Entertainment

JOKER ภาพยนตร์เดี่ยวของตัวตลกคลั่ง ผ่านมุมมอง ARTHUR FLECK เพราะโลกทำให้เขาต้องร้าย

By: TOIISAN June 26, 2019

ขณะที่ตอนนี้โลกมีเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่เต็มไปหมด เรากลับไม่ค่อยเห็นเรื่องราวในมุมมองของวายร้ายเท่าไหร่นัก อาจเป็นเพราะความร้ายกาจ โรคจิต การก่ออาชญากรรมต่าง ๆ ที่ทำให้หลายคนไม่อยากตีแผ่ชีวิตของพวกตัวร้ายเพื่อให้คนดูนิยมชมชอบเหมือนตอนดูหนังฮีโร่ และสำหรับหนังเดี่ยวครั้งแรกของตัวร้ายตลอดกาลอย่าง Joker ที่จะฉายปีนี้ คงไม่ได้อยากให้ผู้ชมเปลี่ยนมาเห็นใจเขา แค่อยากเสนออีกมุมหนึ่งที่ผู้คนไม่เคยมองเห็นเท่านั้น

ถ้าย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทุกซีรีส์มีเรื่องราวเกี่ยวกับ Batman และเมือง Gotham เราจะเห็นว่าโลกจอเงินมีนักแสดงที่เคยรับบทเป็น Joker มาแล้วทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Cesar Romeo ที่ปรากฏตัวในเรื่อง Batman (1966) ต่อมาอีกครั้งกับ Jack Nicholson ใน Batman (1989) จากผลงานของผู้กำกับ Tim Burton 

จนมาถึง Batman: The Dark Knight (2008) จากผลงานผู้กำกับมือเทพ Christopher Nolan ที่พาหนังซูเปอร์ฮีโร่เข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 8 สาขา ซึ่งครั้งนี้หลายคนลงความเห็นตรงกันว่า Heath Ledger สามารถพิสูจน์ตัวเองสวมบทบาทตัวตลกจิตคลั่งได้น่ากลัวที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ทำให้เขาสามารถคว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 81 สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครอง ขณะที่ Joker ฉบับภาพยนตร์คนล่าสุดรับบทโดย Jared Lato ที่ปรากฏตัวในหนังรวมวายร้าย DC เรื่อง Suicide Squad (2016) 

บทบาทของ Joker ตั้งแต่ 1966 จนถึงปัจจุบัน มักเป็นการปรากฏตัวในฐานะตัวร้ายที่แม้จะเด่นแค่ไหนแต่ก็ปรากฏตัวให้เห็นผ่าน ๆ  เมื่อ Joker ยังไม่เคยถูกเจาะลึกเรื่องราวและเหตุผลที่เปลี่ยนเขาเป็นตัวละครสุดโหด ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงเวลามีหนังของตัวเองสักที เพราะผู้คนเริ่มตั้งคำถามแล้วว่าบุรุษที่เขียนหน้าขาวทาปากแดงเป็นตัวตลกคนนี้มีเบื้องหลังชีวิตอะไรบ้างที่ทำให้เขากลายเป็นตัวร้ายโรคจิต

 

 

The Clown Prince of Crime แบบฉบับใหม่ของ 2019

ถ้าใครจะกล่าวว่า Joker (2019) คือภาพยนตร์ชีวประวัติของชายชื่อ Arthur Fleck ก็คงได้ เพราะเนื้อเรื่องของหนังจะเล่าถึงชีวิตของผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีอาชีพสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คน ดำเนินชีวิตเหมือนอย่างคนอื่น แต่กลับต้องมาเจอจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่ผลักเขาเข้าสู่ด้านมืด โดยได้ Joaquin Phoenix (Joker คนที่ 5) มาถ่ายทอดชีวิตของ Joker ที่อาศัยอยู่ในเมือง Gotham ปี 1981 

