Life

กลิ่นคาวเลือด มีดปักหลัง และห้องปิดตาย ทำไมมนุษย์ถึงชอบฟังเรื่องคดีฆาตกรรม?

By: GEESUCH September 30, 2022

เคยสังเกตุมั้ยครับ สำหรับผู้ชื่นชอบความกลัวและกลิ่นคาวเลือดทั้งหลาย ทำไมถึงตื่นเต้นกันเสมอเมื่อฟังเรื่องราวของคดีฆาตกรรม ดูหนังที่มีฆาตกรต่อเนื่อง หรือติดซีรีส์สืบสวนสอบสวนอย่างเอาเป็นเอาตาย เรื่องนี้วิทยาศาสตร์มีคำตอบให้ แต่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้เชิดชูการฆาตกรรมว่าเป็นสิ่งสวยงามแต่อย่างใด และเราเข้าใจดีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงเหล่านั้น มีความสูญเสีย และมีผู้ได้รับผลกระทบ แต่เพราะความสนใจของมนุษย์นั้นมีหลากหลายแบบ เราจึงอยากมาคุยเหตุผลของความสนใจนี้มากกว่า

UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูหลากเหตุผลนา ๆ ที่คดีฆาตกรรมอยู่ในความสนใจของมนุษย์มาโดยตลอด ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องของความเป็นความตายซึ่งเกิดขึ้นใกล้ตัวเรามากที่สุด พร้อมกับชี้เป้ารายการคดีฆาตกรรมในยุคสมัยใหม่ ให้คนที่ชื่นชอบได้ติดตามฟังกันด้วย


เพราะความเป็นนักล่าในตัวเราเรียกร้อง

เหตุผลของความหลงใหลในเรื่องราว True Crime หรือ Murder Story ของมนุษย์นั้น ถูกนักจิตวิทยาเชิงวิวัฒนาการ (Evolutionary Psychologists) ให้คำอธิบายเอาไว้ว่า มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มสถาปนาตัวเองเป็น ‘นักล่า’ ในหมู่สัตว์ด้วยกันในยุคดึกดำบรรพ์แล้ว การฆาตกรรม การข่มขืน การโจรกรรม มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่ช่วงโบราณกาล เรียกว่าในแง่หนึ่งมันคือ ‘เรื่องธรรมชาติ’ เพราะเราต้องปรับตัวให้เข้ากับความรุนแรงเหล่านี้ และหาเหตุผลของที่มาที่ไปของคดีฆาตกรรมเหล่านั้น เพื่อที่เราจะได้ปกป้องตัวเองและครอบครัวได้ดีที่สุดด้วย 

งานวิจัยในปี 2010 ของ University of Illinois พบสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ‘ผู้หญิง’ มักเป็นเพศที่สนใจในเรื่องราวอาชญากรรมมากกว่าผู้ชาย!

และผู้หญิงสนใจ Inside ในระดับที่ว่าฆาตกรมีวิธีการอย่างไร เหยื่อหนีด้วยวิธีไหน โดยเฉพาะเรื่องราวของคดีที่เหยื่อที่เป็นเพศหญิงด้วยกัน … ซึ่งงานวิจัยนี้ก็มีความเกี่ยวโยงกับแนวคิดเรื่องการวิวัฒนาการในบรรทัดก่อนหน้า ตรงที่มนุษย์มักจะสนใจในการหาคำตอบที่มาที่ไปของคดีฆาตกรรม และต้องการที่จะรู้เคล็ดลับในการต่อกรกับฆาตกรในชีวิตจริงเสมอ

“เมื่อผู้ชายมีโอกาสเป็นเหยื่อมากกว่า ทำไมผู้หญิงกลับเป็นเพศที่สนใจในคดีฆาตกรรมกว่ามาก”

Megan Abbott นักเขียนนวนิยายฆาตกรรมผู้เคยชนะรางวัล Edgar award-winning (The Naked Kiss, Gilda, The Night of the Hunter) ให้ความเห็นในเรื่องความเป็นเหยื่อของคดีฆาตกรรมเอาไว้ว่า ผู้ชายมีโอกาสตกเป็นเหยื่อในคดีฆาตกรรมมากกว่าผู้หญิงถึง 4 เท่า แต่ทว่า เมื่อเป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดจากคนสนิทผู้หญิงจะกลายเป็นเหยื่อซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% เลยทีเดียว เธอเชื่อว่าสิ่งที่ดึงดูดผู้หญิงให้หลงใหลในเรื่องราวของฆาตกรรม น่าจะเป็นเพราะสัญชาติญาณภายในตัวที่พวกเธอรับรู้ได้ว่านี่คือโลกที่พวกเธออาศัยอยู่


