My Broken Mariko มังงะว่าด้วยความแตกสลายของคนที่จากไป ซึ่งช่วยประกอบชีวิตของคนที่ยังอยู่ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

นี่เป็นคนชอบอ่านมังงะที่มีความเรียลชีวิตจริงแบบเศร้า ๆ มาก แล้วทุกครั้งจะต้องเศร้าตามพร้อมกับเสียน้ำตาไปหลายลิตร แต่มันไม่ใช่เพราะว่าเราเสพติดความเศร้าหรืออะไรนะ มันเป็นเพราะความเศร้าได้สร้างคุณค่าให้ชีวิตเรา ไปพร้อม ๆ กับเติมเต็มว่าปัจจุบันเรายังมีชีวิตอยู่

วันนี้อยากจะขอพูดถึงมังงะภาพสวย พล็อตแสนเศร้า ซึ่งมาพร้อมกับบทสรุปอันแสนงดงาม ชื่อ My Broken Mariko ผลงานเดบิวต์ปี 2020 ของคุณ Waka Hirako ผู้ที่เขียนพร้อมวาดมังงะเรื่องนี้จากประสบการณ์ตรงในชีวิตของตัวเอง โดยเลือกถ่ายทอดความเจ็บปวดได้อย่างเข้าใจ 

* Trigger Warning ต้องขอเตือนก่อนเลยว่า My Broken Mariko เป็นมังงะที่มีเนื้อหาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง ด้วยภาพของการทำร้ายในครอบครัว และภาพของการพยายามจบชีวิตตัวเองของตัวละคร * 

แต่ UNLOCKMEN อยากให้คุณได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ ที่พาเราไปสัมผัสกับ ‘อาการซึมเศร้า’ แบบที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมาพร้อมกับคุณค่าดี ๆ มากมายเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่กันต่อไป 

เรื่องย่อ : หลังจากที่ได้ยินข่าวว่า ‘มาริโกะ’ จากไปอย่างกระทันหันด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางรับได้ ‘ชิอิโนะ  โทโมยะ’ ผู้เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือเป็นเพื่อนคนเดียวถึงจะถูกกว่า รู้ถึงสาเหตุเบื้องหลังนี้ จึงออกไปโขมย ‘เถ้ากระดูก’ ของมาริโกะ เพื่อหวังว่าจะได้ทำอะไรดี ๆ ให้เป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วก็ตาม

 Chapter 1 ครอบครัวไม่ใช่ Safe Zone สำหรับทุกคน ในบางครั้งก็อาจเป็น Red Zone ที่อันตรายที่สุด

ปูมหลังของ 2 ตัวละครหลักในเรื่อง อย่าง ‘ชิอิโนะ  โทโมยะ’ กับ ‘มาริโกะ’ นั้น เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกัน และมีการใช้ความรุนแรงด้วย ในกรณีของชิอิโนะมันทำให้เธอกลายเป็นคนที่ความฝันเดียวของเธอคือการใช้ชีวิตให้พ้นจากครอบครัว ได้กินราเม็งในทุกวันไปเรื่อย ๆ ซึ่งเอาเข้าจริง เราอาจจะได้เห็นชีวิตที่มีความฝันดีมากกว่านี้ก็ ได้ถ้าครอบครัวใส่ใจและดูแลเธอ

แต่ในกรณีของมาริโกะแย่กว่ามาก นอกจากเธอจะพยายามทำร้ายตัวเองตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าปลายทางของโลกหลังความตายจะดีกว่าต้นทางของการมีชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว เมื่อเจอคนที่มอบรอยยิ้มและความจริงใจเพียงหนึ่งเดียวอย่างชิอิโนะ มันทำให้มาริโกะเอาชีวิตตัวเองไปผูกไว้ที่อีกคน ในแบบที่ถ้าจะต้องแยกจากกันเธอก็คงจะมีชีวิตอยู่ไม่ไหวอีกแล้ว กลายเป็นคนที่กลัวการสูญเสียอย่างหนักหน่วงไปเลย 

