Life

MOTIVATHLETE: LEWIS HAMILTON กับแง่มุมชีวิตที่เป็นมากกว่ายอดนักแข่ง FORMULA 1

By: SPLESS October 29, 2020

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าของวงการรถสูตร 1 หรือ Formula 1 ได้ถูกเขียนขึ้นใหม่หลังจากที่ ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton) แชมป์โลก 6 สมัยได้คว้าชัยชนะครั้งที่ 92 ในชีวิตจากการ Portuguese Grand Prix ส่งผลให้เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีสถิติคว้าชัยชนะมากที่สุดในสังเวียน Formula 1 แซงหน้าตำนานอย่าง มิคาเอล ชูมัคเกอร์ (91 ครั้ง) ไปเป็นที่เรียบร้อย และดูเหมือนว่าสถิติใหม่จะยังมีเวลาให้สร้างต่อไปได้อีกหลายปี

BET-IBC

อย่างไรก็ตาม นอกจากแง่มุมชีวิตของการเป็นนักแข่งรถล้อเปิดที่เร็วที่สุดในโลก ลูอิส แฮมิลตันยังถือเป็นนักกีฬาอีกคนที่มีแนวคิดและการวางตัวนอกสนามที่น่าสนใจมาก ๆ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักแง่มุมชีวิตด้านต่าง ๆ ของนักแข่งรถ F1 คนนี้ให้มากขึ้น มาดูกันว่านอกจากความเร็วเกิน 300 กิโลเมตร/ชั่วโมงแล้ว ชีวิตของชายคนนี้ยังมีมุมไหนที่น่าสนใจอีกบ้างเรื่องแรกที่ต้องพูดถึงคือความสำเร็จของในสนามแข่งของ ลูอิส แฮมิลตัน โดยผลงานที่น่าประทับทั้งหมดที่ผ่านล้วนเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมที่และระเบียบวินัยที่ตัวเขาและคุณพ่อช่วยกันฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเด็ก แต่หนึ่งในจุดเริ่มต้นสำคัญของชายคนนี้คือ ความถ่อมตัวที่ซ่อนเอาไว้ซึ่งความมั่นใจในเวลาเดียว

ย้อนกลับไปปี 1995 ลูอิส แฮมิลตันในวัย 10 ปี เพิ่งคว้าแชมป์โกคาร์ทในรายการ British Championship ก่อนจะมีโอกาสร่วมงานรางวัลร่วมกับกับนักแข่งในตำนานหลายคนไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล ชูมัคเกอร์ และ อาอีร์ตง เซนน่า ในเวลาเดียวกันเขาก็มีโอกาสพบกับ รอน เดนนิส ซึ่งในขณะรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมของ McLaren F1 Team

อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าเด็กชายวัย 10 ขวบจะเอ่ยปากกับเจ้าของทีมยักษ์ใหญ่อย่างซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาว่า “สวัสดีครับคุณรอน ผมลูอิส แฮมิลตันและสักวันหนึ่งผมอยากจะขับให้ทีมของคุณให้ได้ครับ” ทีมบอสของ McLaren จะตอบกลับเขาอย่างเรียบง่าย ก่อนที่จะแจกลายเซ็นต์ให้ตามคำขอน้องหนุ่มน้อย พร้อมข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า “อีก 9 ปี ฉันจะโทรหานาย”

แต่ใช้เวลาแค่เพียง 3 ปีเท่านั้นลูอิส แฮมิลตันก็ได้รับสายติดต่อจากรอน เดนนิส พร้อมข้อเสนอในการเป็นผู้สนับสนุนให้กับเขา ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนและจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากสำหรับอาชีพของลูอิส

อีกหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยที่ตัวเขายังเป็นหน้าใหม่ในวงการ F1 โดยตัวเขาถูกนักข่าวถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับสถิติการชนะอันมากมายของมิคาเอล ชูมัคเกอร์ ซึ่งลูอิสได้ให้สัมภาษณ์ว่า “จำนวนชัยชนะของไมเคิลคือเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ส่วนผมคงมองแค่ชัยชนะในครั้งต่อไปเท่านั้น” แต่ปัจจุบันก็เป็นเขานี่เองที่เป็นคนทำลายสถิติอันน่าเหลือเชื่อของชูมัคเกอร์ลงไป