อาชญากรรมสร้างความสนใจในระดับเดียวกับ ‘อุบัติเหตุบนท้องถนน’

“ฆาตกรต่อเนื่องเป็นสิ่งที่เย้ายวนให้ผู้คนสนใจไม่ต่างจากอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ” 

เป็นคำพูดจาก Scott Bonn ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Drew University มีทฤษฎีเชื่อมโยงอุบัติเหตุบนท้องถนนกับคดีฆาตกรรมประมาณว่า ถึงแม้ว่าการฆาตกรรมจะเต็มไปด้วยภาพของความสยดยอง แต่ผู้คนก็ไม่อาจเบือนหน้าหนีหรือทำใจให้ไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่า ‘ปรากฎการณ์’ ได้เลย ซึ่งก็ไม่ต่างกับเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พวกเราก็มักจะหยุดดูและให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงที่มาที่ไปทุกครั้ง   

Harold Schechter นักเขียนนิยายผู้ถูกเสนอชื่อ Edgar award-winning ปี 2015 พูดถึงความเป็นที่หลงใหลในคดีฆาตกรรมของมนุษย์ในเชิงลึกถึงโครงสร้างของสังคม ว่าอาชญากรรมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากวัฒนธรรมของเราได้ และก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติ แถมยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง นี่คือสิ่งที่เหล่านักปรัชญาหัวก้าวหน้าอย่าง Plato, Sigmund Freud และ Émile Durkheim กล่าวในทฤษฎีของพวกเขาเอง และอาชญากรจะสามารถทำหน้าที่ทางสังคมของตัวเองได้ลุล่วงก็ต่อเมื่อผู้คนรู้ว่าเขาทำอะไรผิด และพวกเขาได้รับการลงโทษอย่างไร


เพราะเรื่องเล่าที่ดีนั้นจรรโลงใจคนเสมอ

ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้คนรักในการฟังเรื่องราวอาชญากรรม ทั้งการโล่งใจที่ตัวเองไม่ได้ตกเป็น ‘เหยื่อ’ ซึ่งสื่อถึงความที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตนิยมเสพความเดือดร้อนในเรื่องราวของคนอื่น แล้วอะดรีนาลีนจะหลั่งอย่างหนัก ไปจนถึงการที่พวกเราชอบทำตัวเป็น ‘นักสืบ’ ต้องการคลี่คลายคดีเหล่านั้นด้วยตัวเอง

แต่อีกข้อสำคัญที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้ คือการมี storytelling ที่ดีของคอนเทนต์เล่าเรื่อง ในยุคปัจจุบัน เครื่องมือในการเล่าเรื่องมีให้เลือกแบบไม่สิ้นสุด เรามีสารคดีที่ทุนใหญ่เท่าหนังฮอลลิวูด และมี Podcast ที่ประกอบด้วยซาวด์ดีไซน์ รูปแบบรายการเจ๋ง ๆ เกินสมัยของวิทยุไปไกล พร้อมกับคนเล่าเรื่องเก่ง ๆ เต็มไปหมด องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เรื่องเล่าของคดีฆาตกรรมให้อารมณ์เหมือนดูหนังดี ๆ สักเรื่อง ในแง่ที่ว่าเมื่อดูจบแล้วเราได้อะไรบางอย่างกลับไปที่มากกว่าแค่ความกลัวหรือความหดหู่เท่านั้น จนกลายเป็น Comfort Zone ของคนจำนวนหนึ่ง ที่มีจำนวนมากขึ้นมาในที่สุด

