FASHION

ฉลอง 75 ปีแห่งความสำเร็จของ Mido Ocean Star ใน 2019 Red Bull Cliff Diving World Series

By: Chaipohn October 2, 2019

ย้อนไปวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สิ้นสุดลง Georges Schaeren (จอร์จ แชเรน) ก่อตั้งแบรนด์ Mido ขึ้นมาและถือเป็นวันสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและเปี่ยมด้วยความกล้าแกร่งของผู้นำในการมองไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ

จนกระทั่งปี 2018 นับเป็นปีสุดพิเศษที่ Mido มีอายุครบ 100 ปี ที่ยังคงเดินหน้านำเสนอเรือนเวลาที่เป็นคอลเล็กชันใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ซึ่งแต่ละรุ่นจะยังคงคุณค่าที่มีอยู่ใน DNA ของแบรนด์ Mido ตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา การเลือกใช้วัสดุที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และนวัตกรรมทางด้านเทคนิค

ปรัชญาของ Mido ตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดในการผสมผสานระหว่างนวัตกรรม การสร้างสรรค์ และประโยชน์ในการใช้งานที่ถูกหล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดย Mido ได้นำเสนอถึงคุณค่าเหล่านี้ผ่านทางงานออกแบบในนาฬิกาแต่ละคอลเล็กชันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของโลกแต่ละแห่งซึ่งมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นบนบกหรือแม้แต่ในโลกใต้น้ำ ซึ่ง Mido Ocean Star กับสัญลักษณ์ปลาดาว ได้พิสูจน์ความสำเร็จของเทคโนโลยีชั้นสูง ในราคาที่สมเหตุผมที่สุดเท่าที่เราจะหาซื้อได้ ซึ่งถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 75 ปี และการฉลองครั้งนี้ก็ยิ่งใหญ่สมกับความเป็น Mido เพราะได้ร่วมมือกับ Red Bull ในการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน 2019 Red Bull Cliff Diving World Series

The Guggenheim museum, Bilbao, Spain

Mido เลือกเมืองบิลเบา ประเทศสเปนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ในการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของ Ocean Star คอลเล็กชันที่มีความโดดเด่นและคลาสสิค โดยเมืองแห่งนี้ได้ถูกเลือกขึ้นมาเป็นสถานที่จัดงานที่สำคัญของแบรนด์ด้วยเหตุผล 2 ประการด้วยกันคือ เรื่องเกี่ยวกับมหาสมุทร และการเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกที่หลงใหลในเรื่องของสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างพิพิธภัณฑ์ Guggenheim และเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการกระโดดน้ำบนหน้าผารายการยิ่งใหญ่

ในวันที่ 13 และ 14 กันยายนนี้ บรรดาแขกของแบรนด์จะได้รับการต้อนรับด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และน่าประทับใจผ่านทางโลกแห่ง Ocean Star โดยการจัดงานในครั้งนี้จะรวมไปถึงการเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ล่าสุดอย่าง Ocean Star Tribute ซึ่งจะถูกจัดขึ้นที่ Real Club Marítimo del Abra in Getxo บนบรรยากาศริมทะเลท่ามกลางความหรูหราที่จะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำ นอกจากนั้น จะยังได้สัมผัสกับการแข่งขันกระโดดน้ำบนหน้าผาซึ่งเป็นการแข่งขันที่สุดเร้าใจและต้องอาศัยความแม่นยำและเที่ยงตรงของผู้เข้าร่วมแข่งขันที่มีความกล้าหาญอย่างสุดพิเศษในการกระโดดจากแพล็ตฟอร์มที่มีความสูง 27 เมตร! รวมถึงนาฬิกาที่ถือว่ามีส่วนร่วมและเป็นตัวแทนของการแข่งขันอย่าง Mido Ocean Star Diver 600 อีกด้วย

Conversation with Franz Linder ประธานของ Mido:

ไม่ง่ายนักที่เราจะได้พูดคุยกับ Mr. Franz ซึ่งเราเคยคุยกันมาแล้วในโอกาสฉลองครบ 100 ปี และในครั้งนี้ก็ได้ไอเดียที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Mido Ocean Star หลายอย่าง

“Mido เป็นนาฬิกาที่ดีในทุกด้าน เทคโนโลยี Diving ที่เราคิดค้นสำหรับ Ocean Star ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ทำได้ดีไม่แพ้ใครในกลุ่ม Diving Watch รวมถึงการดีไซน์และเทคโนโลยีทุกอย่างใน Mido มันจึงไม่ใช่แค่นาฬิกาที่ราคาเข้าถึงง่าย แต่มันคือที่สุดของทุกด้าน เป็นนาฬิกาที่คุณสามารถใส่มันได้จริงในทุกโอกาส และสวมใส่มันไปได้ตราบนานเท่านาน เพราะทั้งเครื่องที่ดี วัสดุที่คงทน และการออกแบบที่เหนือกาลเวลา”