F1

นอกจากฝีมือการขับรถแข่งที่หาตัวเทียบได้ยากแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ลูอิส แฮมิลตันหลงใหลและให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของสไตล์การแต่งตัว โดยแชมป์โลก 6 สมัยเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักกีฬาผู้โดดเด่นในเรื่องแฟชั่น ทำให้การปรากฏตัวทั้งในและนอกสนามแต่ละครั้งของชายคนนี้มักมาพร้อมชุดสุดไฮป์และเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ขณะเดียวกันชีวิตบนรันเวย์ที่ต้องเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์กับทีม Mercedes-AMG ต้นสังกัดก็มีส่วนช่วยให้เขามีโอกาสได้คลุกคลีกับบุคคลในวงการแฟชั่นที่หลงใหลมากขึ้น ถึงขั้นเคยปล่อย Clothing Line ที่ร่วมออกแบบลงแสดงในงาน Fashion Show มาแล้ว

อีกหนึ่งแง่มุมชีวิตที่อ่อนโยนของลูอิส แฮมิลตัน คือความรักที่มีให้กับเจ้า Roscoe สุนัขพันธุ์บลูด็อกที่รับมาดูแลตั้งแต่ยังเล็ก โดยเจ้า Roscoe ถือเป็นเพื่อนรู้ใจของลูอิสที่ติดตามเขาไปทุกที่ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดพักร้อนริมทะเลหลังช่วงพักการแข่งขัน รวมถึงเคยไปนั่งอยู่ในรถแข่งของแชมป์ก็ทำมาแล้ว และความกวนและน่ารักของ Roscoe ก็ทำให้มันมียอดผู้ติดตามบัญชี Instagram มากกว่า 2 แสนคนเลยทีเดียว

ลูอิส แฮมิลตันไม่ได้รักและห่วงใยแค่สัตว์เลี้ยงของตัวเองเท่านั้น ก่อนหน้านี้ตัวเขาเคยบริจาคเงินเป็นจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 15,590,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเหล่าสัตว์ป่าหลายล้านตัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าที่รุนแรงในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงร่วมรณรงค์ขอให้ผู้ติดตามบัญชีโซเชียลของเขาออกมาร่วมด้วยช่วยเหลืออีกด้วย

Mimic News

สิ่งสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของลูอิส แฮมิลตันคือการยืนหยัดและออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชน รวมถึงต่อต้านปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งการร่วมเดินขบวนเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอย ร่วมกับผู้คนนับหมื่นในกรุงลอนดอน

รวมถึงการร่วมแสดงออกเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของ Breonna Taylor เหยื่อความรุนแรงอีกหนึ่งคนที่เสียชีวิตจากการกระทำเกินกว่าเหตุของตำรวจ โดยตัวเขาเลือกแสดงออกด้วยการสวมเสื้อที่สกรีนด้านหน้าว่า “Arrest the Cops Who Killed Breonna Taylor” รวมถึงด้านหลังที่สกรีนคำว่า “SAY HER NAME” พร้อมกับมีรูปใบหน้าของเธออยู่ด้วย

รวมถึงล่าสุดกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศไนจีเรียที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน จนทำให้คนรุ่นใหม่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกหน่วย Special-Anti-Robbery Squad หรือ SARS ที่มีข่าวและหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนเคยใช้อำนาจกดขี่ประชาชน จนการชุมนุมยกระดับเป็นจลาจลและทำให้รัฐถือโอกาสใช้ความรุนแรง ซึ่งเมื่อลูอิสทราบข่าว เขาก็ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงแฮชแท็ก #ENDSARS ในทันที

ทั้งหมดคือแง่มุมที่น่าสนใจบางส่วนจากชีวิตของชายที่ชื่อลูอิส แฮมิลตัน หนึ่งในนักแข่งรถสูตร 1 ที่ประสบความสำเร็จที่มากสุดในหน้าประวัติศาสตร์ และในเวลาเดียวกันตัวเขาก็ต้องการใช้กระบอกเสียงที่ตัวเองมีในการยืนหยัดเพื่อสังคมที่น่าอยู่มากขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

 

 

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line