเพลงชูเกซมากกว่าฟังเพลงป๊อปเมนสตรีมทั่วไป

ปี 2018 ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแมคควอรี ในประเทศออสเตรเลีย ได้ตีพิมพ์บทความที่ระบุว่าการฟังเพลงโหด ๆ ไม่ได้มีแนวโน้มว่าผู้ฟังจะอยากเป็นฆาตกรต่อเนื่อง และไม่ได้ทำให้คนฟังอยากจะใช้ความรุนแรงตาม


เพลงเมทัลคือยาระงับความโกรธ

Simone Simons นักร้องนำ Epica วงดนตรีแนวซิมโฟนิก เมทัล ที่นำเสนอเรื่องราวของปรัชญาพุทธศาสนา โดยเฉพาะในอัลบั้ม “The Quantum Enigma”

ส่วนผลวิจัยที่ชัดเจนมากที่สุดเกิดขึ้นโดยการวิจัยของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้เชิญแฟนเพลงเมทัลทั้งหมด 39 คนเพื่อทดสอบความโกรธในระดับรุนแรงของตัวเอง โดยทางผู้วิจัยได้ให้ผู้ทดสอบนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาฉุดขาดสุด ๆ หลังจากนั้นก็ให้ฟังเพลงเมทัลในเพลย์ลิสต์ที่พวกเขาชื่นชอบ ในตอนแรกมีการคาดการกันว่าความโกรธจะต้องทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ผลลัพธ์กลับออกมาตรงกันข้าม เพราะผู้ทดสอบกลับกลายเป็นมีความคิดในเชิงบวกและเกิดแรงบันดาลใจที่ดีขึ้นมาแทน แสดงว่าการฟังเพลงเมทัลมันช่วยระบายความโกรธออกไปได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตามผลวิจัยในแง่ลบก็ยังปรากฎขึ้นมาอยู่บ้าง ในปี 2015 มีการสำรวจชาวเมทัลในยุค 80’s พบว่ามีชีวิตในวัยรุ่นของพวกเขามีความเสี่ยงตามแนวคิด “Sex, Drugs, Rock N’ Roll” แต่ถึงอย่างนั้นคนเหล่านี้กลับรู้สึกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่าเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้ฟังเพลงเมทัล แถมยังมีความสามารถปรับตัวได้ดีกว่าคนทั่วไปเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่

ส่วนใครที่กำลังคิดจะถามคนที่ฟังเพลงเมทัลว่าทำไมถึงชอบแนวนี้? นอกจากความแตกต่างแล้ว มันก็แค่ “ความสุขและความชอบ” คำตอบมีง่าย ๆ แค่นี้เอง


เพลงเมทัลช่วยรักษ์โลก

 

David Angeler นักนิเวศวิทยาและนักวิจัยระบบที่ซับซ้อน ได้ตีพิมพ์บทความปี 2016 กับทาง SpringerPlus เกี่ยวกับศักยภาพของดนตรีเมทัลช่วยให้เราไม่จมไปกับความทุกข์ได้ ทาง Angeler มองว่าการสร้างสังคมที่มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ซับซ้อนในสังคมและตัวบุคคล ดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่ช่วยให้ผู้คนรับมือกับอารมณ์ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่นการปลดปล่อยความรู้สึกเครียดออกมาเมื่อฟังเพลงเมทัล จะมีส่วนช่วยให้ผู้คนในชุมชมมีความเข้มแข็งทางอารมณ์มากยิ่งขึ้น

ด้วยชุดแนวคิดดังกล่าวทาง Angeler ได้มองลึกลงไปอีกชั้น หากเหล่าบรรดาเมทัลเฮดมีส่วนร่วมช่วยเหลือชุมชนจะเป็นอย่างไรบ้าง? ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นบางแล้วเช่นจากวงดนตรีแนวแบล็ก เมทัล, แธรช เมทัล, ไกรคอร์ และในแนวเมทัลแขนงย่อยอีกหลายแนว ที่บางวงมุ่งเน้นเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และการพังทลายของสิ่งแวดล้อม เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์

เรื่องราวเหล่านี้ปัจจุบันมันคือปัญหาระดับสากลที่เกิดขึ้นทุกวัน ทำให้วงเหล่านี้เลือกที่จะหยิบคอนเทนต์ดังกล่าวมาใส่ไว้ในบทเพลง และมันได้กลายเป็นสารที่ส่งต่อออกไปสู่แฟนเพลงจนอาจจะเกิดการตกผลึกทางความคิดของผู้ฟังให้อยากลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหา อาจจะนำพาแฟนเพลงไปสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์ในอนาคตก็เป็นได้


สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันคือข้อดีที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้สัมผัสเพียงเพราะไม่ได้รู้จักบริบทของเพลงเมทัลที่มีความหลากหลายไม่ต่างจากแนวเพลงอื่น ๆ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดของคุณเลยแม้แต่น้อย แต่หากคุณได้อ่านบทความนี้แล้วนี่ก็อาจจะเป็นกุญแจดอกใหม่ที่จะนำพาให้คุณไปพบกับโลกของดนตรีที่หนักหน่วงรุนแรง แต่แฝงไปด้วยความสวยงามแบบที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อนอย่างแน่นอน

Source : 1

 

 

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line