การถ่ายทอดเรื่องราวของชายหนุ่มที่หมดศรัทธาต่อโลก และเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตัวตลกไร้หัวใจอย่าง Joker (2019) ได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Todd Phillips มานั่งแท่นกำหนดทิศทางของเรื่องทั้งหมด หลังจากเคยสร้างสรรค์ผลงานผ่านภาพยนตร์ที่เคยผ่านหูผ่านตาเรามาทั้ง The Hangover Trilogy (2009) และ Due Date (2010) 

นอกจากเขาจะเป็นคนกำกับหนังสุดยอดวายร้ายแล้ว เขายังเลือกทีมเขียนบทมือดีอย่าง Scott Silver ที่ฝากผลงานไว้ใน 8 Mile (2002) และ The Fighter (2010) รวมถึงได้ Martin Scorsese ผู้กำกับมือรางวัลออสการ์มาควบคุมทีม Excecutive Producer อีกด้วย

อีกสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่งคือ Joker ปีนี้เป็นภาคแยกที่ไม่ได้ถูกจัดรวมอยู่จักรวาลหลัก DC Extended Universe และมีทุนสร้างที่ไม่สูงนัก แค่ 55 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับ Aquaman คืองบน้อยกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว 

Joker (2019) เป็นเรื่องที่รวมคนมากฝีมือไว้ในเรื่องเดียวกัน ขณะเดียวกันก็มีหลายประเด็นให้เราต้องลุ้นเยอะ โดยเฉพาะเรื่องที่ส่วนมากจับตามองก็คือ Joaquin Phoenix นักแสดงที่จะมาถ่ายทอดบทหลักครั้งนี้ แม้ใครที่เคยติดตามผลงานการแสดงอันแสนยอดเยี่ยมของเขาจะมองว่าเอาอยู่แน่นอน แต่สำหรับการเป็น Joker คงบอกได้ว่าไม่หมูอย่างแน่นอนจากหลายสาเหตุ เพราะเคยมีคนสวมบทเป็นตัวละครนี้แล้วถึง 4 คน แล้วยังไม่นับรวมกับ Joker ฝั่งซีรีส์ที่มีอีกไม่น้อย จึงอาจทำให้เกิดการเปรียบเทียบง่ายกว่าบทอื่น ๆ 

ไม่เพียงแรงกดดันจากการเปรียบเทียบเท่านั้น ยังเพิ่มเรื่องความโรคจิตอันซับซ้อนของ Joker ที่ทำให้ Joaquin ต้องทำการบ้านหนักมากด้วย แต่เราเชื่อว่าเขาคงเตรียมตัวเตรียมใจกับความท้าทายครั้งนี้เป็นอย่างดี เพราะกิตติศัพท์หนาหูที่ติดตัวนักแสดงอย่างเขาก่อนหน้ามารับบทว่าถ้า Joaquin อ่านบทหนังแล้วไม่เข้าตาเขาก็จะไม่รับเล่นอย่างเด็ดขาด แถมเพื่อนนักแสดง Marc Maron ที่ต้องเข้าฉากกับเขายังเล่าว่าเห็น Joaquin มักทำท่าทางแบบ Joker ทั้งที่กล้องไม่ได้ถ่าย จึงเชื่อได้เลยว่าเขาทุ่มสุดตัวอย่างแน่นอน 

ไม่ว่า Joker จะเคยเป็นอย่างไรในสายตาและความคิดของคุณ แต่ Joker (2019) ที่ตีความใหม่อาจจะทำให้พวกเราเปลี่ยนมุมมองที่เคยมีกับวายร้ายตัวนี้ให้ต่างจากที่เคยแน่นอน ส่วนจะต่างแบบสงสาร สมน้ำหน้า หรือกระตุ้นให้อยากสมรู้ร่วมคิด คงไม่มีใครตอบได้จนกว่าจะตีตั๋วเข้าไปตัดสินด้วยตาตัวเอง

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line