“Mido Ocean Star เป็นนาฬิกาที่ผมใส่ติดข้อมืออยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่วนตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษ OCEAN STAR TRIBUTE ซึ่งมีความเป็นต้นตำรับ ผสมผสานของคุณลักษณะทั้งหมดนาฬิการุ่นดำน้ำในช่วงทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นแบบรากฐานที่สำคัญของ Mido Ocean Star ทุกรุ่น และอีกเรือนคือ OCEAN STAR DIVER 600 ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น เพียบพร้อมเทคโนโลยี รังสรรค์เพื่อการสำรวจท้องทะเลลึกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ถึง 60 บาร์จากฝาครอบประกอบด้วย Super-LumiNova Grade X ® มีวาล์วฮีเลียมและกลไกโครเมียมนาฬิกาจับเวลาที่ผ่านการรับรองจาก COSC และสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง

‘ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา คอลเล็กชัน Ocean Star ถือเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกในเรื่องความสามารถในการกันน้ำ จากการไม่หยุดนิ่งในการค้นคว้าเพื่อพัฒนานวัตกรรมล่าสุด ทาง Mido ได้มีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ และนำเสนอกับเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมที่นำมาสร้างสรรค์นาฬิกากันน้ำที่มีประสิทธิภาพและไว้ใจได้ในความทนทาน จะมีอะไรดีไปกว่าเมืองบิลเบา สถานที่ซึ่งมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องของมหาสมุทรและเป็นสถานที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของโลกอย่างพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็น Mido ทั้ง 2 อย่างได้อย่างลงตัว นั่นคือ คอลเล็กชันของนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในน้ำ และความสอดคล้องกับปรัญชาของแบรนด์อย่าง ‘Inspired by architecture’”

การจัดงานครั้งนี้จะนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีในด้านการกันน้ำของ Mido ที่มีจุดเริ่มต้นในทศวรรษที่ 1930 โดยในตอนนั้น Mido ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในยุคนั้นอย่างระบบ Aquadura ขึ้นมา และมรดกชิ้นนี้ได้ถูกพัฒนาและถ่ายทอดมาสู่เทคโนโลยีที่ถูกใช้งานอยู่ใน Ocean Star Diver 600 ซึ่งมีความสามารถในการกันน้ำในระดับ 60 บาร์ (600 เมตร/1,968 ฟุต) และมาพร้อมกับระบบระบายก๊าซฮีเลี่ยม หรือ Helium Valve และฝาหลังที่มีการสลักรูปปลาดาวที่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของคอลเล็กชัน Ocean Star มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

 

1944 – 2019 : 75 ปี แห่งเรือนเวลาที่เกิดมาเพื่อการใช้งานในโลกใต้น้ำ

นับจากปี 1944 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นที่ชื่อของ Ocean Star ได้ถูกจดทะเบียน Ocean Star ถือเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกในเรื่องความสามารถในการกันน้ำ โดยในทศวรรษที่ 1930 Mido ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบการกันน้ำที่ชื่อว่า Aquadura ซึ่งเป็นการออกแบบระบบประเก็นของเม็ดมะยมบนตัวเรือนนาฬิกาเพื่อให้มีความสามารถในการกันน้ำ นับจากการคิดค้นนวัตกรรมชิ้นนั้น ซึ่งถือเป็นการเปิดอีกโลกแห่งการพัฒนานาฬิกาเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ Mido ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านนี้อย่างต่อเนื่องและยังคงความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการพัฒนานาฬิกาที่มีความสามารถในการกันน้ำ

ในทศวรรษที่ 1950 Mido ได้สร้างสรรค์ Superwatertest ขึ้นมาซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบความสามารถในการกันน้ำของนาฬิกา ผลจากการที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีในการกันน้ำ ทำให้ Mido เริ่มพุ่งเป้าในการสื่อสารความสามารถของตัวเองในด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกาสำหรับการใช้งานในน้ำเมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980 และด้วยแนวคิดนี้ทำให้เกิดสโลกแกนที่โดดเด่นและเป็นที่กล่าวถึงในยุคนั้นคือ ‘King of waterproof’ และ ‘The watch of the captain’ ขึ้นมา สำหรับนาฬิการุ่นที่เปิดตัวในช่วงทศวรรษที่ 2000 ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ Mido นับจากวันนี้เป็นต้นไป นาฬิกาทุกรุ่นที่อยู่ในคอลเล็กชัน Ocean Star จะต้องมีความสามารถในการกันน้ำไม่น้อยกว่า 20 บาร์ (200 เมตร/660 ฟุต)

สัญลักษณ์ปลาดาว ที่มีมายาวนานได้กลายมาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในเรื่องของการกันน้ำ และความทนทานในระดับสูง โดยได้สัญลักษณ์นี้ได้ถูกนำมาใช้ตกแต่งที่ฝาหลังของนาฬิกาในแต่ละรุ่น ในตอนนี้ คุณภาพใน 2 เรื่องนี้ได้ถูกรวมอยู่ในนาฬิการุ่น Ocean Star Diver 600 ที่มาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำในระดับที่สูงสุดถึง 60 บาร์ (600 เมตร/1,968 ฟุต) การสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นผ่านทางเทคโนโลยีการกันน้ำในระดับสูงสุด