และหากคุณเป็นคนที่ชอบคดีฆาตกรรม ในปี 2022 มี Podcast รายการจาก Youtube รวมถึงเทรดใน Twitter ให้เลือกสรรมากมายเต็มไปหมด เรียกว่าเป็น Topic คอนเทนต์อัน Timeless สำหรับคนจิตแข็ง (เหรอ) อย่างพวกเรา ให้ฟังจบแล้วไม่กล้าเข้าห้องน้ำกัน น้ำเสียง โทน คอนเทนต์ ในยุคที่ Podcast แข่งกันทำรายการแบบนี้


Untitled Case 

สองคู่หูผู้หลงใหลในคดีฆาตกรรม เรื่องลี้ลับ และสิ่งที่หาสาเหตุไม่ได้ จาก Salmon Podcast ‘ยช’ กับ ‘ธัญ’ ที่จะมาเล่าเรื่องราวของสารพันเรื่องลี้ลับซึ่งไม่ได้จำกัดแค่คดีฆาตกรรมเท่านั้น ยังรวมไปถึงเรื่องของทฤษฎีสมคบคิด หรือว่าสัตว์ประหลาดในตำนาน Mothman, BigFoot เลยทีเดียว  

สำหรับผู้เขียนนั้น รู้สึกว่าสิ่งทีทำให้ Untitled Case  เป็น Podcast ที่ไฮป์มาก ๆ และโดดเด่นกว่าช่องอื่น ๆ ที่ทำคอนเทนต์ใน Topic ใกล้เคียงกัน คือ Mood & Tone ของรายการ ในรูปแบบการเล่าเรื่องแบบกันเอ๊งกันเอง อารมณ์แบบมึง ๆ วันนี้กูอ่านเจอเรื่องนี้มาว่ะ น่ากลัวชิบหาย ประมาณนั้นเลย  

และอีกสิ่งที่คิดว่า ‘ชาวลี้ลับ’ น่าจะเห็นตรงกัน คือเคมีระหว่าง Host สองคน ที่มันมีความโบ๊ะบ๊ะ และอารมณ์ขันจากบุคลิกที่เป็นอักลักษณ์ซึ่งค่อนข้างต่างกันแต่ลงตัว และคนฟังเข้าถึงได้จริง ๆ 

ยชญ์ บรรพพงศ์ (ซ้าย), ธัญวัฒน์ อิพภูดม (ขวา) / รูปจาก Cont.

อ๊ะ ๆ พูดถึงเรื่องการเข้าถึงตัวรายการ จริง ๆ ตรงนี้ต้องชมทาง Slamon Podcast ที่สร้างกลุ่ม Untitled Club ใน Facebook ขึ้นมา พร้อมกับรันกลุ่มให้คนฟังมรฎิสัมพันธ์กับ Host และรายการได้ตลอดเวลา แถมทั้งยชและธัญยังออก Pocket Book ชื่อ ‘Untitled Case : Human Horror ชมรมคนหัวลุก’ รวมเรื่องลี้ลับที่ถูก Selected มาอย่างดี ผ่านการเล่าเรื่องแบบเขียนด้วย  

หากคุณยังไม่เคยฟัง Podcast ช่องนี้ ขอแนะนำข้อสังเกตุที่น่าจะเป็นตัวช่วยได้มากในการเลือก Episode ที่จะเป็นตอน Pilot ของตัวเอง ให้เช็ค ‘หัวกะโหลก’ ที่ปกของแต่ละตอนให้ดี ตอนไหนที่ได้กะโหลกเยอะ คดีนั้นก็จะยิ่งรุนแรงและน่ากลัวมากขึ้นตามลำดับ (ก่อนจะกดดู 5 กะโหลก ก็อย่าลืมทำใจก่อนฟังด้วยล่ะ)


Unsolved Mysteries

สารคดี Original Netflix ที่ไม่ต้องบอกก็พอจะเดากันได้ว่าการมีทุนสร้างก้อนโต ช่วยสร้างองค์ประกอบของงานที่งดงามขนาดไหน และสำหรับ Unsolved Mysteries ก็ต้องบอกว่าสเกลเขามาระดับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลย 

คอนเซปต์ของสารคดีรายการนี้เป็นอะไรที่เจ๋งมาก มันคือการนำเคสในชีวิตจริงที่ไม่สามารถปิดลงได้ มาเล่าเป็นสารคดีผ่านการสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ กับผู้คนที่อยู่ในคดีนั้นจริง ๆ ใช้พลังของ Based On True Story นำ และมาพร้อมกับบทสรุปที่ไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง

