Life

ทำงาน 4 หยุด 3! ไมโครซอฟต์เมืองเกาะพิสูจน์แล้วว่าพนักงานทำงานได้ดีขึ้นกว่า 40%

By: unlockmen November 5, 2019

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าตนกำลังใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจขาลงที่ขัดกับค่าครองชีพที่ทะยานสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทุ่มเทกับการทำงาน และหวังว่าสักวันสิ่งที่ทำมาอย่างเหน็ดเหนื่อยจะสร้างความก้าวหน้าและมั่นคงให้กับชีวิตได้

เมื่อระบบทุนนิยมบีบบังคับจนเราไม่สามารถบริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม แนวคิดเรื่อง Work-Life Balance ก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในสังคมและมีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของคนมากขึ้น Work-Life Balance เป็นแนวคิดที่ไม่ได้มุ่งเน้นให้ทำงานหนักอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่ได้อยากให้พักผ่อนสบายเกินจนหลงลืมหน้าที่การงาน หากตอกย้ำวิถีการดำเนินชีวิตแบบทางสายกลางที่ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป ซึ่งมันผนวกเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี

แทบไม่อยากเชื่อว่าแบ่งเวลาทำงานและใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างสมดุล จะเพิ่มประสิทธิภาพของคนและประสิทธิผลของงานได้จริง แต่บริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) ในญี่ปุ่นพิสูจน์แล้วว่า การทำงาน 4 วัน และหยุด 3 วัน นั้นมีศักยภาพมากกว่าการทำงาน 5 วัน และหยุด 2 วันเสียอีก!

บริษัทไมโครซอฟต์ในประเทศญี่ปุ่นจัดแคมเปญ “Work Life Choice Challenge 2019 Summer” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาโดยเพิ่มวันหยุดให้กับพนักงาน 2,300 คน จากที่เคยหยุดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เปลี่ยนมาเป็นหยุดทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ของเดือนแทน แถมยังให้พนักงานทำงานเต็มเวลาและจ่ายค่าจ้างเท่าเดิมตามปกติ

นอกจากจะกำหนดระยะเวลาการประชุมสูงสุดไว้ที่ 30 นาที ยังตัดการประชุมใหญ่ ๆ ให้สั้นลง และเลือกประชุมด้วยข้อความอิเล็กทรอนิกส์แทนตัวบุคคล เพื่อไม่ให้เสียเวลาทำงานที่มีเพียง 4 วันต่อสัปดาห์

มาตรการนี้ช่วยให้พนักงานของไมโครซอฟต์ญี่ปุ่นกระตือรือร้นกับการทำงานเป็นพิเศษ มุ่งมั่นสะสางงานทุกอย่างให้เสร็จสรรพภายในสัปดาห์นั้น ๆ แต่สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดของ “Work Life Choice Challenge 2019 Summer” ครั้งนี้คือช่วยประหยัดทรัพยากรของบริษัทเป็นอย่างมาก ทั้งลดการใช้ไฟฟ้า 23.1% และลดการใช้กระดาษพิมพ์งาน 59%

ยิ่งไปกว่านั้นการทำงาน 4 วัน และหยุด 3 วัน ของพนักงาน 2,300 คน ยังช่วยกระตุ้นกำไรและเพิ่มผลผลิตมากถึงร้อยละ 39.9 เมื่อไมโครซอฟต์เห็นว่ามาตรการนี้ได้ผลตอบรับที่ดี จึงวางแผนจะนำ Work Life Choice Challenge กลับมาใช้อีกครั้งในช่วงฤดูร้อนของปีหน้า

หากคุณยังต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำหรือแบกคอมกลับไปทำงานต่อที่บ้านจนกลายเป็นเรื่องปกติ โปรดรู้เอาไว้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ตารางการใช้ชีวิตของคุณผิดเพี้ยนไป และอาจร้ายแรงจนถึงขั้นทำให้แพสชันที่มีต่อการทำงานหายไปโดยไม่รู้ตัว

แม้การทำงาน 4 วัน และหยุด 3 วัน ดูจะเป็นฝันกลางวันที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง แต่หนุ่ม ๆ ก็สามารถมีความสุขกับการทำงานได้ด้วยการจัดสรร Work-Life Balance ให้เหมาะสม ทำงานอย่างเต็มที่ในเวลางาน พักผ่อนให้สุดเหวี่ยงในเวลาว่าง และกำหนดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณบริหารเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ตราบเท่าที่ ‘ความสุข’ ยังเป็นกลไกที่ช่วยขับเคลื่อน ‘ชีวิต’ การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว ก็คงเป็นอีกเรื่องที่หนุ่ม ๆ ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจาก ‘เงิน’ ก็มีความสุขนี่ละที่ทำให้คุณทำงานต่อไปได้เรื่อย ๆ

 

SOURCE

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line