ถึงแม้เราจะได้เห็นตัวอย่างอยู่บ่อย ๆ ว่าอาการของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าสามารถผ่อนคลายลง จนผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่มีความสุข แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ผ่านมันไปไม่ได้เหมือนกัน ไม่ต่างกับมาริโกะ ที่ถึงแม้ชิอิโนะจะพยายามสุดชีวิตเพื่อหยุดไม่ให้เธอทำร้ายตัวเองตลอดเวลาก็ไม่สำเร็จ ซึ่งสิ่งที่ชิอิโนะอาจจะพลาดไป คือการที่พยายามให้ตัวเองและมาริโกะสนใจแต่ชีวิตปัจจุบัน มากกว่าการคุยถึงอดีตที่เจ็บปวดพร้อมแก้ไขจากต้นตอ จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ของความเสียใจจาก ‘ความเสียดาย’ ที่คำถามมากมายไม่ได้ถูกพูดออกไป และอยากจะพูดในวันที่ไม่ได้อยู่ช่วยมาริโกะอีกแล้ว

เราไม่สามารถโทษชิอิโนะที่ช่วยมาริโกะไม่สำเร็จได้เลยแม้แต่นิดเดียว แถมเรายังต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำ ลองจินตนาการดูว่า ความพยายามตลอดหลายปีที่ไม่เคยหายไปไหน ของการพยายามช่วยคนที่ทำร้ายตัวเองอยู่ตลอดเวลา มันจะหนักหนามากแค่ไหนสำหรับคน ๆ หนึ่ง ความโชคร้ายของมาริโกะคือการเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้เห็นเธอเป็นมนุษย์ และความโชคดีเดียวของเธอก็คือการได้มีเพื่อนที่เห็นเธอเป็นมนุษย์มากกว่าใคร ๆ อย่างชิอิโนะ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เราเห็นว่า ‘เพื่อนที่ดี’ หน้าตาเป็นแบบไหน

Chapter 2 เมื่อการสื่อสารของ ‘เรา’ เกิดขึ้นในจินตนาการผสมกับความทรงจำของอดีต

หลังจากมาริโกะจากไปได้ไม่นาน สมองและหัวใจของชิอิโนะเริ่มสร้างภาพหลอนทันที เกิดภาพของการสื่อสารฝ่ายเดียว (พูดไปเอง) เปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดกับคนที่ไม่อยู่แล้ว โดยนำอดีตที่เคยมีร่วมกันมาวิเคราะห์และสร้างภาพของคน ๆ นั้นเพื่อตอบคำถามของตัวเองในเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง และเมื่อผ่านไปในทุกที่ ๆ หรือทุกสิ่งที่เคยทำร่วมกันเมื่อไหร่ ความทรงจำก็จะยิ่งโจมตีรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น  

อีกไอเทมสำคัญที่มีผลต่อเส้นเรื่องใน My Broken Mariko มาก ๆ คือ ‘จดหมาย’ ที่มาริโกะใช้ส่งข้อความถึงชิอิโนะในตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็ก ไม่แน่ใจว่าคุณ Waka Hirako ผู้เขียนวางความหมายตรงนี้เอาไว้อย่างไร แต่สำหรับเรา มันเหมือนเป็นการส่งสาสน์แบบ ‘นิรันดร์’ ซึ่งถ้าจดหมายไม่หายไป สิ่งที่เธอต้องการจะส่งต่อก็จะไม่มีวันหายไปไหนด้วย และอีกนัยนึง มันอาจจะเป็นการเตรียมตัวล่วงหน้าว่าสักวันตัวเองจะต้องจากไปของมาริโกะ ด้วยการบอกชิอิโนะว่า ‘อย่าลืมเรานะ’ ผ่านข้อความในจดหมายทุกฉบับ ที่จรดความรู้สึกอย่างบรรจงลงไป 

ถึงแม้ความทรงจำจะเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ความทรงจำก็ยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเวลาเดียวกัน

Chapter 3 การให้คุณค่ากับตัวเอง เป็นสิ่งที่ยากเย็นเหลือเกิน

“คนอย่างฉันไม่สมควรจะมีความสุขหรอก”

อีกข้อความสำคัญที่ My Broken Mariko สื่อสารกับคนดูคือ ‘อย่าหมดหวัง’ ในวันที่โลกทำร้ายเราอย่างหนัก ในวันที่ฝนตกจนมองไม่เห็นทาง หรือแม้แผ่นดินจะกดให้เราจมลงจนลุกแทบไม่ไหว มันยังมีความหวังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้เพื่อให้เรามีชีวิตต่อ อย่างที่ชิอิโนะพยายามปลุกสติของมาริโกะในทุกวัน  

