Entertainment

“History of Moshing” การเต้นสุดดุดันของชาว Rock ที่กลั่นมาจากความมันส์ล้วนๆ!!

By: HYENA September 29, 2017

การดูดนตรีสดให้ได้อารมณ์ที่สุดนั้นทำอย่างไร? คำถามยอดฮิตที่คนบางคนยังไม่เข้าใจ และสงสัยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ไปดูคอนเสิร์ตวง Rock หรือวงดนตรีที่เล่นดนตรีแนวมันส์ ๆ หนัก ๆ มักจะเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มันมีการเล่นที่จะว่าเต้นก็ไม่ใช่ เหมือนจะมีเรื่องกันก็ไม่เชิงยิ่งทำให้งงเข้าไปใหญ่ว่า มันจะอะไรขนาดนั้น

จริง ๆ แล้ว ไอ้การกระทำดังกล่าว ถ้าหากว่าเป็นคนที่ชื่นชอบการเสพดนตรี และดูคอนเสิร์ต โดยเฉพาะนักเสพที่ถูกเรียกว่า “เด็กเสื้อดำ” จะเข้าใจว่า มันเป็น Culture ทางการดูคอนเสิร์ตที่เรียกว่า “Mosh Pit” ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน วันนี้เราจะพาชาว UNLOCKMEN ไปทำความรู้จักกับธรรมเนียม หรือท่าทางการแสดงออกนี้กัน จะได้ไม่ตกใจเวลาหลงเข้าไปกลางดงชาว Rock ตอนดูคอนเสิร์ต

“History of Mosh”

ในช่วงต้นยุค 80 การละเล่นนี้ถูกเรียกว่า Mash โดยนักร้องนำวง Hardcore Punk ที่ชื่อว่า Bad Brain นั่นก็คือ  Paul Hudson เพื่อที่จะใช้อธิบายการเต้นแบบก้าวร้าว และรุนแรงในขณะที่ผู้คนกำลังดูการแสดงสดของเขา แต่เนื่องจากว่า Paul เป็นคนพูดจาติดสำเนียง Jamica คนส่วนใหญ่จึงฟังคำว่า “Mash” เป็น “Mosh”

ต่อมาเมื่อถึงช่วงกลางยุค 80 ดนตรีแนวใหม่อย่าง Thrash Metal ซึ่งเป็นแนวดนตรี Hybrid ระหว่าง Hardcore Punk และ Heavy Metal ก็เริ่มที่จะเฟื่องฟูขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะวงอย่าง Anthreax และตอกย้ำคำว่า “Mosh” ให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง  โดยการตั้งชื่อเพลงของพวกเขาว่า “Caught In A Mosh” จากนั้นเป็นต้นมา ประวัติศาสตร์ดนตรีก็ต้องจารึกคำว่า “Mosh” ลงไปในวงการเพลงทั่วโลก

“The concept of Moshing”

การ “Mosh” หรืออาจจะเรียกกันอย่างคุ้นหูอีกชื่อหนึ่งว่า “Slamming” นั้น เป็นการจำกัดความถึงการเต้นตามจังหวะดนตรีที่ก้าวร้าว โดยเดิมทีนั้นการ “Mosh” เป็นเพียงการเต้นที่แสดงพลังทางดนตรี โดยใช้การเบียด ผลัก อัด กระแทก เข้าหากันและกันระหว่างคนดู แต่ดูเหมือนว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การ “Mosh” ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย และมีหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น

“Name of The  Moshing Act”

การ “Mosh” ที่มีการแสดงออกหลากหลายจนบางครั้งก็ไม่รู้ว่า จะเรียกท่าเหล่านั้นว่าอะไร ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเวลาสื่อสาร เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาอีกต่อไป มันจึงมีการตั้งชื่อของท่าต่าง ๆ ออกมาในภายหลัง โดยอ้างอิงจากรูปแบบของการแสดงออกแต่ละรูปแบบ และรวมไปถึงเป็นท่าประจำท่าของแต่ละแนวเพลง อย่างเช่น Thrashing, Hardcore Dancing, Wall Of Death, Pitting, Slamming และอีกมากมาย โดยทุกรูปแบบการแสดงความมันส์นี้ยังคงอยู่ภายใต้คำจำกัดความของคำว่า “Mosh”

 

“Is Moshing Safe or Not?”