ปัจจุบัน Unsolved Mysteries มีออกมาแล้ว 2 ซีซั่น กำลังเตรียมงนสร้างเข้าสู่ซีซั่น 3 ในเร็ว ๆ นี้


LOLA

แอคเคาต์สุดร้อนแรงใน Twitter คนตามกว่า 6 แสน Follower ที่เน้นการเล่าเรื่องราวของคดีฆาตกรรมอันน่าพิศวงเป็นหลัก 

ใครที่รักวิธีการเล่าเรื่องแบบเป็นเทรดใน Twitter บอกเลยว่าต้อง Follow แอคเคาต์นี้เอาไว้ เพราะคุณ Lola สลับไทม์ไลน์การเล่าเรื่องสนุกมาก ต้องบอกว่าเขาการมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่ดีจริง ๆ แล้ว Selected เรื่องที่เอามาเล่ามาได้แบบแรร์แทบไม่ซ้ำกับใครเลย 

อีกข้อดีที่ทำให้คุณ Lola ค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในลิสต์นี้ คือการมีน้ำเสียงที่เป็นผู้หญิงในการเล่าเรื่อง เป็นเสน่ห์บางอย่างที่ต่างจากของผู้ชายไปเลย  

ติดตาม Twitter LOLA


สัมภเวศิลป์

ความน่าสนใจของช่องชื่อ ‘สัมภเวศิลป์’ ที่เปิดเมื่อปี 2019 คือความหลากหลายของคอนเทนต์ เล่าเรื่องควาน่ากลัวที่ไม่แค่เฉพาะเรื่องคดีฆาตกรรม แต่ยังมีเรื่องของผีหรือสิ่งลี้ลับอีกด้วย 

สัมภเวศิลป์ เป็นช่องเล่าเรื่องระทึกขวัญที่ต้องบอกว่าค่อนข้างแตกต่างจากทุกช่องที่มีในไทยตอนนี้ เพราะมีการนำองค์ประกอบของ ‘ศิลปะ’ มาใช้ในการตีความน่ากลัวของคดีฆาตกรรม วิเคราะห์ผ่านเรื่องของสี การวางระยะของวัตถุ และอื่น ๆ ด้วยน้ำเสียงและวิธีการแบบคนเรียนศิลปะ ทำให้มีตัววิดีโอมีความน่ากลัวแบบเนิร์ด ๆ ซึ่งไม่เหมือนใคร 

ขอเล่าความประทับใจส่วนตัว นี่คือช่อง Youtube ที่วิดีโอเปิดตัวก่อนเข้ารายการกินขาดมาก แอบนึกถึงงานของคุณ Kyle Cooper ที่เป็นคนทำ Video Title คู่บุญของ David Fincher ขึ้นมาเลย 


Tang Makkaporn

ช่องคดีฆาตกรรมปริศนาของ ‘ตังค์ มรรคพร’ หรือที่คนฟังทุกคนเรียกกันว่า ‘หมอตังค์’ ที่นอกจากเป็นคนเล่าเรื่องในช่อง Tang Makkaporn ในชีวิตจริงเขาทำอาชีพเป็นหมอจริง ๆ เพราะฉะนั้น เราจะได้ฟังเรื่องเล่าของคดีฆาตกรรมผ่านมุมมองของหมอ เหมือนได้เข้าไปอยู่ในห้องชันสูตรศพด้วยตัวเอง

อ๊ะ! เกือบลืมบอกไป ช่องของหมอตังค์เป็นพันธมิตรกับ The Common Thread ช่องเล่าเรื่องลี้ลับที่ดำเนินงานทุกอย่างโดย ‘ฟาโรห์’ ที่เล่าเรื่องน่ากลัวแบบหน้าตาย แต่ทว่ามีความปั่นอยู่ในท่าทีตลอดเวลา และเมื่อทั้ง 2 จับคู่กันเล่าเรื่องผ่านรายการพิเศษของ Netflix Thailand ชื่อ ‘ลึกลับครับผม’ (ดูได้ทาง Youtube) ความลี้ลับก็ยิ่งทวีคูณเป็นสองเท่า  


SOURCE : 1 2

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line