แต่ไม่มีใครบอกว่าการให้คุณค่าตัวเองเป็นสิ่งที่ง่าย เพราะการทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะง่ายที่สุด อย่างการพูดกับตัวเองด้วยคำพูดง่าย ๆ ว่า “แกเก่งแล้วเว้ย” เป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับคนที่ได้รับผลกระเทือนทางจิตใจ ไม่ใช่แค่กับมาริโกะเท่านั้น แม้แต่ชิอิโนะเองที่เคยหนุนหลังคนอื่นมาตลอด ตัวเองกลับทำไม่ได้เหมือนกันเมื่อเกิดรูโหว่ในจิตใจขึ้น จนต้องต้องให้คนอื่นมาเตือนสติแทนอีกที 

กลายเป็นอีกแง่มุมหนึ่งอันสำคัญ ที่เราไม่ควรลืมว่า ‘คนที่ให้กำลังใจคนอื่น’ ก็เกิดอาการภาวะซึมเศร้าและบาดแผลได้เหมือนกัน 

Chapter 4 ควันบุหรี่ที่เคล้ากับกลิ่นของคลื่นทะเล บอกว่าฉันต้องมีชีวิตต่อไป 

“ทางเดียวที่จะทำให้มองเห็นคนที่ไม่อยู่แล้ว คือเราต้องมีชีวิตต่อไป แล้วโอบกอดความทรงจำที่แสนมีค่าระหว่างเขากับตัวเราเองเอาไว้ให้ดี”

จุดหมายปลายทางของ My Broken Mariko คือพาคนอ่านไปสู่ ‘ทะเล’ หาดทรายขาว สายลม และสีฟ้าของน้ำทะเล ใช้แสดงถึงความอิสระและการละทิ้งโลกใบเก่าที่มาริโกะกับชิอิโนะฝันด้วยกันไว้ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อชิอิโนะมาถึงที่นี่คนเดียว อีกความทรงจำจากโลกใบเก่าที่เธอต้องทิ้งคือการลืมให้ได้ว่ามาริโกะจากไปแล้ว ถึงแม้จะเจ็บปวดและทำไม่ได้จริงก็ตาม 

ความคิดถึงของชิอิโนะถูกแสดงออกในรูปแบบของ ‘ควันบุหรี่’ ทุกครั้งที่จุดสูบหมายความว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่ แม้ว่าชีวิตมันจะทำลายสุขภาพเธอในทุกวัน โดยยังคงพอมีความหวังว่าชีวิตดี ๆ อาจจะรออยู่ข้างหน้าหลังจากนี้ 

Special Chapter จดหมายของคุณ Waka Hirako

ปัจจุบัน My Broken Mariko ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายโรง และวางกำหนดฉายวันที่ 30/09/2022 แถมยังปล่อยตัวอย่างฉบับเต็มออกมาให้เราได้ดูกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหมือนเขาจะสร้างโดยเก็บซีนสำคัญมาอย่างครบถ้วน และท่าทาจะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดีใจมากกับมังงะที่มีคุณภาพขนาดนี้

คุณ Waka Hirako ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Beat ถึงการที่เธอเลือกเขียนเรื่องราวของ ‘การฆ่าตัวตาย’ และ ‘ความรุนแรงในครอบครัว’ อย่างจริงจัง โดยวาดภาพเหล่านั้นอย่างละเอียดนั้น เพราะได้แรงบันดาลใจอันน่าเศร้ามาจากแม่ของตัวเอง ที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงในวัยเด็ก ซึ่งแม่ของเธอรอดมาได้ แต่ความเจ็บปวดฝังลากลึกในจิตใจจนถึงทุกวันนี้ เธอจึงอยากเป็นอีกกระบอกเสียงที่ช่วยให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นอีกสักนิด ผ่านเรื่องราวเหล่านั้น 

“ฉันหวังว่าจะได้เป็นแม่ของเธอ หรือเป็นเพื่อนที่แสนดีในวัยเด็กของแม่เหลือเกิน ฉันรู้ตัวดีว่าไม่สามารถแก้ไขอดีตได้แล้วแต่จะสามารถบอกเล่าเรื่องราวอันน่ากลัวนี้ให้คนอื่นระวังได้อย่างไรบ้าง … แล้วฉันก็เริ่มเขียนเรื่องราวของ My Broken Mariko”