ถ้าหากถามหาความปลอดภัยในการแสดงออกของชาว Rock เราคงต้องบอกว่า ไม่มีอะไรที่สามารถรับประกันได้ นอกจากนี้ การ “Mosh” อย่างบ้าคลั่งนี้ ยังมีบางคนที่อินจัดออกมาประลองการ “Mosh” เรียกได้ว่า เป็นการยืนเหวี่ยงหมัดบวกใส่กันเป็นการแข่งขันอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า มันอาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ๆ แต่ในบางครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจริง ๆ

กลับมาที่การยืน “Mosh” ใส่กันแบบประจันหน้าสไตล์ชาว Rock ที่หลายคน เมื่อเห็นก็ตกใจนึกว่ามีคนตีกันกลางการแสดงคอนเสิร์ตจนถึงกับวิ่งหนี ที่จริงแล้วนั่นไม่ใช่การทะเลาะ หรือต่อยตีกัน แต่มันเป็นการ “Moshing Protocol” ที่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีความตั้งใจจะทำร้าย หรือทำให้ใครบาดเจ็บแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของอารยธรรมการดูคอนเสิร์ต ต่างจากการไล่ตีไล่ต่อยกันของนักเลงอันธพาล

นักดนตรีระดับโลกบางคนเคยได้ออกมาแสดงความรู้สึกไม่ปลื้มกับการ “Mosh” เพราะมองว่ามันเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับการเล่นดนตรีของพวกเขา โดย Mike Portnoy  อดีตมือกลองของวงระดับพระกาฬอย่าง Dream Thearter ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ตอนให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า

“ผมคิดว่าผู้ชมเหล่านั้น ไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่พวกเราแสดงอยู่บนเวที เวลาผมมองลงไปจากเวทีแล้วเห็นคนเหล่านี้แล้วรู้สึกแบบว่า….เป็นอะไร? อยากจะปลดปล่อยพลังก็ไปออกกำลังกายสิวะ! คือแบบ มันช่างน่าขำจริง ๆ โดยเฉพาะบางรอบที่เราอุตส่าห์จัดที่คนดูให้เป็นเก้าอี้นั่ง ในขณะที่คนอื่นนั่งดูอยู่ อยู่ ๆ ก็มีไอ้บ้าตัวหนึ่งลุกขึ้นมาแสดงท่าทางที่เกรี้ยวกราด ในขณะที่คนส่วนใหญ่นั่งเสพดนตรีของพวกเราอย่างเพลิดเพลิน และดูสบายอกสบายใจ”

แต่ก็มีนักดนตรีจำนวนมากที่ออกมาคัดค้านความเห็นดังกล่าว โดยพวกเขาบอกว่า

“พวกคนดูเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาไม่ได้กำลังสร้างสงคราม หรือก่อเหตุตีกัน มันไม่ใช่การที่จะก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมเรื้อรังได้เลย พวกเขามีวัตถุประสงค์ที่ทำแบบนั้นก็เพียงแค่ อยากจะเต้นรำเท่านั้นเอง”

สรุปแล้ว วัฒนธรรมการ “Mosh” นั้นจะเรียกว่าอันตรายไหม? มันก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ และความหนักหน่วงของผู้ร่วมอุดมการณ์ที่เต้นอยู่ข้าง ๆ ว่ามันเข้าเส้นขนาดไหน ถ้าเจอตัวแรง ๆ หน่อยก็ถือว่า ซวยไป  ถ้าเจอพวกขี้ก้างก็ถือว่าโชคดี เข้าไปบวกสักทีสองทีก็ไม่ค่อยจะเจ็บเท่าไหร่ เรียกว่าพอมันส์เป็นกระสัยในการดูคอนเสิร์ต

ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนที่บอกว่า “Mosh” เป็นอารยธรรมที่ป่าเถื่อน และเป็นการกระทำของคนโรคจิต แต่ถ้าหากคุณเปิดใจกว้าง ๆ ทำความเข้าใจกันวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานควบคู่กับดนตรีที่มีสไตล์หนักหน่วงจะรู้ว่า คนเหล่านี้ก็แค่อยากจะแสดงออก และมันส์ไปกับดนตรีที่พวกเขาชื่นชอบ ไม่ต่างจากคนที่ฟังดนตรี Classic แล้วลุกขึ้นมาเต้นรำ หรือ เต้นบัลเล่ต์เหมือน ๆ กัน นั่นแหละ

 

SOURCE1, SOURCE2, SOURCE3

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line