เรือนเวลารุ่นนี้ได้รับการติดตั้ง Helium Valve ซึ่งจะทำหน้าที่ในการระบายก๊าซฮีเลี่ยมออกจากตัวเรือนนาฬิกา เพื่อป้องกันไม่ให้นาฬิกา โดยเฉพาะในส่วนของขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิกและกระจกหน้าปัดแบบ Sapphire เกิดการเสียหายอันเป็นผลมาจากแรงดันที่เปลี่ยนไปในขณะที่ขึ้นสู่ผิวน้ำ หัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมในโลกการผลิตนาฬิกา นั่นคือ กลไก Caliber 80 ซึ่งมีความเที่ยงตรงและได้รับมาตรฐานการรับรองในระดับ Chronometer ที่ผ่านการทดสอบตามาตรฐานของ COSC และยังใช้ใยลานที่ผลิตจากซิลิคอน ซึ่งนอกจากจะให้กำลังสำรองที่สูงสุดถึง 80 ชั่วโมงแล้วยังมีความโดดเด่นในเรื่องความเที่ยงตรงและความทนทานต่อแรงกระแทก

 

The Mido Ocean Star Tribute: ผลผลิตใหม่จากประวัติศาสตร์

75 ปีนับจากที่รุ่นแรกของ Ocean Star ถูกเปิดตัวออกมา Mido ได้เปิดตัวเรือนเวลารุ่นพิเศษที่ถูกสร้างสรรค์โดยแผงกลิ่นอายของความคลาสสิคของคอลเล็กชันที่เปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์ โดย Ocean Star Tribute ทั้ง 2 รุ่นได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยอ้างอิงจากงานออกแบบของนาฬิกาดำน้ำของ Mido ที่เปิดตัวในทศวรรษที่ 1960 รุ่นที่ทำตลาดจะมากับหน้าปัดสีฟ้าเมดิเตอร์เรเนียนและสีดำสนิท ซึ่งได้รับการปกป้องจากกระจกหน้าปัดแบบ Sapphire ที่ถูกยกสูง และเสริมความโดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนแบบหมุนได้สีเดียวกับหน้าปัด จากขนาดตัวเรือนซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มิลลิเมตร และลวดลายของสายโลหะในแบบ Multi-Link ที่ให้ความสบายในการสวมใส่ ได้สะท้อนให้เห็นรูปลักษณ์ในสไตล์ย้อนยุคของเรือนเวลารุ่นนี้เพื่อเป็นการบ่องบอกถึงการให้ความสำคัญกับความสำเร็จของนาฬิการุ่นดั้งเดิม

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับกลไกที่มีความทันสมัยและโดดเด่นอย่างมากในโลกแห่งเวลา นั่นคือกลไก Caliber 80 ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับการสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง สำหรับฝาหลังถือว่าเป็นอีกสิ่งที่โดดเด่น เพราะตกแต่งและมีการปั๊มลายปลาดาว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่กับคอลเล็กชัน Ocean Star มาโดยตลอด

นอกจากนั้นอีกความพิเศษสำหรับนาฬิกา Special Edition รุ่นนี้คือ ในแต่ละเรือนจะมาพร้อมกับแพ็คเกจสุดสวยที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อนาฬิการุ่นนี้พร้อมกับสายอีก 1 เส้นอยู่ในเซ็ต

 

Red Bull Cliff Diving World Series : ลุ้นจนถึงสนามสุดท้ายของปี

ในวันที่ 14 กันยายนนี้ นักกระโดดน้ำทั้ง 14 คนจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันด้วยการกระโดดจาก La Salve Bridge ซึ่งถูกใช้เป็นแพล็ตฟอร์มที่มีความสูง 27 เมตรของการแข่งขันรายการนี้เพื่อลงสู่แม่น้ำที่ไหลผ่านด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก!

โดยบนพื้นที่สำหรับแขก VIP ที่ด้านล่างของพิพิธภัณฑ์ Guggenheim ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่นักกีฬาต้องกระโดดน้ำลงมา แขกผู้มีเกียรติของ Mido จะได้รับประสบการณ์แห่งความสนุกสนานและความเร้าใจอย่างใกล้ชิดในการแข่งขันรอบสุดท้ายและร่วมเชียร์ 2 นักกีฬาที่เป็น Friend of Brand ของ Mido นั่นคือ Jonathan Paredes และ Alessandro De Rose หลังจากที่การแข่งขันเสร็จสิ้นลงจะมีการประกาศรายชื่อของผู้ชนะเลิศ 2019 Red Bull Cliff Diving World Series แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายจะมีโอกาสได้ร่วมอีเวนท์พิเศษในช่วง Meet-and-Greet ที่จัดขึ้นโดยล้อมรอบไปด้วยอาหารพื้นเมืองของสเปนที่มากับจานยักษ์อย่าง Paella อีกด้วย

#OceanStarTribute 
#OceanStarDiver600 #MidoDiveInBilbao
#Midowatches

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line